ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า “บีม” กราฟิกดีไซเนอร์ถูก ตำรวจระยองแจ้งข้อหาม.112 จากโพสต์ข้อความ ““พิมรี่พายขึ้นดอยครั้งเดียวเด็กมีไฟฟ้าใช้ แต่บางคนขึ้นดอยมา 70 ปี…” หลังเคยถูก ปอท.แจ้งไปแล้ว แต่รอบนี้เขาถูกแจ้งเพิ่มอีก 7 ข้อความ

ภาพจากคลิปของพิมรี่พาย [1]

2 พ.ย.2564 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน [2]รายงานว่าหลังจากตำรวจภูธรแกลง จ.ระยอง ออกหมายเรียกอรรฆพล (สงวนนามสกุล) หรือ “บีม” กราฟิกดีไซเนอร์อิสระ วัย 25 ปีเข้ารับทราบข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา14(3) พ.ศ.2560 สืบเนื่องจากถนอมศักดิ์ บุญภักดี อาจารย์มหาวิทยาลัยบูรพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีบีมจากโพสต์เฟซบุ๊ก 8 ข้อความ

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2564 บีมได้เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาตามที่กล่าวไปข้างต้นโดยบรรยายพฤติการณ์ว่าเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2564 ถนอมศักดิ์ผู้แจ้งความดำเนินคดีได้เห็นข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่เขาเชื่อว่าเป็นของอรรฆพลโพสต์ข้อความลักษณะหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาดมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีทั้งหมด 8 ข้อความและมีคนกดไลค์เป็นจำนวนมาก โดยศูนย์ทนายฯ ได้ยกตัวอย่างมา 3 ข้อความได้แก่

• เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 63 เวลา 10.42 น. ลงข้อความว่า “สลิ่มบอก ถ้านักเรียนอยากใส่แบรนด์เนม ก็ใส่ Sirivannavari Bangkok สิ // สรุปเด็กกลับไปใส่ชุดนักเรียน”
• เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 63 เวลา 19.12 น. ลงข้อความว่า “ทำไมเด็กจะใส่ไปรเวทไปโรงเรียนไม่ได้อ่ะ ทีพ่อมึงยังใส่สูทไปเดินป่าได้เลย”
• เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 64 เวลาประมาณ 12.00 น. ลงข้อความว่า “พิมรี่พายขึ้นดอยครั้งเดียวเด็กมีไฟฟ้าใช้ แต่บางคนขึ้นดอยมา 70 ปี…//ไม่พูดดีกว่า” ละมีการตอบกลับในข้อความตนเองว่า “สงสัยจะมองไม่เห็น มีตาเดียว”

อรรฆพลให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังจากพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จจึงปล่อยตัวอรรฆพลกลับโดยไม่ได้มีการควบคุมตัวและจะประสานนัดส่งตัวพร้อมสำนวนคดีให้อัยการต่อไป

ศูนย์ทนายความฯ รายงานด้วยว่าคดีนี้พนักงานสอบสวน สภ.แกลงเคยเรียกอรรฆพลไปเป็นพยานมาก่อนแล้วเมื่อวันที่ 26 มี.ค.2564

นอกจากนั้นข้อความ “พิมรี่พายขึ้นดอยครั้งเดียวเด็กมีไฟฟ้าใช้ แต่บางคนขึ้นดอยมา 70 ปี…//ไม่พูดดีกว่า” เคยทำให้อรรฆพลถูกแน่งน้อย อัศวกิตติกร ประธานศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ หรือ “ศชอ.” แจ้งความดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) มาก่อนแล้ว โดยคดีนี้อรรฆพลเพิ่งเข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปเมื่อ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา

อรรฆพลเปิดเผยกับศูนย์ทนายฯ ว่าการมารับทราบข้อกล่าวหาครั้งนี้ทำให้เขาต้องหยุดทำงานไป 1 วันและยังต้องเสียค่าเดินทางไปถึง 1,700 บาท แต่ก็ยังได้รับความช่วยเหลือค่าใช้จ่ายจากกองทุนดาตอร์ปิโด

ทั้งนี้อรรฆพลระบุว่าจากการถูกดำเนินคดีถึง 2 ครั้งทำให้เขาระวังมากขึ้นในการใช้สื่อสังคมออนไลน์แต่เขายังคงวิพากษ์วิจารณ์การเมืองและสถาบันกษัตริย์ต่อไป และเขาเห็นว่าการถูกดำเนินคดีเกิดจากการตีความไปเองของผู้กล่าวหาทั้งที่ไม่มีข้อความไหนระบุถึงกษัตริย์อย่างตรงตัว

ศูนย์ทนายฯ ยังอัพเดตสถิติผู้ที่ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 2563 มีถึง154 คน ใน 159 คดี โดยในจำนวนนี้มี 78 คดีแล้วที่มี “ประชาชน” เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี