Published on ประชาไท Prachatai.com (https://prachatai.com)

Home > ปรากฏการณ์ดะอ์วะฮ์ในมาเลเซียช่วงทศวรรษ 1970 > ปรากฏการณ์ดะอ์วะฮ์ในมาเลเซียช่วงทศวรรษ 1970

ปรากฏการณ์ดะอ์วะฮ์ในมาเลเซียช่วงทศวรรษ 1970

Submitted by sarayut on Wed, 2013-05-01 21:51

อัฎฮา โต๊ะสาน

 

 

 

อิสลาม มุสลิม ในสังคมมาเลเซีย

มาเลเซีย มีผู้นับถือศาสนาอิสลามราวครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมดโดยประมาณ 26 ล้านคน อิสลามมีฐานะเป็นศาสนาแห่งรัฐมาตั้งแต่มาเลเซียได้รับเอกราช รวมถึงมีความสำคัญต่อการกำหนดอัตลักษณ์ของชนพื้นเมืองมาเลเซีย ศาสนาอิสลามเริ่มแพร่หลายสู่โลกมลายูในช่วงศตวรรษที่ 14 ในบริเวณเมืองท่าต่างๆ และเริ่มที่จะเข้าไปมีบทบาทกับอำนาจรัฐเมื่อประมาณศตวรรษที่ 15 โดยเป็นช่วงเวลาที่รัฐมะละกาได้ถูกสถาปนาขึ้น และจากนั้นเป็นต้นมาอิสลามได้แพร่กระจายไปสู่โลกมลายู และมีความสำคัญผูกติดอยู่กับรัฐต่างๆ เสมอมา

ภายหลังจากได้รับเอกราชมาเลเซียก็ได้บัญญัติให้ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำในรัฐธรรมนูญของประเทศ และตั้งแต่ได้รับเอกราชเป็นต้นมา มาเลเซียได้อยู่ภายใต้การบริหารของ Barisan Nasional (แนวร่วมแห่งชาติ) เป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยที่มีพรรค UMNO เป็นแกนนำรัฐบาลมาโดยตลอด

ปรากฏการณ์ดะอ์วะฮ์ (Dawah Movement) ในมาเลเซียช่วงทศวรรษ 1970

ภายหลังการได้รับเอกราชจากอังกฤษโดยสมบูรณ์เมื่อ ค.ศ. 1957 มาเลเซียได้กลายเป็นรัฐที่ปกครองระบอบประชาธิปไตย แต่ก็มีความพยายามที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการปกครองของมาเลเซียให้เป็นไปตามระบอบของอิสลาม ความพยายามเหล่านี้เริ่มเด่นชัดในช่วงทศวรรษ 1970 หรือชื่อเรียกปรากฏการณ์ในครั้งนั้นกันอย่างทั่วไปว่า การเคลื่อนไหวในการเชิญชวน (หรือว่าปรากฏการณ์ดะวะฮ) เป็นช่วงเวลาที่การทำงาน การเผยแพร่อิสลามมีการดำเนินงานอย่างชัดเจนมากขึ้น จากปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวคือ เกิดจากเหตุการณ์วิกฤติน้ำมัน จากการที่ชาติอาหรับผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกมีมติในการลดการส่งออกน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีมูลค่าที่สูงขึ้นและได้สร้างความมั่งคั่งให้ผู้ส่งออกน้ำมัน ผลตามมาหลังจากนั้นคือ การให้การสนับสนุนจากชาติอาหรับเกี่ยวกับกิจการทางศาสนา และการสนับสนุนให้ทุนการศึกษาไปศึกษาต่อในประเทศตะวันออกกลาง

