สุวิทย์ มิ่งมล ผู้สื่อข่าวและประธานสหภาพฯ อสมท. โพสต์เฟซบุ๊กเผยสาเหตุที่ตนต้องยุติบทบาทผู้ดำเนินรายการวิทยุคลื่น FM 96.5 เผยผู้บริหารไม่พอใจที่ตนเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่พนักงาน อสมท. และเพื่อรักษาผลประโยชน์ขององค์กรจากกรณีแบ่งเงินเยียวยาคลื่น 2600 MHz

1 เม.ย. 2564 สุวิทย์ มิ่งมล ผู้สื่อข่าวการเมืองช่อง 9 MCOT HD และประธานสหภาพแรงงาน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สุวิทย์ มิ่งมล ระบุสาเหตุที่ตนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดรายการ บอกเล่า 965 ซึ่งออกอากาศทุกวันพุธ เวลา 21.00-22.00 น. ทางคลื่นวิทยุ FM 96.5 นับตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยเผยว่าได้รับคำสั่งจากผู้มีอำนาจภายในองค์กรให้ตนยุติการทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ รวมถึงยุติการทำหน้าที่เป็นวิทยากรหลักสูตรผู้ประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

สุวิทย์ เปิดเผยว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ตนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ คือ การเคลื่อนไหวในฐานะประธานสหภาพแรงงาน อสมท. กรณีการแบ่งสัดส่วนเงินชดเชยจำนวน 3,235 ล้านบาทจาก กสทช. ในการเรียกคืนคลื่นความถี่ 2600 เมกะเฮิร์ตซ์ ระหว่าง บมจ.อสมท. และบริษัท เพลย์เวิร์ค จำกัด ซึ่งไม่มีการชี้แจงที่โปร่งใสจากคณะผู้บริหารว่าการกระทำดังกล่าวถูกหรือผิดอย่างไร ทั้งยังระบุว่าการที่ตนไม่เห็นด้วยกับแนวทางของรักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท. ที่เสนอให้กระทรวงการคลังลดสัดส่วนการถือหุ้น และจะแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้เป็นเอกชน ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของความขัดแย้งระหว่างสหภาพแรงงาน อสมท. และคณะผู้บริหาร โดยสุวิทย์ระบุว่าการแปรรูป อสมท. จากรัฐวิสาหกิจไปเป็นเอกชนนั้น อาจเอื้อผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนใหญ่บางกลุ่ม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น กลุ่มทุนดังกล่าวจะสามารถซื้อหุ้น อสมท. ได้ในราคาถูก และยังได้ผลประโยชน์จากที่ดิน 50 ไร่ มูลค่านับหมื่นล้านบาท บริเวณ ถ.วัฒนธรรม ซึ่งเป็นทางผ่านของเส้นทางรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม

นอกจากนี้ สุวิทย์ ยังเรียกร้องให้รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ออกมาสื่อสารกับพนักงาน อสมท. ถึงการออกกฎระเบียบควบคุมการปฏิบัติงานไม่ให้มีการเบิกค่าล่วงเวลาหรือค่าตอบแทนอื่นใด แม้ว่าพนักงานในสังกัดจะต้องทำงานล่วงเวลาก็ตาม ซึ่งทางสหภาพแรงงานฯ ชี้ว่ากฎระเบียบดังกล่าวอาจขัดต่อกฎหมายรัฐวิสาหกิจ และเป็นการละเมิดสิทธิของพนักงาน โดยในช่วงเที่ยงของวันเดียวกันนั้น สุวิทย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เดินทางไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้พิจารณาองค์ประกอบคณะกรรมการบริษัท รวมถึงร้องเรียนต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแล บมจ.อสมท.

ทั้งนี้ สุวิทย์ กล่าวว่าตนจะต่อสู้จนถึงที่สุด ไม่ให้มีการแทรกแซงการใช้สิทธิตามกฎหมาย เพื่อรักษาเสรีภาพสื่อและสิทธิของประชาชนในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร