ศาลอียิปต์ตัดสินลงโทษบุคคล 11 คน ข้อหาจารกรรมความลับของชาติ ในจำนวนนี้มีนักข่าว 3 รายรวมทั้งนักข่าวอัลจาซีราต้องโทษประหารแต่ทั้งหมดอยู่นอกอียิปต์ และมีนักกิจกรรม 3 รายซึ่งถูกทางการควบคุมตัวและถูกตัดสินประหาร ขณะที่อดีตผู้นำถูกตัดสินจำคุกเพิ่ม 25 ปี โดยคดีนี้ถูกวิจารณ์ว่าหวังผลทางการเมือง และทำให้อียิปต์กลายเป็นแดนอันตรายสำหรับสื่อ

(ซ้าย) อดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี และผู้ช่วยของเขาถูกศาลอียิปต์ลงโทษจำคุก 25 ปี ในข้อหาจารกรรม ขณะที่ก่อนหน้านี้เขาต้องโทษประหารชีวิตอยู่ก่อนแล้ว (ที่มา: วิกิพีเดีย [1])

(ขวา) อิบราฮิม เฮลัล อดีตผู้อำนวยการฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์อัลจาซีราภาคอาหรับถูกลงโทษประหารชีวิต โดยคำสั่งประหารชีวิตนี้เป็นการพิจารณาคดีแบบลับหลัง เนื่องจากเขาไม่ได้อยู่ในอียิปต์ นอกจากนี้ยังมีนักข่าวอีก 2 รายที่ไม่ได้อยู่ในอียิปต์ และถูกตัดสินประหารชีวิตเช่นกัน อย่างไรก็ตามในวันเดียวกันมีนักกิจกรรม 3 ราย ที่ถูกรัฐบาลอียิปต์ควบคุมตัวไว้แล้ว และถูกตัดสินประหารชีวิต (ที่มา: twitter/@iHelal2011 [2])

19 มิ.ย. 2559 ศาลอียิปต์ยืนยันคำตัดสินในคดีบุคคล 11 คน รวมถึงอดีตประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี และนักข่าวอัลจาซีรา ผู้ถูกข้อกล่าวหาว่าเผยแพร่ความลับของประเทศอียิปต์ให้กับประเทศกาตาร์

มีการตัดสินชี้ขาดโดยศาลของกรุงไคโรเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมาหลังจากตัดสินครั้งแรกก่อนหน้านี้ในเดือน พ.ค. เนื่องจากต้องนำคำตัดสินให้กับ ชาวกี อัลลาม มุฟตีสูงสุดผู้เปรียบเสมือนผู้นำฝ่ายศาสนาของอียิปต์พิจารณาลงนามตามกฎหมาย ถึงแม้ว่าความคิดเห็นของมุฟตีไม่จำเป็นต้องมีผลทางกฎหมายในอียิปต์แต่ศาลก็มักจะเคารพความเห็นของมุฟตี

ศาลตัดสินให้มอร์ซีและผู้ช่วยของเขาสองคนต้องโทษจำคุก 25 ปี ในข้อหาจารกรรม โดยที่ก่อนหน้านี้มอร์ซีต้องโทษประหารชีวิตในคดีอื่นอยู่ก่อนแล้ว ในขณะที่เลขานุการของมอร์ซี อามิน เอลซิราฟี และลูกสาวของเธอคาริมาต่างก็ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี ส่วนอิบราฮิม เฮลัล อดีตผู้อำนวยการฝ่ายข่าวสถานีโทรทัศน์อัลจาซีราภาคอาหรับถูกลงโทษประหารชีวิต โดยที่เฮลัลไม่ได้อยู่ในอียิปต์ในขณะที่เขาถูกดำเนินคดี จึงมีการพิจารณาคดีแบบลับหลัง

กลุ่มสิทธิมนุษยชนวิจารณ์ว่าข้อกล่าวหาของเฮลัลที่ว่าเขาส่งข้อมูลลับของรัฐให้กับกาตาร์นั้นเป็นคดีหลอกลวงและหวังผลทางการเมือง  ทางด้านเฮลัลกล่าวว่าเขา "ไม่พอใจ" การตัดสินในครั้งนี้และบอกว่ากระบวนการยุติธรรมที่เกิดขึ้นนี้คือการ "ปั้นน้ำเป็นตัว"

