Published on ประชาไท Prachatai.com (https://prachatai.com)

Home > ‘ทนายวิญญัติ’ เตือนอธิบดีอัยการ เร่งสั่งฟ้องคดีกบฏ ‘สุเทพ-กปปส.’ ขีดเส้น 16 ธ.ค.นี้ > ‘ทนายวิญญัติ’ เตือนอธิบดีอัยการ เร่งสั่งฟ้องคดีกบฏ ‘สุเทพ-กปปส.’ ขีดเส้น 16 ธ.ค.นี้

‘ทนายวิญญัติ’ เตือนอธิบดีอัยการ เร่งสั่งฟ้องคดีกบฏ ‘สุเทพ-กปปส.’ ขีดเส้น 16 ธ.ค.นี้

Submitted by user007 on Wed, 2017-12-13 01:46

เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ เตือนอธิบดีอัยการ ส่งตัวผู้ต้องหาคดี สุเทพและ กปปส. ร่วมกันเป็นกบฏ เพื่อฟ้องคดี ขีดเส้น 16 ธ.ค.นี้ ย้ำหากไม่มีคืบจะกล่าวโทษหรือฟ้องศาลต่อไป ด้านอัยการแจงกำลังพิจารณาปัดประวิงสั่งฟ้อง

แฟ้มภาพ

12 ธ.ค.2560 ข่าวสดออนไลน์ [1] รายงานว่า วันนี้ ที่ห้องพิพิธภัณฑ์อัยการ ชั้น 11 สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ถ.รัชดาภิเษก วิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) ยื่นหนังสือต่อ วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ เพื่อแจ้งเตือนให้ส่งตัวผู้ต้องหาในสำนวนคดีพิเศษที่ 261/2556 หรือคดีร่วมกันเป็นกบฏในการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เพื่อฟ้องคดีและระงับการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ โดยมี ประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงาน อสส. เป็นตัวแทนรับเรื่อง

  • สกสส.ร้อง ป.ป.ช.สอบ 3 อัยการสูงสุด ปมไม่ดำเนินคดีสุเทพ-พวก ขวางเลือกตั้ง กว่า 3 ปีแล้ว [2]
  • 'ทนายวิญญัติ' เร่งอัยการสูงสุดคนใหม่สั่งฟ้อง 'สุเทพ-กปปส.' หลังกว่า 3 ปีคดีไม่คืบ [3]
  • ทนายวิญญัติ จี้ อัยการฟ้อง กปปส. ชี้ล่าช้า 3 ปี ขู่ประวิงคดีเจอฟ้อง ม.157 [4]
  • 'ทนายวิญญัติ' จี้ 'ดีเอสไอ' ส่งความเห็นคดีร่วมกันเป็นกบฏของ 'กปปส.' ชี้ 3 ปีไม่คืบ [5]

วิญญัติ กล่าวว่า ตามที่ตนยื่นหนังสือเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ขอให้อัยการเร่งพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาตามความเห็นของคณะทำงานอัยการพิจารณาสำนวนตามที่อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้อง สุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกรวม 51 คน และทราบว่าได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาคดีดังกล่าวในวันเดียวกัน ทั้งที่ อสส.ในฐานะผู้บังคับบัญชาได้มีคำสั่งและบันทึกสั่งการเมื่อวันที่ 16 ต.ค.2560 แล้ว แต่กลับไม่เร่งดำเนินการ ปล่อยให้ระยะเวลาล่วงเลยมาถึง 30 วัน เพิ่งตั้งคณะทำงาน ซึ่งระยะเวลาขอให้เร่งพิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหาจะครบกำหนดในวันที่ 16 ธ.ค.นี้

เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ กล่าวด้วยว่า ทราบจากข่าวว่าคณะทำงานมีมติเห็นควรนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องในข้อหากบฏ ก่อการร้าย และข้อหาอื่นๆ แต่ปรากฏว่าอธิบดีอัยการคดีพิเศษได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยตนเห็นว่าตามระเบียบสำนักงาน อสส.ว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ.2547 ข้อ 6 (หลักการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ) วรรคสี่ ระบุว่า ผู้บังคับบัญชาอาจเรียกสำนวนคดีที่อยู่ในเขตอำนาจมาตรวจสอบพิจารณาและดำเนินคดีเอง หรือจะมอบให้พนักงานอัยการคนใดดำเนินคดีแทนก็ได้ และในกรณีที่เห็นควรกลับความเห็นหรือกลับคำสั่งเดิมให้เสนอตามลำดับชั้นจนถึงอธิบดีเพื่อพิจารณาสั่ง เว้นแต่ความเห็นหรือคำสั่งเดิมนั้นเป็นของอธิบดี ให้เสนอ อสส.หรือรอง อสส.ผู้ได้รับมอบหมายเพื่อพิจารณาสั่ง

วิญญัติ กล่าวว่า คดีนี้ปรากฏข้อเท็จจริงคือ นันทศักดิ์ พูลสุข อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ และคณะทำงาน มีความเห็นและคำสั่งเดิมสั่งคดีไว้แล้วว่า สรุปสำนวนสมควรสั่งฟ้องแกนนำ กปปส. รวม 51 คน ตามคำแถลงข่าวเมื่อวันที่ 8 พ.ค.2557 อีกทั้งบันทึกความเห็นและคำสั่งของ เข็มชัย ชุติวงศ์ อสส. เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ยกเลิกคณะทำงานอัยการตามคำสั่งอดีต อสส.และส่งสำนวนการสอบสวนคดีนี้คืนสำนักงานคดีพิเศษเพื่อปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่

