Published on ประชาไท Prachatai.com (https://prachatai.com)

Home > วิวาทะ เจษฎา vs BIOTHAI ต่อประเด็น CPTPP ไทยได้หรือเสียถ้าเข้าร่วม? > วิวาทะ เจษฎา vs BIOTHAI ต่อประเด็น CPTPP ไทยได้หรือเสียถ้าเข้าร่วม?

วิวาทะ เจษฎา vs BIOTHAI ต่อประเด็น CPTPP ไทยได้หรือเสียถ้าเข้าร่วม?

Submitted by admin666 on Tue, 2020-06-16 19:56

หลังจากอ.เจษฎาออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนการเข้าร่วม CPTPP ว่าจะทำให้ไทยมี GDP เติบโตขึ้นได้ภายหลังวิกฤติโควิด 19 และข้อตกลงดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้เกิดการผูกขาดพันธุ์พืชอย่างที่ภาคประชาสังคมกังวล มูลนิธิชีววิถีได้ออกมาโต้แย้งความคิดเห็นดังกล่าวไม่เป็นความจริง

16 มิ.ย.2563 เพจมูลนิธิชีววิถี [1] หรือ BIOTHAI ได้โต้แย้งความเห็นของ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ [2] ที่เห็นว่าจะผลดีต่ออุตสาหกรรมการเกษตรของไทยที่จะได้รับหากรัฐบาลลงนามร่วม CPTPP หรือความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก 

เจษฎามองว่าของการเข้าร่วมใน CPTPP คือทำให้จีดีพีของไทยขยายตัวได้ เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วมไปก่อนแล้ว และการลงนามในความตกลงดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้เกิดการผูกขาดขึ้นจริงเนื่องจากเห็นว่าไม่ได้ห้ามการนำเมล็ดพันธุ์ไปปลูกและยังนำไปพัฒนาพันธุ์พืชต่อได้เพียงแต่ห้ามนำเมล็ดพันธุ์ไปขายต่อโดยเทียบกับการขายแผ่นซีดีละเมิดลิขสิทธิ์

ประเด็นนี้มูลนิธิฯ แย้งว่า แม้ในประเทศที่มีบริษัทเมล็ดพันธุ์ขนาดใหญ่อย่างประเทศญี่ปุ่น เกษตรกรรายย่อยในประเทศก็ยังได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลลงนามร่วมภาคีดังกล่าวและกระทบต่อการพัฒนาสายพันธุ์พืชท้องถิ่นในประเทศอยู่ดี ซึ่งสำหรับประเทศไทยที่มีเกษตรกรรายย่อยมากถึง 7-8 ล้านคน ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งจะต่างกับประเทศที่เป็นอุตสาหกรรมเกษตรมีขนาดใหญ่และไม่ได้มีเกษตรกรรายย่อยเป็นจำนวนมากนักเช่นประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา

มูลนิธิยังได้แย้งอีกว่าการจะนำพันธุ์พืชใดไปปลูกต่อนั้นตามแนวทางข้อยกเว้นของอนุสัญญาว่าด้วยสหภาพระหว่างประเทศเพื่อคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ หรือ UPOV ที่เพิ่งออกมาเมื่อ 2560 กรณีอนุญาตให้เกษตรเก็บเมล็ดพันธุ์ใดไปปลูกต่อได้บ้างนั้น ทำได้เพียงพืชเมล็ดเล็กแต่ไม่รวมถึงไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับและผักต่างๆ และแม้จะเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวที่บริษัทได้ขอรับการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ไว้เกษตรกรจะสามารถนำไปปลูกต่อได้ก็เป็นการปลูกเพื่อยังชีพเท่านั้น แต่ไม่สามารถนำข้าวที่ปลูกมาไปขายได้

ส่วนประเด็นที่เจษฎาเห็นว่าการที่บริษัทต่างชาติจะนำพันธุ์พืชพื้นเมืองของไทยไปพัฒนาต่อได้ตาม CPTPP แต่ พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช ปี 2542 ที่ให้สิทธิแก่หน่วยงาน เอกชน หรือนักวิจัยนำพันธุ์พืชไปปรับปรุงได้อยู่แล้ว แต่บริษัทต่างชาติไม่สามารถนำพันธุ์พืชพื้นเมืองไปจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเองได้เพราะพันธุ์พืชพื้นเมืองได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายอยู่แล้ว

