Published on ประชาไท Prachatai.com (https://prachatai.com)

Home > 'แอมเนสตี้ฯ-เครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเล' จี้เอาผิดฆาตรกรและผู้อยู่เบื้องหลังฆาตรกรรม 'บิลลี่' > 'แอมเนสตี้ฯ-เครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเล' จี้เอาผิดฆาตรกรและผู้อยู่เบื้องหลังฆาตรกรรม 'บิลลี่'

'แอมเนสตี้ฯ-เครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเล' จี้เอาผิดฆาตรกรและผู้อยู่เบื้องหลังฆาตรกรรม 'บิลลี่'

Submitted by user007 on Wed, 2019-09-04 15:20

เครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเล ออกแถลงการจี้รัฐต้องเร่งหาฆาตรกรและผู้อยู่เบื้องหลังฆาตรกรรม 'บิลลี่' มาลงโทษ สร้างสวัสดิภาพและคุ้มครองครอบครัวของบิลลี่อย่างเป็นรูปธรรม แอมเนสตี้ฯ ย้ำผู้เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามมาตรฐานสากลและต้องได้รับโทษ 

4 ก.ย.2562 จากกรณี วานนี้ (3 ก.ย.62) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้าคดีการหายตัวไปของ พอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงโป่งลึก-บางกลอย ที่หายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2557 ภาพหลักฐานหนึ่งที่คือ ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร 1 ถัง เหล็กเส้น 2 เส้น ถ่านไม้ 4 ชิ้น และเศษฝาถังน้ำมัน พร้อมทั้งชิ้นส่วนกระดูก 2 ชิ้น จากที่พื้นที่ใต้น้ำบริเวณสะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน ตรวจพบสารพันธุกรรม ยืนยันว่าตรงกับ พอละจี ชีวิตแล้วโดยไม่ทราบวิธีที่ทำให้ตาย แต่นำมาเผาทำลายเพื่ออำพรางคดี อีกทั้ง ดีเอสไอ ยังได้ชี้ว่า พฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่กระทำผิดครั้งนี้เข้าข่ายลักษณะเป็นการฆาตกรรมโดยทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับนั้น

ล่าสุดวันนี้ (4 ก.ย.62) ที่ โรงแรมไมด้า ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ เครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเลในประเทศไทย ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เรียกร้องให้รัฐต้องเร่งหาฆาตรกรและผู้อยู่เบื้องหลังฆาตรกรรมมาลงโทษ สร้างสวัสดิภาพและคุ้มครองครอบครัวของบิลลี่อย่างเป็นรูปธรรม

เครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเลในประเทศไทย ซึ่งได้มาร่วมประชุมเพื่อผลักดันมติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553 และ 2 มิถุนายน 2553 ให้มีผลในเชิงปฏิบัติเพื่อปกป้องและคุ้มครองวิถีชีวิตของทุกกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในประเทศไทย ณ สถานที่แห่งนี้ ขอแถลงท่าทีและข้อเรียกร้องต่อกรณีดังกล่าว ดังต่อไปนี้

1. เราขอชมเชยและเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และองค์กรที่เป็นคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ทุกท่านที่ทุ่มเทการทำงานด้วยความมานะพยายามจนสามารถชี้วัตถุพยานหลักฐานสำคัญประกอบการสอบสวนในคดีอุ้มหาย “นายพอละจี รักจงเจริญ” หรือ “บิลลี่” อันจะมาซึ่งการคืนความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัวและชุมชน รวมถึงเครือข่ายกะเหรี่ยงและทุกกลุ่มชาติพันธุ์ที่ไม่ได้รับธรรมทั้งถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนในหลายกรณีและถูกลิดรอนสิทธิด้านต่าง ๆ

2.จากความคืบหน้าอันเกิดจากพยานหลักฐานชิ้นสำคัญดังกล่าว เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งรัดดำเนินการนำเอาตัวผู้กระทำผิดและผู้อยู่เบื้องหลังมาลงโทษ โดยเร่งด่วน และเร่งให้เร่งดำเนินคดีกรณีการวางเพลิงเผาทรัพย์ชุมชนบ้านใจแผ่นดิน-บางกลอยบนกว่า 100 หลัง รวมทั้งบ้านปู่คออี้ ซึ่งไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการใด ๆ เลย

3.เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 สิงหาคม 2553 และ 2 มิถุนายน 2553 ในคุ้มครองวิถีชีวิตกะเหรี่ยงและชาวเลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ตามคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดกรณีสิทธิชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมบ้านใจแผ่นดิน-บางกลอยบน ซึ่งบิลลี่ เป็นผู้ประสานงานในการฟ้องร้องดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจนได้รับชัยชนะในคดีศาลปกครองสูงสุด

