นักเขียนชาวอิตาลี 'อุมแบร์โต เอโก' เสียชีวิตแล้วเมื่อคืนนี้ด้วยวัย 84 ปี เขาเป็นผู้เขียน "สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ" นิยายรหัสคดีเชิงปรัชญาที่น่าติดตามเรื่องหนึ่งของศตวรรษที่ 20 - นอกจากนี้ยังเป็นผู้สอนวิชาสัญวิทยาในวันธรรมดาและเขียนนิยายเป็นอาชีพ "พาร์ทไทม์" ช่วงวันสุดสัปดาห์ โดยเขาชี้ว่าผู้ประพันธ์ต้องเขียนในสิ่งที่ผู้อ่านไม่ได้คาดหมาย

อุมแบร์โต เอโก (ซ้าย) ภาพถ่ายในปี ค.ศ. 1984 (ที่มา: วิกิพีเดีย [1]) และปกหนังสือสมัญญาแห่งดอกกุหลาบ ฉบับพิมพ์เป็นภาษาอิตาลี (ขวา) (ที่มา: anobii [2])

นักเขียนนวนิยายและปัญญาชนชาวอิตาลี อุมแบร์โต เอโก (๊Umberto Eco) ผู้เขียน "สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ" ได้เสียชีวิตแล้วเมื่อคืนวานนี้ (19 ก.พ.) หลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง ด้วยวัย 84 ปี ทั้งนี้ตามรายงานของ La Repubblica

เอโกเป็นผู้เขียนนวนิยาย "สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ" (Il nome della rosa/The Name of the Rose) หนึ่งในนิยายรหัสคดีเชิงปรัชญาที่น่าติดตามเล่มหนึ่งตีพิมพ์เป็นครั้งแรกเป็นภาษาอิตาลีในปี ค.ศ. 1980 และได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษในปี ค.ศ. 1983 โดยก่อนที่จะพิมพ์ "สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ" นั้น เขาเคยมีงานเขียนด้านอื่นที่ได้รับการตีพิมพ์มาแล้วเมื่อ 20 ปีก่อนหน้านี้

สำหรับ "สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ" เล่าเรื่องผ่านตัวละครหลักซึ่งเป็นนักบวชหนุ่มชาวเยอรมันนาม แอตโซแห่งเมลค์ ที่ได้ติดตามอาจารย์ชาวอังกฤษ วิลเลียมแห่งบาสเกอร์วิลล์ เดินทางไปยังวิหารแห่งหนึ่ง เพื่อไปไขคดีฆาตกรรมปริศนาที่เกิดขึ้นในหมู่นักบวช โดยในนวนิยายซึ่งเดินเรื่องกินเวลา 7 วัน กำหนดยุคไว้ราวศตวรรษที่ 14 นั้น นักบวชหนุ่มในเรื่องจะเป็นพยานรับรู้เหตุการณ์ระทึกขวัญมากมายที่เกิดขึ้นติดตามมา

สำหรับภาคภาษาไทยของ "สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ" แปลเป็นภาษาไทยโดย ภัควดี วีระภาสพงษ์ จากฉบับแปลภาษาอังกฤษ พิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998) โดยสำนักพิมพ์คบไฟ

นักเขียนนิยายพาร์ทไทม์ ตั้งเป้าเขียนในสิ่งที่คนอ่านไม่ได้คาดหมาย

ด้านชีวิตและวิธีคิดต่อการทำงานนั้น อุมแบร์โต เอโก เคยเป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดระหว่าง ค.ศ. 1992 - 1993 และเคยสอนสัญศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโบโลญญาของอิตาลี และครั้งหนึ่งเคยกล่าวว่าการเขียนนวนิยายเป็นเพียงอาชีพพาร์ทไทม์เท่านั้นโดยกล่าวว่า "ผมเป็นนักปรัชญา ผมเขียนนิยายเพียงช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น"

ระหว่างให้สัมภาษณ์ในงานที่จัดโดยเดอะการ์เดียนเมื่อปี ค.ศ. 2015 เอโก เคยกล่าวถึงวิธีเขียนนิยายของเขาว่า "ผมไม่รู้ว่าคนอ่านคาดหมายอะไร" "ผมคิดว่าบาร์บารา คาร์ทแลนด์ (นักเขียนนวนิยายแนวโรมานซ์ชาวอังกฤษ) เขียนในสิ่งที่ผู้อ่านคาดหมาย ผมคิดว่าผู้ประพันธ์ควรเขียนในสิ่งที่ผู้อ่านไม่ได้คาดหมาย ปัญหาก็คือไม่จำเป็นต้องถามว่าคนอ่านต้องการอะไร แต่เราต้องเปลี่ยนแปลงเขา ด้วยการสร้างผู้อ่านที่คุณต้องการในแต่ละเรื่องที่เขียน"

เอโกเกิดเมื่อ ค.ศ. 1932 ที่เมืองอาเลสซานเดรีย ในแคว้นปีเอมอนเต ทางตอนเหนือของอิตาลี และเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมแบบคาทอลิกที่ดำเนินการโดยคณะนักบวชซาเลเซียนของ ดอน บอสโก กระทั่งต่อมาเมื่อเขาเรียนที่มหาวิทยาลัยตูรินราวทศวรรษ 1950 เขาได้พัฒนาความสนใจในปรัชญาและวรรณกรรมยุคกลาง ตลอดจนเริ่มเรียนวิชาที่เกี่ยวข้องที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งในเวลานั้นเองเขาได้หันหลังให้กับแนวคิดของศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิก

หลังจบการศึกษาเขาเริ่มต้นทำงานเป็นบรรณาธิการฝ่ายวัฒนธรรมให้กับสถานีวิทยุโทรทัศน์ของรัฐบาลอิตาลี หรือ RAI และเริ่มต้นบรรยายวิชาที่มหาวิทยาลัยตูรินที่ซึ่งเขาเคยเล่าเรียนศึกษา ระหว่าง ค.ศ. 1956-1964 ทั้งนี้หนังสือของเอโกเล่มแรกได้รับการตีพิมพ์เมื่อ ค.ศ. 1956 โดยเป็นภาคต่อมาจากวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของเขา และอีก 6 ปีถัดมาเขาก็ได้แต่งงานกับ เรอแนต รัมเกอ (Renate Ramge) อาจารย์ศิลปะชาวเยอรมัน โดยทั้งคู่มีลูกชาย 1 คน และ ลูกสาว 1 คน

ทั้งนี้เอโก เสียชีวิตที่บ้านของเขาเมื่อคืนวันที่ 19 กุมภาพันธ์ โดยที่เขามีตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์เกียรติคุณของมหาวิทยาลัยโบโลญญา โดยเขาได้รับตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008

แปลและเรียบเรียงจาก

Italian author Umberto Eco dies aged 84, Kevin Rawlinson, The Guardian, 20 February 2016 00.41 GMT http://www.theguardian.com/books/2016/feb/20/italian-author-umberto-eco-dies-aged-84 [3]

Umberto Eco, Wikipedia [Retrieved 20 February 2016] https://en.wikipedia.org/wiki/Umberto_Eco [4]