จากจุดนั้นเองส่งผลให้เกิดจำนวนผู้รู้ในทางด้านศาสนาจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าว เกิดกระบวนการศึกษาเรียนรู้ และทำให้อุดมการณ์ของอิสลามเริ่มที่จะเบ่งบานมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว การเคลื่อนไหวในกลุ่มของมุสลิมในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นไม่เพียงแต่ว่ามีวัตถุประสงค์ทางการเมืองเพียงอย่างเดียว ยังคงมีความพยายามที่จะพัฒนาสังคม และเศรษฐกิจ รวมถึงความพยายามที่จะนำอิสลามเป็นรูปแบบในการใช้ชีวิตของคนมุสลิมในมาเลเซีย

กลุ่มสำคัญ หรือขบวนการสำคัญที่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงเวลานั้นมีทั้งกลุ่มพรรคการเมืองที่ชูนโยบายจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองของประเทศมาเลเซียให้มีการใช้กฎหมายชารีอะฮ เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญในการปกครองประเทศคือ พรรค PAS (Parti Islam Semalaysia) องค์กรที่เน้นการพัฒนาและการทำธุรกรรมทางการเงินตามหลักการอิสลามเช่น ดารุล อัรกอม หรือขบวนการเยาวชน ที่ใช้ ชื่อว่า ABIM นักกิจกรรมรุ่นใหม่ที่ตื่นตัวทางด้านการเมือง และออกมาเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้มาเลเซียกลับสู่หลักการของอิสลาม นอกจากนั้นยังคงมีการเคลื่อนไหวของ ญามาอะฮ ตับลีฆ ซึ่งกลุ่มดังกล่าวนี้ได้รับการยอมรับและสามารถขยายตัวได้บริเวณชนบทของประเทศ

จากคำอธิบายของ Shamsul ได้กล่าวว่า จากการเกิดขึ้นของปรากฏการณ์ดะวะฮ์มีผลมาจากแรงผลักดัน 6 ประการด้วยกันคือ[1] [1]

1.      เพื่อรับมือกับแรงกดดันของกระบวนการทันสมัย

2.      เพื่อแสงดออกถึงความรู้สึกที่ต่อต้านจักรวรรดินิยมหรือลัทธิครองความเป็นเจ้าของตะวันตก

3.      เพื่อส่งเสริมารฟื้นฟูทางจิตวิญญาณ

4.      เพื่อต่อกรกับกระบวนการสร้างเหตุผลทางสังึมของโลกสมัยใหม่ที่ท้าทายต่อโลกทัศน์ทางศาสนาและปรัชญาแบบเดิม

5.      เพื่อแสวงหาหนทางที่จะอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยการตั้งคำถามหรือความไม่เชื่ออย่างถอนรากถอนโคน ไม่ว่าจะเป็นต่อสถาบัน ค่านิยม และศีลธรรมที่ดำรงอยู่ในสังคม

6.      เพื่อสร้างจารีตอันใหม่ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้สามารถนิยามหรือผลักดันหาอัตลักษณ์ใหม่ทางชาติพันธุ์ ศาสนาในสังคมที่มีความหลายหลายได้

 

 

พรรค PAS กับการเมืองมาเลเซีย

พรรค PAS เป็นชื่อย่อของปาร์ตี อิสลาม เซอ-มาเลเซีย ซึ่งมีความหมายว่า พรรคอิสลามแห่งมาเลเซีย การดำเนินนโยบายของพรรคก็คือ การผลักดันหลักการของอิสลามเข้าสู่รัฐธรรมนูญของประเทศ ซึ่งประสบความสำเร็จในบางพื้นที่เช่นในกลันตันในส่วนของกฎหมายให้มีการลงโทษผู้กระทำความผิดตามหลักการของอิสลาม ในส่วนการเมืองระดับประเทศ หรือในการเมืองส่วนกลาง พรรคนี้มีฐานะเป็นพรรคฝ่ายค้านของพรรครัฐบาลที่นำโดย พรรคอัมโนมาที่ครองเสียงข้างมากมาโดยตลอด โดยพรรคนี้มีฐานเสียงอยู่ที่กลันตัน และตรังกานู ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวนี้มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมลายู

