นักศึกษา ม.ขอนแก่น ยื่นหนังสือถึงมหา’ลัย ให้ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการเข้าถึงโดยบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง

22 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ธ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. กลุ่มนักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนการกระทำโดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ ในการเข้าถึงข้อมูลบุคคล และอาจมีการส่งข้อมูลให้บุคคลภายนอก ทำการคุกคาม ที่ตึกอธิการบดี

จากกรณีการเผาครุยของบัณฑิต มข.ในวันรับปริญญา 13 ธ.ค. 2564 เพื่อเรียกร้องให้มีการสนใจถึงเป้าหมายและโอกาสการศึกษา บัณฑิตต้องรับใช้ประชาชน และมีการปราศรัยเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมทางการเมืองที่ส่วนหนึ่งเป็นศิษย์เก่า มข. และเป็นชาวอีสาน

จากนั้นได้มี ยรรยง ซึ่งเป็นศิษย์เก่า มข.และนักการเมืองท้องถิ่น นำข้อมูลส่วนบุคคลของบัณฑิตที่ได้ทำกิจกรรมเผาครุย มาโพสต์และเขียนข้อความแสดงความไม่พอใจบนเฟสบุ๊คของเขา

และต่อมาในวันที่ 14 ธ.ค. 2564 นักกิจกรรมนักศึกษาที่ได้จัดกิจกรรมข้างต้นได้พบว่ามีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตนในระบบฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัย โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องหรือได้รับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้ จึงได้รวมตัวทำกิจกรรมยื่นหนังสือถึงมหาวิทยาลัยให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หลังจากที่ยื่นหนังสือโดยมีเจ้าหน้าที่จากตึกอธิการ กลุ่มนักศึกษาที่มารวมตัวกัน ยังได้มีการกล่าวปราศรัย มีการนำภาพ ตามหา อภิชาต ไม่ระบุนามสกุล ที่มีหลักฐานว่าเป็นผู้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของนักศึกษาและมีการนำสีแดงมาราดบนหุ่นจำลองของนักศึกษาบริเวณถนนหน้าตึกอธิการ

ธนสิทธิ์ นิสยันต์ สมาชิกสภานักศึกษาคณะนิติศาสตร์ พรรคปฏิวัติ ม.ดินแดง กล่าวว่า เราไม่ได้ต้องการให้ทางอธิการช่วยเหลือ แต่ต้องการให้มีการแสดงความรับผิดชอบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของนักศึกษา ถูกล้วง ถูกเข้าถึงและถูกส่งไปถึงบุคคลภายนอก จนเกิดการล่าแม่มดนักกิจกรรมนักศึกษาได้อย่างไร มหาวิทยาลัยควรเป็นพื้นที่ๆ ปลอดภนในการแสดงออกทางความคิดเห็น แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นว่าความเป็นส่วนตัวของนักศึกษา มข.กำลังมีปัญหาจากบุคลากรในมหาวิทยาลัยเอง

ในระหว่างการทำกิจกรรมมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)และชายไม่ทราบสังกัด แต่งกายชุดลำลองมาสังเกตการณ์และถ่ายภาพ เมื่อนักศึกษารู้สึกผิดสังเกตจึงเดินเข้าไปสอบถาม ชายผู้นั้นจึงได้แสดงบัตรเจ้าหน้าที่ รปภ.ให้ดู แต่ภาพในรูปกับภาพของชายผู้นั้นเป็นคนละคนกัน

กิจกรรมสิ้นสุดเวลา 14.30 น.