วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เผยก่อนเข้าคุย กกต. เพื่อกำหนดวันเลือกตั้งที่เหมาะสม ย้ำสามารถดำเนินการควบคู่กับงานการพระราชพิธีได้ แต่วันต้องไม่ทับซ้อนกัน ชี้วันเลือกตั้งอาจจะไม่เลื่อนก็ได้ หาก กกต. สามารถร่นระยะเวลาในการประกาศผลการเลือกตั้ง

3 ม.ค. 2562 สำนักข่าวไทย [1] รายงานว่า วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนเข้าร่วมหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ถึงการกำหนดวันจัดการเลือกตั้งที่เหมาะสมว่า รายละเอียดที่จะหารือเป็นปัญหาของรัฐบาล ที่จะไปเกี่ยวข้องกับวันเลือกตั้ง เนื่องจากงานพระราชพิธีการบรมราชาภิเษก ที่จะต้องมีลำดับของงานการพระราชพิธีทั้งก่อนวัน ระหว่าง และหลัง วันที่ 4-6 พ.ค.นี้ จะมีรายละเอียดของงานการพระราชพิธีก่อนหน้าและหลังวันที่ 4-6 พ.ค.อีกว่า 15 วัน ซึ่งเป็นขั้นตอนตามหลักราชประเพณี ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดังนั้นรายละเอียดการจะประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้เหมาะสม และสมพระเกียรติต้องมีการดำเนินพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ กกต .จะต้องรับทราบ และให้พิจารณาดูให้ดีว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะกำหนดให้วันที่ 24 ก.พ.เป็นวันเลือกตั้ง หรือจะขยับ และหากขยับออกไป จะขยับอย่างไร เพื่อให้เกิดความสะดวกทุกอย่างสอดคล้อง ขั้นตอนตามรัฐธรรมนูญและขั้นตอนของราชประเพณี 

“เรื่องวันเลือกตั้งการตัดสินอย่างไร เป็นเรื่องของ กกต. จะเป็นผู้เสนอวันเลือกตั้ง ผมไม่สามารถตอบได้ว่าจะเป็นวันใดที่เหมาะสม หรือจะต้องมีส.ส.ใหม่ มาเข้าร่วมในงานการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกด้วยหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ตอบไมได้ ในการหารือเบื้องต้นอยากให้ได้แค่วันเลือกตั้งจะเป็นวันใด หรือการจะขยับวันเลือกตั้งเป็นเดือนมีนาคมได้หรือไม่ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่จะต้องมีการคุยกัน โดยต้องอธิบายเพิ่มเติมว่าการเลือกตั้งต้องอยู่ภายในกรอบ 150 วันตามที่พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. คือ ต้องไม่เกินวันที่ 9 พ.ค.” วิษณุ กล่าว

วิษณุ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าวันเลือกตั้งและการหาเสียงไม่ได้กระทบกับงานพระราชพิธี เพราะทุกอย่างต้องเกิดความสงบเรียบร้อยอยู่แล้วตามปกติ แต่เมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้นจะต้องมีกิจกรรมที่ต้องดำเนินการทางการเมืองตามกรอบกฎหมายให้แล้วเสร็จประมาณ 10 กว่าขั้นตอน รวม 75 วัน ซึ่งหากกิจกรรมเหล่านี้ไปตรงกับงานพระราชพิธี ควรต้องเลื่อนกิจกรรมใดที่จะเหมาะสมที่สุด นั่นคือต้องเลื่อนกิจกรรมวันเลือกตั้งออกไปก่อน แล้วค่อยมาคำนวณกิจกรรมทางการเมืองไม่ให้ทับซ้อน

“มีวิธีการคือการนำปฏิทินเลือกตั้ง 24 ก.พ. มาวางแล้วเทียบวัน โดยตั้งวันเลือกตั้งเมื่อไหร่และดูวันทำกิจกรรม เพื่อดูว่าขั้นตอนของกิจกรรมการได้มาของ ส.ส.ใช้เวลากี่วัน และนำปฏิทินการจัดงานการพระราชพิธีทับลงไป ซึ่งจะทำให้กกต.และรัฐบาลมองเห็นว่ามีวันทับซ้อนเกิดขึ้น และนำปฏิทินแผ่นที่ 3 ลงไปวางทาบ เพื่อจะได้เห็นว่าหากขยับระยะเวลาแล้วช่วงใดจะเหมาะสม ซึ่งปฏิทินที่ 3 จะเป็นการขยับวันและเวลาที่เหมาะสมสำหรับการจัดการเลือกตั้ง ที่ไม่กระทบทับซ้อนกับการจัดงานการพระราชพิธี แต่ทั้งหมดจะต้องอยู่ภายในกรอบ 150 วัน ตามที่กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.กำหนดไว้ ซึ่งการขยับจะต้องทำโดยเร็วที่สุดและไม่ทับซอน ซึ่งการกำหนดวันจัดการเลือกตั้งต้องเป็นหน้าที่ของ กกต. และแม้ว่าพระราชกฤษฎีกา จัดการเลือกตั้ง ยังไม่ประกาศลงในราชกิจจาเวลานี้ ก็ยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะยังมีเวลาในการจัดการเลือกตั้งตามกรอบกฎหมาย”วิษณุ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะมีการเลื่อนเลือกตั้งได้หรือไม่ วิษณุ กล่าวว่า อาจจะไม่ขยับวันเลือกตั้งก็ได้ หาก กกต. ร่นระยะเวลาในบางขั้นตอน เช่นการประกาศและรับรองผลการเลือกตั้งได้เร็วขึ้น และจะทำอย่างไรทำเร็วได้หรือไม่ ต้องไปปรับขั้นตอนบางอย่างลง