อุดมการณ์ทางการเมืองแบบอิสลามที่พัฒนาขึ้น (Political Islam) ที่ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันออกกลางอย่างกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการใช้นโยบายแบบอิสลามเป็นแนวทางที่ยึดความเป็นอิสลาม ความศรัทธา และเชื่อมั่นในอิสลาม ยึดอุดมการณ์อิสลามเป็นแนวทางในการทำงาน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ก็เช่นเดียวกัน การใช้นโยบายด้านศาสนาเป็นเครื่องมือ หรือแนวทางในการขึ้นมามีบทบาททางการเมืองอย่างพรรคPAS และพรรคUMNO ความเคร่งครัดของคนมาเลเซียที่เกิดจากกระบวน การอิสลามานุวัฒน์ นับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ทำให้เกิดการแข็งขันระหว่างสองพรรคการเมือง การใช้นโยบายของการให้นิยามแก่ “แก่นแท้ของอิสลาม” ที่เหมาะสมกับมาเลเซีย[2] [2]

Political Islam ที่ได้รับความนิยมมากนี้ ส่งผลให้เกิดกระแสการฟื้นฟูอิสลาม โดยที่กลุ่มการเมืองใช้นโยบายโดยมีอุดมการณ์ทางด้านศาสนาเป็นธงนำ และเคลื่อนไหวทางการเมืองให้ประชาชนเคร่งครัดและหันมาให้ความสำคัญกับศาสนา การปฏิรูปสังคมที่นิยมแนวทางอิสลาม การสร้างคุณธรรม การสร้างสังคมที่ทันสมัย ภายใต้กรอบอิสลามไปสู่แนวทางที่ชัดเจนขึ้น

 

 

จากดารุล อัรกอมสู่ รูฟาการ์

ดารุล อัรกอม (Darul Arqam) องค์กรนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1968 โดยอุซตาซ อัชอารีย์ มูหัมมัด เป็นครูสอนศาสนา เน้นทางด้านเศรษฐกิจอิสลาม และเน้นทางด้านการขัดเกลาตัวเอง (ตัรบียะห์) มีแนวคิดของซูฟี แต่ดารุล อัรกอม ( ซึ่งถูกรัฐบาลห้ามดำเนินการเคลื่อนไหวไปในปี ค.ศ. 1994  หลังจากถูกยุติบทบาทการเคลื่อนไหว สมาชิกของดารุล อัรกอมได้ดำเนินงานของตัวเองผ่าน บริษัทรูฟากา (Rufaqa Corporation) 

โดยบริษัทรูฟากาได้ดำเนินธุรกิจทั่วทั้งประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะมีทั้งอุตสาหกรรมขนาดเล็กและขนาดกลาง เกษตรกรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งมีทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต ค้าปลีก ร้านอาหาร ร้านตัดเย็บและเสื้อผ้า บริการธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจสำนักพิมพ์หนังสือ วารสาร โรงงานเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กโทรนิค โรงงานผลิตยานยนต์ เครือข่ายธุรกิจโรงแรมและห้องพัก เป็นต้น นอกเหนือจากมาเลเซียรูฟากายังมีธุรกิจในต่างประเทศเช่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไทย ออสเตรเลีย จอร์แดน ซีเรีย อียิปต์ ฝรั่งเศส และเยอรมัน[3] [3]

 

ABIM กลุ่มปัญญาชน

ภาพของขบวนการนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองของประเทศไทย ในช่วง 14 ตุลา 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 เหล่านี้ถือเป็นสีสันทางการเมือง สำหรับการพัฒนาการศึกษาในช่วงสงครามเย็นได้เกิดกลุ่มเหล่าปัญญาชน ที่ตระหนักถึงความสำคัญต่อส่วนร่วมทางการเมือง ในมาเลเซียก็เช่นเดียวกัน เหล่าปัญญาชนได้ออกมาเคลื่อนไหวในทางการเมือง