ประเด็นนี้ทางมูลนิธิฯ อธิบายว่ากรมวิชาการเกษตร รวมทั้งบริษัทเมล็ดพันธุ์ยักษ์ใหญ่ที่กำลังผลักดันให้ประเทศไทยเข้าร่วม CPTPP มีความพยายามยกเลิกการใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช ปี 2542 และได้ยกร่างกฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืชตามแนวทาง UPOV1991 เมื่อปี 2560 ขึ้นมารอเอาไว้แล้ว มูลนิธิฯ ยังอธิบายเพิ่มว่ายังมีการเปลี่ยนกฎหมายที่ต้องให้ผู้ขอรับการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ต้องแสดงที่มาของสารพันธุกรรมตามมาตรา 9 (3) ในกฎหมายเดิม มาเป็นเพียงแสดงข้อมูลหรือเอกสารหรือวัสดุที่จำเป็น ตามมาตรา 18 (3)ในร่างกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งมูลนิธิเห็นว่าเป็นการตัดทอนกลไกของการแบ่งปันผลประโยชน์และหลีกเลี่ยงการขออนุญาต

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเด็นความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือ CPTPP นี้ ที่ประชุมสภา เห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาผลกระทบการต่อเกษตรกร ระบบสาธารณสุขและการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐจากเข้าร่วมความตกลงดังกล่าว ซึ่งมีเพียงส.ส.พลังประชารัฐบางที่คนที่อภิปรายสนับสนุนการเข้าร่วม แต่ก็เห็นตรงกันว่าควรตั้ง กมธ. ขึ้นมาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วม โดยกมธ. นี้มีจำนวนทั้งหมด 49 คน เป็นคณะรัฐมนตรีจำนวน 12 คน และพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลรวมกัน 37 คน ซึ่งที่ประชุมมีมติให้เวลาศึกษา 30 วัน

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

CPTPP 101 : ไทยได้หรือเสีย? [3]

FTA Watch ชวนจับตา #หนึ่งเดือนนับจากนี้ การทำงานของ กมธ.ศึกษา CPTPP [4]

เปิดเอกสาร 'ผลกระทบของ CPTPP ต่อระบบสุขภาพและการสาธารณสุข' [5]

ข่าว [6]
เศรษฐกิจ [7]
คุณภาพชีวิต [8]
สิ่งแวดล้อม [9]
วิทยาศาสตร์ [10]
CPTPP [5]
เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ [11]
มูลนิธิชีววิถี(BIOTHAI) [12]
ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่เฟซบุ๊ก https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai

Source URL: https://prachatai.com/journal/2020/06/88172?ref=internal_relate

Links
[1] https://www.facebook.com/biothai.net/photos/a.467826533255873/3152634404775059/?type=3&__xts__%5B0%5D=68.ARD7efoabivPMEbMsPwVZcVBvhJgGf2pyqiWEL1TunRG1sbLNa_CMkadPQy4Ox1SSgfURA_Tvp7KunwEfUk0GVl-N1e8xHBHTAuLpC1lcHxMHEWHZy9POVVGb_3-d5yNXkWrJSb_TLBXMtZZZHLuFbgYMJu9r02rrMBBF7Brl_5BQnkhvyJcYdRys13nJHwr2RELYDpCKV4SQeBN_4_t1UIJbIFX3dqIFGB5-z8cAtQALltu4YUWHBOkgMVzTKU39bDXmmiE0-pr343VAjKGg_H2wNK2fgZDWpzRQLufcM0-qTHXFjmPfT71irfrJbO-0Sws1vZwdT1X7w2nyUT6wLfn3w&__tn__=-R
[2] https://www.facebook.com/jessada.denduangboripant/posts/1869305526533406
[3] https://prachatai.com/journal/2020/06/88106
[4] https://prachatai.com/journal/2020/06/88131
[5] https://prachatai.com/category/cptpp
[6] https://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7
[7] https://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88
[8] https://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95
[9] https://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1
[10] https://prachatai.com/category/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C-0
[11] https://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A9%E0%B8%8E%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C
[12] https://prachatai.com/category/%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%96%E0%B8%B5biothai