ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด พลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำน้ำสรงพระมุรธาภิเษกและน้ำอภิเษก เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562

ที่มาภาพ: Thai PBS [1]

6 เม.ย. 2562 Thai PBS [2] รายงานว่า ตามเวลาฤกษ์ 11.52 น. เริ่มพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใน 76 จังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อนำไปทำน้ำอภิเษกและน้ำสรงพระมุรธาภิเษก เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในพิธี

แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใน 76 จังหวัด รวม 107 แหล่งน้ำ จะใช้เป็นน้ำอภิเษก อาทิ จ.กาญจนบุรี พลีกรรมตักน้ำ ณ ต้นแม่น้ำสามประสบ บริเวณโบสถ์จมน้ำ วัดวังก์วิเวการาม (เดิม) อ.สังขละบุรี

จ.สงขลา พลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดแหลมบ่อท่อ ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์

จ.ขอนแก่น พลีกรรมตักน้ำ ณ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หรือบาราย วัดกู่ประภาชัย ซึ่งเป็นบ่อดินธรรมชาติ มีตาน้ำอยู่ตรงกลาง ทำให้มีน้ำไหลซึมตลอดทั้งปี

จ.เชียงใหม่ พลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ บ่อน้ำวัดบุพพาราม อ.เมืองเชียงใหม่, อ่างกาหลวง ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง และน้ำศักดิ์สิทธิ์ ขุนน้ำแม่ปิง อ.เชียงดาว

สำหรับแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของ จ.สุพรรณบุรี ที่ประกอบด้วย สระแก้ว สระคา สระยมนา และสระเกษ รวมทั้งน้ำจากแม่น้ำ 5 สายที่เรียกว่า เบญจสุทธคงคา ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำราชบุรี จะนำมาเป็นน้ำสรงพระมุรธาภิเษก ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง และอธิบดีกรมการปกครอง เป็นประธานในพิธีพลีกรรมตักน้ำ

โดยนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีพลีกรรมตักน้ำแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสระ 4 แห่งของ จ.สุพรรณบุรี ร่วมกับนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นไปตามโบราณราชประเพณี

หลังเสร็จสิ้นพิธีพลีกรรมตักน้ำ น้ำศักดิ์สิทธิ์ในขันน้ำสาครจะถูกอัญเชิญไปเก็บไว้ในวิหารหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร วัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของ จ.สุพรรณบุรี เพื่อรอทำพิธีทำน้ำอภิเษก