วิญญัติ กล่าวว่า ด้วยข้อเท็จจริงดังกล่าว อธิบดีอัยการคดีพิเศษย่อมไม่มีอำนาจดำเนินการใดๆ ที่ขัดต่อระเบียบได้ เพราะการจะกลับความเห็นหรือกลับคำสั่งเดิมของนันทศักดิ์ ที่มีคำสั่งไว้แล้วจะต้องเป็นอำนาจของ อสส.เท่านั้น การจะกลับความเห็นหรือคำสั่งเดิมในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏจะกระทำมิได้ ประกอบกับมีการฟ้องคดีกับผู้ต้องหา 4 ราย เป็นจำเลยที่ศาลอาญาแล้ว ทั้งเวลาล่วงเลยมากว่า 3 ปี 6 เดือนแต่ยังไม่นำตัวผู้ต้องหาที่เหลือทั้งหมดฟ้องต่อศาล มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์การทำหน้าที่แน่นอน

เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นผู้ร่วมกล่าวหากลุ่มแกนนำ กปปส. ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือตลอดเวลาเพื่อทวงถามเร่งไปยังอัยการผู้ทำหน้าที่ ทราบข่าวว่านายเข็มชัย มีคำสั่งยกเลิกคณะทำงาน ตนเห็นว่าเป็นพฤติการณ์ที่เป็นการประวิงคดีหรือไม่ เราจำเป็นต้องตรวจสอบและแจ้งเตือนอธิบดีในฐานะผู้รับสำนวนคืนกลับมาให้รีบนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 51 ราย ส่งฟ้องต่อศาลโดยเร็ว เป็นการทำหน้าที่ตามปกติอยู่แล้ว ซึ่งในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ จะครบกำหนดตามหนังสือที่ตนยื่นไว้เดิม หากไม่มีความคืบหน้าใดๆ ตนจะใช้ช่องทางตามกฎหมายกล่าวโทษหรือฟ้องศาลต่อไป

“การใช้อำนาจเพื่อผดุงความเป็นธรรมส่งฟ้องผู้ต้องหาตามมติของคณะทำงานเดิม มันง่ายยิ่งกว่าการคิดหาวิธีเลี่ยงหรือประวิงด้วยความที่ประวิงคดี มาวันนี้ด้วยความปรารถนาดีต่อองค์กรอัยการ ซึ่งควรเป็นทนายของแผ่นดินหรือจะเป็นทนายให้กับพรรคพวกใด อันนี้กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” วิญญัติ กล่าว

 

อัยการ ปัดประวิงสั่งฟ้อง

สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. [6]รายงานว่า หลังรับหนังสือจากวิญญัติแล้ว ประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอสส.กล่าวว่า คดีร่วมกันเป็นกบฏในการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะทำงาน ตามที่มีหนังสือร้องเรียนมา และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การประวิงคดีแต่อย่างใด เพราะคดีนี้มีการฟ้องคดีในส่วนของผู้ต้องหาบางรายไปแล้ว แต่ทั้งนี้เนื่องจากผู้ต้องหาได้ร้องขอความเป็นธรรมและคดีนี้ผู้ต้องหามีจำนวนมาก ส่วนรายละเอียดในเนื้อหาที่คณะทำงานพิจารณานั้น คงไม่สามารถที่จะเข้าไปก้าวล่วงได้ สำหรับวันที่ 15 ธันวาคมนี้ เป็นวันตรงกำหนดนัดที่ผู้ต้องหาต้องมารายงานตัว ส่วนหนังสือร้องเรียนนี้จะรับไว้เพื่อส่งให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษและคดีทำงานเพื่อจะได้รวมประกอบการพิจารณาสั่งคดีต่อไป

ขณะที่ วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิมายื่นคำร้องได้ในฐานะประชาชน เราก็จะพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ในฐานะผู้ทำงานตรงนี้ไม่คิดว่าเป็นการกดดันเเต่อย่างใด สำหรับในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ เป็นการนัดผู้ต้องหามาเพื่อรายงานตัวหรือฟังคำสั่งตามปกติทั่วไป ส่วนจะมีการสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องผู้ต้องหาในวันดังกล่าวหรือไม่ ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ เนื่องจากยังไม่ได้รับรายงานจากคณะทำงาน ซึ่งในระยะเวลาจากนี้คณะทำงานก็อาจจะมีการรายงานมาก็ได้ ตนก็คงจะต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา ส่วนเรื่องที่ตนมีอำนาจในการสั่งคดีหรือไม่นั้น จะต้องดูความเห็นของคณะทำงานว่าจะเสนออย่างไร และดูเหตุผลประกอบว่าอยู่ในอำนาจของใคร เนื่องจากทางอัยการก็มีกรอบในการทำงาน โดยการทำงานในแต่ละคดีทุกเรื่องเราต้องเร่งรัด เพราะมีระเบียบอยู่ อัยการต้องทำงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ในบางคดีมีผู้ต้องหาและการยื่นร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาจำนวนมาก เราก็ต้องรับฟัง

ข่าว [7]
การเมือง [8]
กปปส. [9]
วิญญัติ ชาติมนตรี [10]
สุเทพ เทือกสุบรรณ [11]
อัยการ [12]

Source URL: https://prachatai.com/journal/2017/12/74546#comment-0

Links
[1] https://www.khaosod.co.th/politics/news_666104
[2] https://prachatai.com/journal/2017/11/74154
[3] https://prachatai.com/journal/2017/10/73648
[4] https://prachatai.com/journal/2017/09/73184
[5] https://prachatai.com/journal/2017/07/72482
[6] http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=828870
[7] https://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7
[8] https://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87
[9] https://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%AA
[10] https://prachatai.com/category/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5
[11] https://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93
[12] https://prachatai.com/category/%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3