'สำนักข่าวชายขอบ' เผยภาพกลุ่มคนจัดส่งมอบข้าวสารและเสบียงอาหารให้แก่กองกำลังทหารพม่าที่ตั้งที่ฐานปฏิบัติการอยู่ในรัฐกะเหรี่ยงบริเวณริมแม่น้ำสาละวิน หลังถูก KNU ตัดเส้นทางลำเลียง

ที่มาภาพจากสำนักข่าวชายขอบ (คลิกดูภาพและคลิปเพิ่มเติม) [1]

20 มี.ค. 2564 สำนักข่าวชายขอบ [1]รายงานอ้างแหล่งข่าวด้านความมั่นคงว่ามีกลุ่มคนฝั่งไทยจำนวนหนึ่งได้จัดส่งมอบข้าวสารและเสบียงอาหารให้แก่กองกำลังทหารพม่าที่ตั้งที่ฐานปฏิบัติการอยู่ในรัฐกะเหรี่ยงบริเวณริมแม่น้ำสาละวิน โดยเป็นข้าวสารจำนวนอย่างน้อย 700 กระสอบ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ทหารพม่าได้ประสานมายังไทยเพื่อขอให้ส่งเสบียงเนื่องจากภายหลังการก่อรัฐประหารในพม่า ทางสหภาพชนชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union-KNU) หรือ เคเอ็นยู ได้ตัดเส้นทางลำเลียงเสบียงของหน่วยทหารพม่าที่ประจำอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในรัฐกะเหรี่ยงบริเวณชายแดนริมแม่น้ำสาละวิน

สำนักข่าวชายขอบระบุว่าปัจจุบันทหารที่ประจำการบริเวณชายแดนแถบรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นเขตในการดูแลของเคเอ็นยู ได้มีการวางฐานปฏิบัติการทหารสลับกันระหว่างทหารพม่าและทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยู ซึ่งก่อนหน้านี้ทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูได้มีการอนุญาตให้มีการลำเลียงอาหารมายังฐานทหารพม่าได้  แต่นับจากเกิดสถานการณ์ทำร้ายผู้ชุมนุมในพม่า ทำให้เคเอ็นยูประกาศที่จะให้ความคุ้มครองประชาชนของตนเอง  พร้อมกับปิดเส้นทางลำเลียงและเชื่อมต่อระหว่างฐานทหารพม่าและกองทัพจากส่วนกลาง ทำให้ทหารพม่าตามฐานปฏิบัติการต่าง ๆ ขาดแคลนเสบียงอย่างหนัก

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงระบุกับสำนักข่าวชายขอบว่า รถบรรทุกขนข้าวเหล่านี้มาจาก อ.แม่สอด จ.ตาก และหากมีหน่วยงานใดจากฝั่งไทยยอมให้มีการส่งเสบียงให้ทหารพม่าจริง คงได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเป็นการไม่สมควร เพราะเป็นปัญหาภายในพม่า ที่สำคัญคือ สังคมโลกกำลังจับตาดูการระทำอันรุนแรงที่กองทัพพม่ากำลังทำกับประชาชน ดังนั้นการส่งเบียงให้ เท่ากับเป็นการสนับสนุนให้ทหารพม่าทำร้ายประชาชน

สำนักข่าวชายขอบระบุว่าก่อนหน้านี้เคเอ็นยูทุกพื้นที่คุ้มกันผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย รวมถึงให้ที่หลบภัยกับผู้ที่เห็นต่างจากทหารพม่า แต่ไม่เปิดเผยสถานที่ ส่งผลให้หมู่บ้านเลเก่ก่อ ใกล้เมืองเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก มีทหารพม่าขอเข้าตรวจค้นช่วงดึกวันที่ 17 มี.ค. แต่ทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูไม่ยอม จนเกือบมีการปะทะ เพราะทหารพม่าขอวางกำลังพื้นที่ดังกล่าวเพิ่ม 100 นาย ทำให้ทหารกะเหรี่ยงได้เตรียมเปิดการปะทะ จนในที่สุดทหารพม่าจึงยอมถอยออกจากพื้นที่

ทั้งนี้ในบริเวณชายแดนไทยที่ติดกับฝั่งรัฐฉานก็เช่นเดียวกัน ภายหลังจากที่สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน (RCSS หรือ SSA) ที่นำโดยพลเอกเจ้ายอดศึก ได้ประกาศให้การคุ้มครองผู้ที่หลบหนีการรัฐประหารจากทหารพม่า ทำให้สถานการณ์หลายพื้นที่ตึงเครียด

พลเอกเจ้ายอดศึก กล่าวกับสำนักข่าวชายขอบว่ายังไม่มีรายงานว่าบริเวณชายแดนรัฐฉาน-ไทย มีการขนส่งเสบียงให้กับทหารพม่า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา SSA ได้ประกาศไปแล้วว่าจะให้การคุ้มครองประชาชนที่หลบหนีมาจากสถานการณ์รัฐประหารของทหารพม่า

ดูภาพและคลิปเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์สำนักข่าวชายขอบ [1]

BBC Thai รายงานทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูเผยกองทัพพม่าว่าจ้างเอกชนลำเลียงสินค้าผ่านทางไทยแทน

ต่อกรณีนี้ BBC Thai [3] รายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ด้านชายแดนไทย-พม่า จ.ตาก เปิดเผยเมื่อ 20 มี.ค. 2564 ว่าทางทหารรัฐบาลพม่า ได้ส่งข้าวสาร จำนวน 700 กระสอบ พร้อมด้วยเนื้อกระป๋อง น้ำมันพืช และใบชาแห้งถูกลำเลียงมาจากฝั่ง จ.เมียวดี พม่า เข้ามาที่ อ.แม่สอด จ.ตาก แล้วลำเลียงส่งไปที่ ริมชายหาดแม่น้ำสาละวิน บริเวณด้าน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน แล้วส่งข้ามแม่น้ำไปฝั่งพม่าทั้งนี้เพื่อส่งให้ทหารพม่ามาตามฐานปฏิบัติการริมแม่น้ำสาละวิน หลังจากนั้นจะลำเลียงด้วยเรือหางยาวไปส่งให้ทหารพม่า

การเปลี่ยนเส้นทาง เนื่องจากทหารเมียนมาไม่สามารถใช้พื้นที่จากจังหวัดผาปูน ในรัฐกะเหรี่ยง ลำเลียงไปยังพื้นที่ของทหารพม่าที่ประจำการอยู่ได้ หลังฝ่ายเคเอ็นยูได้ปิดเส้นทางไว้ทั้งหมด เพื่อป้องกันการเข้ามาจับกุมราษฎรกะเหรี่ยงที่มีกิจกรรมชุมนุมการต่อต้านการรัฐประหารอย่างต่อเนื่อง

แหล่งข่าวจากเคเอ็นยูกล่าวด้วยว่าก่อนหน้านี้พลโท โก่โก่ หม่อง แม่ทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้ ได้ประสานมายังกองทัพภาคที่ 3 ของไทยเพื่อขออำนวยความสะดวก ซึ่งทางฝ่ายไทยไม่ได้ตอบรับตกลง เนื่องจากการลำเลียงเสบียงอาหารเดินทางไปยังแม่น้ำสาละวินเป็นพื้นที่ของฝ่ายของฝ่ายพม่าที่มีกองกำลังหลายฝ่ายอยู่ จึงไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ขณะที่การขนส่งเสบียงอาหารครั้งนี้ ทางฝ่ายพม่าได้ว่าจ้างเอกชนไทยขนส่งเอง