‘พุทธิพงษ์’ จับใคร? สองคนโพสต์รูปแฟลชม็อบระบุยังไม่ถูกจับ
‘พุทธิพงษ์’ ผู้ริเริ่มศูนย์เฟคนิวส์ ลั่นจับแล้วคนโพสต์ภาพชูป้ายแฟลชม็อบ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียด ยันขอต่อสู้เพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักยิ่ง ขณะที่ ‘พิมพ์ชนก พุกสุข’ หนึ่งในผู้โพสต์ภาพระบุยังไม่ถูกจับกุม แจงไม่มีเจตนาหมิ่นทั้งสิ้น ระบุหากมีการคุกคาม เผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนขอใช้สิทธิดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้านศูนยทนายฯเผยคนโพสต์ภาพอีกคนยังไม่ถูกจับเช่นกัน
18 ธ.ค. 2562 วันนี้ เวลาประมาณ 8.30 น. เฟสบุ๊คแฟนเพจ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ [1] ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
“จากการโพสต์ภาพอันมิบังควร และทำร้ายจิตใจคนไทยทั่วทั้งแผ่นดิน ทางผมและทีมงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้รีบดำเนินการเก็บหลักฐานทางสื่อออนไลน์ต่างๆ จนล่าสุดตอนนี้ทางตำรวจได้จับกุมตัวผู้กระทำผิดแล้ว แต่ยังไม่สามารถเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และจะมีผลต่อรูปคดี ซึ่งถ้าแถลงข่าวได้เมื่อใด ผมจะรีบแจ้งทันทีครับ เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครทนได้ ผมก็เช่นกัน ขอต่อสู้อย่างที่สุด เพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของผองไทย”
ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าวยังแนบรูปภาพสองรูป หนึ่งในนั้นคือรูปภาพที่ พิมพ์ชนก พุกสุข โพสต์ในเฟสบุ๊คส่วนตัวของเธอ และหลังจากนั้นรูปภาพดังกล่าวเป็นสาเหตุให้เธอและคนที่มาคอมเมนต์ในรูปภาพของเธอบางคนถูกโจมตีอย่างหนักด้วยถ้อยคำที่รุนแรง ตามด้วยเว็บไซต์ทีนิวส์ได้ออกมาเปิดเผยชื่อนามสกุลจริง ไปจนถึงสถานที่ทำงานของเธอ มีการกระบวนการสร้างความเกลียดชังและไล่ล่าในโลกโซเชียล นำไปสู่การที่บริษัทโมโนเจนเนอเรชั่น จำกัด ที่พิมพ์ชนกทำงานอยู่ต้องออกมาแถลงว่า พิมพ์ชนกขอลาออกด้วยความสมัครใจ
อย่างไรก็ตามสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ประธานกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กแฟนเพจ “สุเทพ อู่อ้น ประธานกรรมาธิการการแรงงาน” แถลงการณ์ กรณีอาจมีความเป็นไปได้ว่ามีการบังคับพนักงานบริษัทให้ลาออก เพราะเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง
ต่อมาเวลาประมาณ 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟสบุ๊คส่วนตัว Pimchanok Puksuk หรือ พิมพ์ชนก พุกสุข ได้โพสต์โดยตั้งค่าสาธารณะชี้แจงถึงกรณีการถ่ายรูปภาพดังกล่าวว่าไม่มีเจตนาหมิ่นหรือจาบจ้วงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นภาพที่ผู้ชุมนุมสื่อถึงรัฐบาล พร้อมทั้งระบุว่า หากมีการคุกคาม การเผยแพร่ข้อมูลหรือรูปภาพที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย บิดเบือน หมิ่นประมาท สร้างความเกลียดชัง ขอใช้สิทธิในการดำเนินคดีตามกฎหมาย
“จากกรณีที่เราโดนล่าแม่มดเพราะโพสต์รูประหว่างการเข้าร่วมชุมนุมที่สกายวอล์ค เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ขอยืนยันว่าภาพดังกล่าวไม่มีเจตนาหมิ่นหรือจาบจ้วงใดๆ ทั้งสิ้น เราเห็นว่าข้อความที่ปรากฏบนกระดาษก็มีความหมายตรงตัวคือสื่อถึงรัฐบาลอย่างเดียว ตัวเราเองก็ไม่รู้จักผู้ถือป้ายเป็นการส่วนตัวด้วย ที่กดลั่นชัตเตอร์ไปนั้นเพราะรู้สึกว่าเป็นภาพที่ผู้ชุมนุมสื่อถึงรัฐบาล ไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นหรือจาบจ้วงอะไร
“การล่าแม่มดที่เกิดขึ้นอย่างหนักในเวลาไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้เราต้องระงับการใช้เฟซบุ๊คชั่วคราว เกิดการพยายามคุกคามและใช้ข้อความโจมตีที่สร้างความเกลียดชังขยายขึ้นในวงกว้าง เราขอยืนยันว่าไม่มีใครสมควรโดนล่าแม่มดเช่นนี้
“อย่างไรก็ตาม หากมีการคุกคาม การเผยแพร่ข้อมูลหรือรูปภาพที่ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย บิดเบือน หมิ่นประมาท สร้างความเกลียดชัง ขอใช้สิทธิในการดำเนินคดีตามกฎหมายนะคะ เพราะคิดว่าหากนิ่งเงียบต่อไปจะยิ่งสร้างความหวาดกลัวทั้งต่อตัวเองและต่อสังคมในวงกว้าง และเพื่อยืนยันถึงสิทธิในการแสดงออกทางการเมือง ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
“อย่าทำลายชีวิต ทำลายอนาคตกันเพียงเพราะการโพสต์รูปเพียงรูปเดียว
“ส่วนใครที่เคยส่งข้อความมาหาเรา หรือเขียนข้อความด่า ยุยง ปลุกปั่น โจมตี ข้อความอันเป็นเท็จ เราแคปไว้แล้วนะคะ” โพสต์ของพิมพ์ชนกระบุ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังพิมพ์ชนก พุกสุขว่าเกิดเหตุการณ์จับกุมตามที่ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ผู้ริเร่มแนวคิดตั้งศูนย์ต่อต้านเฟคนิวส์ระบุไว้ในเฟสบุ๊คแฟนเพจหรือไม่ พิมพ์ชนกกล่าวว่า ยังไม่เกิดเหตุจับกุมดังกล่าว และไม่ทราบว่าคนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกล่าวถึงว่าได้จับกุมแล้วคือใคร
ขณะเดียวกัน อีกภาพที่ปรากฏในโพสต์ของ พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งได้ระบุว่าบุคคลที่โพสต์ภาพดังกล่าวยังไม่ถูกจับกุมเช่นกัน