4.เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลมีกฎหมายคุ้มครองนักปกป้องสิทธิ์มนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการออกกฎหมายว่าด้วยการกระทำทรมานและการบังคับให้หายสาบสูญ ตามหลักสากลของสหประชาชาติว่าด้วย อนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปะติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับซึ่งรัฐบาลไทยได้ลงนามแล้ว เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2555 แต่ยังไม่ได้เข้าเป็นภาคีจึงไม่มีสภาพบังคับอย่างใด

เครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเลในประเทศไทย จะได้ติดตามความคืบหน้ากรณี “บิลลี่” ถูกอุ้มหายจนพบหลักฐานสำคัญว่าเขาได้เสียชีวิตไปแล้วอย่างโหดเหี้ยม ให้ได้รับเป็นความธรรมโดยเร่งด่วน ทั้งการนำคนผิดมาลงโทษ การเยียวยาครอบครัวและออกกฎหมายคุ้มครองนักปกป้องสิทธิให้เกิดขึ้นโดยเร็วต่อไป

  • 'ถังแดง' จากบิลลี่ ย้อนปมสังหารผู้ต้องสงสัยคอมมิวนิสต์สมัยจอมพลถนอม และ 'วัฒนธรรมลอยนวลพ้นผิด' [1]
  • 'ดีเอสไอ' ชี้ 'บิลลี่' ตายแล้ว โดนฆ่าเผายัดถังอำพรางคดี ทิ้งเขื่อนแก่งกระจาน 'ดีเอ็นเอ' ยัน [2]

แอมเนสตี้ฯย้ำผู้เกี่ยวข้องต้องได้รับโทษ

เช่นเดียวกับ ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของบิลลี่ต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และแอมเนสตี้จะยืนหยัดเคียงข้างครอบครัวจนกว่าทางการไทยจะสามารถนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ

“นับเป็นสัญญาณที่ดีที่ทางการไทยสามารถนำความคืบหน้าของคดีอาชญากรรมร้ายแรงเช่นนี้มาสู่ครอบครัวของผู้เสียหายและสาธารณชนได้”

“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสืบสวนสอบสวนให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงว่าผู้กระทำและผู้ส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมครั้งนี้คือใคร และต้องนำบุคคลดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามมาตรฐานสากล”

นอกจากนั้น แอมเนสตี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางการไทยจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนบุคคลอื่นที่ถูกบังคับให้สูญหายต่อไปด้วย พร้อมย้ำว่า การออกกฎหมายเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมร้ายแรงจากการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายจะนำพาความยุติธรรมมาให้กับผู้เสียหายและครอบครัว และเป็นการประกันถึงความรับผิดของผู้กระทำและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ยั่งยืน” ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวทิ้งท้าย

ข้อมูลพื้นฐาน

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 คณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจขององค์การสหประชาชาติ (UN Working Group on Enforced  or Involuntary Disappearance -WGEID) ได้เผยแพร่รายงานประจำปี 2562 ต่อที่ประชุมใหญ่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (Human Rights Council) ระบุจำนวนผู้ถูกบังคับให้สูญหายในไทย 86 คน (เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ประมาณเกือบ 40 ราย สถานการณ์ภาคใต้ประมาณ 31 การปราบปรามยาเสพติดในภาคอีสาน รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ทางเหนือ ประมาณ 10 กว่าราย ในกรุงเทพฯ มีกรณีสมชาย นีละไพจิตร ทนง โพธิ์อ่าน และผู้สูญหายจากความขัดแย้งทางการเมือง) ซึ่ง ประเทศไทยนับเป็นประเทศที่มีผู้ถูกบังคับสูญหายเป็นลำดับ 3 ในอาเซียน รองจากฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

ข่าว [3]
การเมือง [4]
สิทธิมนุษยชน [5]
การบังคับให้สูญหาย [6]
เครือข่ายกะเหรี่ยงและชาวเล [7]
พอละจี รักจงเจริญ [8]
บิลลี่ [9]
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย [10]
ดีเอสไอ [11]
ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai

Source URL: https://prachatai.com/journal/2019/09/84165

Links
[1] https://prachatai.com/journal/2019/09/84164
[2] https://prachatai.com/journal/2019/09/84153
[3] https://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7
[4] https://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87
[5] https://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99
[6] https://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%8D%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2
[7] https://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A5
[8] https://prachatai.com/category/%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B5-%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8D
[9] https://prachatai.com/category/%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88
[10] https://prachatai.com/category/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%89-%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%A5-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2
[11] https://prachatai.com/category/%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%AD