สถานการณ์ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 ได้กระตุ้นให้คนทำงานในจีนทำงานทางไกล (telecommuting) เพิ่มขึ้นถึง 6.25 เท่าในช่วงเดือน ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา

เมื่อปลายเดือน ก.พ. 2563 มีรายงานข่าวว่า 'ไป่ตู้' (Baidu ) เสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ของจีนเผยผลสำรวจว่าพนักงานบริษัทในจีนกว่าร้อยละ 60 ยังคงทำงานจากบ้านตั้งแต่หยุดช่วงเทศกาลตรุษจีน เนื่องจากบริษัทยังไม่เปิดทำการ เพื่อควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19

ไป่ตู้ระบุว่ามีการสืบค้นคำว่าการทำงานโดยใช้การสื่อสารโทรคมนาคมหรือการทำงานทางไกล (telecommuting) เพิ่มขึ้นถึง 6.25 เท่าในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะบริษัทต่าง ๆ หาทางทำให้งานสะดุดน้อยที่สุดด้วยการให้พนักงานทำงานออนไลน์แทนการมาที่ทำงาน ขณะที่ผู้ใช้บริการไป่ตู้แพน (Baidu Pan service) ซึ่งเป็นฮาร์ดไดรฟ์เสมือนจริงเหมือนกูเกิลไดรฟ์ (Google Drive) เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ในเดือน ก.พ. 2563 มณฑลกวางตุ้งใช้การทำงานทางไกลและแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์เพิ่มผลผลิตถี่ที่สุด ตามด้วยมณฑลเจียงซูและมณฑลซานตง ส่วนธุรกิจจำนวนน้อยที่เริ่มเปิดทำการแล้ว ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจด้านการศึกษา โทรคมนาคมเทคโนโลยีสารสนเทศ และบริการสุขภาพ นำโดยสำนักงานท้องถิ่นในเมืองเสิ่นหยาง เมืองชิงเต่าและนครเซี่ยงไฮ้ที่เปิดทำการแล้วกว่า 1 ใน 3

ทั้งนี้ทางการจีนสั่งขยายวันหยุดตรุษจีนจากเดิมที่หยุดตั้งแต่วันที่ 24-30 ม.ค. และสั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม มณฑล เทศมณฑลและเขตปกครองตนเองอย่างน้อย 24 แห่งจากทั้งหมด 31 แห่งแจ้งให้ธุรกิจต่างๆ ปิดจนถึงวันที่ 10 ก.พ. เป็นอย่างน้อย แต่จนถึงขณะนี้ส่วนใหญ่ยังคงไม่เปิดทำการ แม้ว่ายอดผู้ป่วยทั่วประเทศเริ่มลดลงตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.พ. 2563

ที่มาเรียบเรียงจาก
More than 60% of Chinese companies keep offices closed amid coronavirus epidemic (abacusnews.com, 27 Feb 2020) [1]