เฮลัลกล่าวว่าผู้พิพากษาเหล่านี้ตัดสินด้วยท่าทีจริงจังและดูมั่นใจมากกว่าเขาคือ "ผู้ทรยศประเทศ" แต่ "ผู้ทรยศประเทศ" จริงๆ สำหรับเฮลัลคือพวกที่เสียเวลาและเงินทองไปกับเรื่องโง่ๆ อย่างการดำเนินคดีที่กุขึ้นเองนี้ โดยที่เฮลัลชี้ว่าศาลอ้างอิง "หลักฐาน" สองอย่าง อย่างแรกเป็นหนักฐานที่อ้างจากการสืบสวนลับๆ ของตำรวจ และอีกหลักฐานหนึ่งได้มาจากคำสารภาพของคนที่ถูกไต่สวนและทารุณกรรม โดยคดีเช่นนี้ถือเป็นภัยต่อนักข่าวทั้งหมดทั้งในและนอกประเทศอียิปต์

นอกจากเฮลัลแล้วยังมีอดีตนักข่าวอัลจาซีราที่ทำงานถึงเมื่อปีที่แล้วอย่าง อะลา ซาบลาน และนักข่าวของสื่อราซซ์นิวส์เน็ตเวิร์ก อัสมา อัลกาติบ ซึ่งเป็นสื่อสนับสนุนกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยมีการพิจารณาคดีแบบลับหลังจำเลยเช่นกัน โดยที่จำเลยเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในอียิปต์

อย่างไรก็ตามในบรรดาผู้ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต ยังมี อาห์เหม็ด อะฟีฟี นักกิจกรรมทางการเมือง โมฮัมเหม็ด คิลานี พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และอาห์เหม็ด อิสมาอิล นักวิชาการ ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในการคุมขังของรัฐบาลอียิปต์

อย่างไรก็ตามการตัดสินในครั้งนี้ยังสามารถอุทธรณ์ได้ในชั้นศาลยกคำพิพากษาของอียิปต์

สตีเวน เอลลิส ผู้อำนวยการด้านการรณรงค์และการสื่อสารที่สถาบันสื่อนานาชาติกล่าวว่าเขารู้สึกผิดหวังต่อคำพิพากษานี้แต่ก็ไม่แปลกใจเมื่อพิจารณาจากบรรยากาศต่อเสรีภาพสื่อในอียิปต์แล้ว เอลลิสกล่าวอีกว่าเขาหวังว่าทั้งองค์กรตำรวจสากล (Interpol) และรัฐบาลต่างชาติจะไม่ยอมรับหมายจับส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเพราะคดีนี้เป็นคดีตบตาที่มีแรงจูงใจทางการเมืองและมีหลักฐานที่เบาบางมาก

คณะกรรมการคุ้มครองผู้สื่อข่าวเคยจัดอันดับให้อียิปต์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการคุมขังนักข่าวมากที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในประเทศที่อันตรายสำหรับนักข่าว

อัลจาซีราระบุว่าหลังจากที่พวกเขารายงานข่าวการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในเดือน ม.ค. 2011 พวกเขาก็เริ่มถูกตั้งเป้าอย่างจงใจจากรัฐบาลอียิปต์มาโดยตลอด มีการบีบให้ปิดสำนักงานและมีการจับกุมผู้สื่อข่าวหลายคนชั่วคราวในปีนั้น สตูดิโอแห่งหนึ่งของพวกเขายังเคยถูกขว้างระเบิดเพลิงใส่ในช่วงต้นปี 2556 ทั้งๆ ที่มีตำรวจดูแลอยู่ที่จัตุรัสทาห์รีย์

จนกระทั่งเกิดการรัฐประหารในเดือน ก.ค. 2556 ไม่นานนักหลังการโค่นล้มประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้ง ก็มีทหารบุกเข้าสำนักงานอัลจาซีราอาหรับในกรุงไคโรขณะออกอากาศสดเพื่อสั่งให้ยุติการออกอากาศ ในช่วงปลายปีมีการจับกุมนักข่าว 5 รายเพียงเพราะพวกเขาเป็นผู้สื่อข่าวถึงแม้ว่าการรณรงค์จากนานาชาติจะทำให้พวกเขาได้รัอิสรภาพแต่ก็ยังมีผู้สื่อข่าวอื่นๆ อีก 70 ราย อยู่ในคุก โดยที่อัลจาซีราปฏิเสธข้อกล่าวหาทุกข้อกล่าวหาที่จะเป็นการละเมิดจรรยาบรรณสื่อและปฏิเสธว่าพวกเขาไม่ได้ร่วมมือกับรัฐบาลของมอร์ซี

เรียบเรียงจาก

Egypt sentences Mohamed Morsi, Al Jazeera journalists, 18-06-2016 http://www.aljazeera.com/news/2016/06/egypt-espionage-case-160618062408884.html [3]