30 ต.ค. 2563 เว็บไซต์ AFP ตรวจสอบข้อเท็จจริง [1] ระบุว่า คำกล่าวอ้างที่ระบุว่า ไฮโก มาส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563 ว่า พระมหากษัตริย์ไทย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “ไม่ได้ทำผิดกฏหมาย” ขณะพำนักอยู่ในประเทศเยอรมนี เป็นคำกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิด เนื่องจากในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563 รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังเฝ้าติดตามพระจริยวัตรของพระมหากษัตริย์ไทยในประเทศเยอรมนี และรัฐบาลเยอรมนีจะดำเนินการทันทีหากพบการทำผิดกฏหมาย

คำกล่าวอ้างที่ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 "ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย" ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2563 และได้รับการแชร์ต่ออีกกว่า 966 ครั้ง รวมถึงคำกล่าวอ้างคล้ายๆ กันยังถูกโพสต์บนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ หลังกลุ่มคณะราษฎรเดินขบวนไปชุมนุมหน้าสถานทูตประเทศเยอรมนีประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563 ไฮโก มาส กล่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐของประเทศเยอรมนีกำลังติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างการตรวจสอบติดตามพระจริยวัตรของพระมหากษัตริย์ไทย ว่าได้มีการกระทำใดเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ ระหว่างการประทับในประเทศเยอรมนี

การแถลงข่าวดังกล่าวถูกสตรีมสัญญาณสดโดย Periscope แอปสตรีมมิ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา และได้ถูกแชร์โดยบัญชีทวิตเตอร์ของกระทรวงต่างประเทศของรัฐบาลเยอรมนีเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563

Press conference by Foreign Minister @HeikoMaas [2] and Director General of the International Atomic Energy Agency Grossi https://t.co/qjPdSshUIu [3]

— GermanForeignOffice (@GermanyDiplo) October 26, 2020 [4]

ช่วงนาทีที่ 13:10 ของคลิปวิดีโอ สามารถได้ยินเสียงของสื่อมวลชนรายหนึ่งตั้งคำถามต่อไฮโก มาส แปลเป็นภาษาไทยว่า “วันนี้มีกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นในประเทศไทย  และผู้ประท้วงก็มีการเรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมันตรวจสอบว่าพระมหากษัตริย์ไทยได้มีการกระทำใดที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ในประเทศเยอรมนี ผมคิดว่าเรื่องนี้มีการตรวจสอบต่อเนื่องมาแล้วหลายสัปดาห์และสถานการณ์นี้เลวร้ายลงหรือไม่ ตั้งแต่รัฐบาลเยอรมนีได้ถูกขอให้ความร่วมมือ?”

ไฮโก มาส ตอบว่า “ครับ เราติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด มีผู้คนที่ลงถนนเพื่อเรียกร้องสิทธิของพวกเขา และแน่นอนผมติดตามพระจริยวัตรของพระมหากษัตริย์ไทยในประเทศเยอรมนีอยู่เสมอ และถ้ามีสิ่งใดที่เรารู้สึกว่าละเมิดกฏหมาย … จะมีผลลัพธ์ตามมาทันทีแน่นอน”

Deutsche Welle สถานีวิทยุโทรทัศน์สาธารณะ ระดับนานาชาติของเยอรมนีรายงานเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2563 ว่า ไฮโก มาสกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทางการของเยอรมันจะทำการตรวจสอบพระมหากษัตริย์ไทยระหว่างการพำนักอยู่ในประเทศเยอรมนี แต่รายงานนี้ไม่ได้มีการกล่าวว่าเจ้าหน้าที่เยอรมันได้ข้อสรุปว่าพบความผิดหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่คำกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจผิดได้ถูกแชร์ออกไปทางสื่อสังคมออนไลน์ รอยเตอร์รายงานเมื่อ 29 ต.ค. 2563 ว่า ประเทศเยอรมนีออกมาชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่เชื่อว่าพระมหากษัตริย์ไทยได้ละเมิดข้อห้ามในการทรงงานทางการเมืองขณะทรงพำนักอยู่ในประเทศเยอรมนี

เว็บไซต์ AFP ตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานที่ร่วมมือกับเฟซบุ๊กในฐานะบุคคลที่สาม ในโครงการตรวจสอบข่าวและข้อมูลเท็จ โดยจะตรวจสอบเนื้อหาที่ถูกบรรจุในระบบแจ้งเตือนของเฟซบุ๊ก

เนื้อหาที่ได้รับการจัดให้เป็นข้อมูลเท็จ จะถูกลดอันดับความสำคัญในฟีดข่าวลง ซึ่งจะจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาดังกล่าวจากบุคคลทั่วไป แต่เนื้อหาที่ถูกยืนยันว่าเป็นข้อมูลเท็จจะไม่ถูกลบออกจากระบบ

งานตรวจสอบข้อเท็จจริงของ AFP ได้รับการสนับสนุนโดยตรงผ่านโปรแกรมของเฟซบุ๊ก