อาบิม หรือ ชื่อเต็มจาก Angkatan Belia Islam Malaysia-ABIM เป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวโดยปัญญาชนของมาเลเซีย ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่คนหนุ่ม-สาว และนักศึกษาในมาเลเซีย สำหรับแกนนำคนสำคัญคือ อันวาร์ อิบราฮีม ซึ่งปัจจุบันดำรง ตำแหน่งหัวหน้าพรรค PKR

ปรากฏการณ์ดะวะฮ์ ที่เกิดขึ้นในสังคมมาเลเซียนั้น ถือเป็นจุดเล็กๆ จุดหนึ่งของกระแสการฟื้นฟูอิสลามในสังคมโลกยุค 1970 ซึ่งส่งผลต่อเนื่องมากระทั่งปัจจุบัน อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์ดะวะฮ์ ไม่ได้ฉายภาพเพียงแค่การฟื้นฟูอิสลามเพียงอย่างเดียว แต่ในขณะเดียวกันสิ่งเหล่านี้เป็นการแย่งชิงคำอธิบายเกี่ยวกับอิสลาม มุสลิม ในสังคมมาเลเซียอีกด้วย



[1] [4] พวงทอง ภวัครพันธุ์, “มาเลเซียกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย พินิจปัญหาจากกรอบอิสลามานุวัตรในมาเลเซีย” ในวารสารฟ้าเดียวกัน ปีที่ 5 ฉบับที่ 1 มกราคม-มีนาคม 2550

[2] [5] บทความ พวงทอง ภวัครพันธุ์, พินิจปัญหาจากกรอบอิสลามานุวัตรในมาเลซีย,ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, หน้า 1-7

[3] [6] ดูเพิ่ม http://prachatai.com/journal/2007/05/12845 [7]

 

 

ที่มา: http://www.pataniforum.com [8]

 

 

บทความ [9]
การเมือง [10]
ต่างประเทศ [11]
วัฒนธรรม [12]
ความมั่นคง [13]
Angkatan Belia Islam Malaysia-ABIM [14]
Darul Arqam [15]
Dawah Movement [16]
PAS [17]
Rufaqa Corporation [18]
ดะอ์วะฮ์ [19]
ดารุล อัรกอม [20]
มลายู [21]
มาเลเซีย [22]
มุสลิม [23]
รูฟาการ์ [24]
อัฎฮา โต๊ะสาน [25]
อิสลาม [26]

Source URL: https://prachatai.com/journal/2013/05/46514#comment-0

Links
[1] http://www.pataniforum.com/news_detail.php?news_id=144#_ftn1
[2] http://www.pataniforum.com/news_detail.php?news_id=144#_ftn2
[3] http://www.pataniforum.com/news_detail.php?news_id=144#_ftn3
[4] http://www.pataniforum.com/news_detail.php?news_id=144#_ftnref1
[5] http://www.pataniforum.com/news_detail.php?news_id=144#_ftnref2
[6] http://www.pataniforum.com/news_detail.php?news_id=144#_ftnref3
[7] http://prachatai.com/journal/2007/05/12845
[8] http://www.pataniforum.com/news_detail.php?news_id=144
[9] https://prachatai.com/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1
[10] https://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87
[11] https://prachatai.com/category/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8
[12] https://prachatai.com/category/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1
[13] https://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%87
[14] https://prachatai.com/category/angkatan-belia-islam-malaysia-abim
[15] https://prachatai.com/category/darul-arqam
[16] https://prachatai.com/category/dawah-movement
[17] https://prachatai.com/category/pas
[18] https://prachatai.com/category/rufaqa-corporation
[19] https://prachatai.com/category/%E0%B8%94%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B8%AE%E0%B9%8C
[20] https://prachatai.com/category/%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%A5-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A1
[21] https://prachatai.com/category/%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B9
[22] https://prachatai.com/category/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%A2
[23] https://prachatai.com/category/%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%A1
[24] https://prachatai.com/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C
[25] https://prachatai.com/category/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%8E%E0%B8%AE%E0%B8%B2-%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%8A%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%99
[26] https://prachatai.com/category/%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1