สื่อพม่ารายงาน กองทัพพม่าสามารถยึดเมืองเลเก๊ะก่อ รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอิทธิพล กองพล 6 KNLA ได้แล้ว หลังสู้รบนานกว่า 3 สัปดาห์ ด้าน ผบ. KNLA เผยเตรียมระดมสรรพกำลังชิงพื้นที่คืน ด้านกองทัพภาค 3 โพสต์ข้อความ ผู้ลี้ภัยยังอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว จ.ตาก ราว 2,231 คน และสมัครใจกลับภูมิลำเนาแล้ว 8,846 คน

ภาพจากเฟซบุ๊ก ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 3 [1]

6 ม.ค. 65 สำนักข่าวเสียงประชาธิปไตยแห่งพม่า [2] (DVB) รายงานวันนี้ (6 ม.ค.) ระบุว่า กองทัพพม่าสามารถยึดเมืองเลเก๊ะก่อ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอิทธิพลของกองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNLA ทางตอนใต้ของเมืองเมียวดี ได่แล้ว หลังสู้รบนานกว่า 3 สัปดาห์ ขณะที่ผู้บัญชาการ KNLA ให้สัมภาษณ์กับ DVB ว่ากองกำลังตัดสินใจถอยออกจากเมืองดังกล่าวเอง  

ผู้บัญชาการ KNLA เผยว่า การถอยดังกล่าว เพื่อไปเตรียมตัวกับพันธมิตรฝ่ายต่อต้านกองทัพ เพื่อกลับมารบ และชิงเอาพื้นที่คืนมา 

ทั้งนี้ พลเรือนมากกว่า 14,000 คนต้องหนีภัยความไม่สงบออกนอกพื้นที่ นับตั้งแต่เมื่อ 15 ธ.ค. 64 กองทัพพม่าระดมยิงปืนใหญ่ใส่เมืองเลเก๊ะก่อ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นที่ลี้ภัยสำหรับนักการเมืองและประชาชนที่ต่อต้านการทำรัฐประหารของกองทัพพม่าเมื่อ 1 ก.พ. 64 และเมื่อ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา กองทัพพม่าใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ดังกล่าว

ราษฎรพม่ามากกว่า 5,000 คน ระบุว่าขณะนี้พวกเขาต้องลี้ภัยมาอาศัยที่พื้นที่พักพิงชั่วคราวในฝั่งไทย ขณะที่ผู้ลี้ภัยบางรายที่กลับไปบ้านของตนเองบริเวณพื้นที่สู้รบ พบว่าที่อาศัยของตนเองถูกปล้นอาหาร และสิ่งของมีค่าไปเป็นจำนวนมาก 

นับตั้งแต่การสู้รบระหว่างกองทัพพม่าและ KNLA ปะทุขึ้นมาเมื่อ 15 ธ.ค. 64 ก็มีการปะทะเกิดขึ้นทุกวันที่ทางตอนใต้ของเมืองเมียวดี ก่อนที่ไม่นานมานี้ ผู้บัญชาการกองพล 1 แห่ง KNLA แถลงบนหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า กองทัพพม่าต้องเจรจาหยุดยิงในรัฐกะเหรี่ยง

ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 3 รายงานว่า เมื่อ 5 ม.ค. 65 เวลา 18.00 น. มีผู้ลี้ภัยความไม่สงบจากเมียนมาที่หนีการสู้รับระหว่างกองทัพพม่าและ KNLA ที่เลเก๊ะก่อ ทางใต้เมืองเมียวดี มายังดินแดนไทย ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาด้วยความสมัครใจแล้ว จำนวน 8,846 คน และคงเหลือผู้ลี้ภัยในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวที่คอกวัวเมยโค้ง บ้านมหาวัน อำเภอแม่สอด จ.ตาก จำนวน 2,231 คน