ผลสำรวจพนักงานหญิง 5,000 คน จาก 10 ประเทศ โดย Deloitte Global พบกว่าครึ่งเผชิญ 'ภาวะหมดไฟในการทำงาน' และอยากลาออกจากงานเดิมเพื่อหางานใหม่ภายใน 2 ปีข้างหน้า - แต่อัตรานี้ลดลงในองค์กรที่ให้การสนับสนุน ปกป้อง และให้โอกาสก้าวหน้าในอาชีพแก่พนักงานหญิง

ที่มาภาพประกอบ: Elisa Ventur (Unsplash License) [1]

13 พ.ค. 2565 สำหรับพนักงานหญิงปรากฎการณ์ 'การลาออกครั้งใหญ่' (Great Resignation) อาจเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น พนักงานหญิงมากกว่าครึ่งจาก 5,000 คน ใน 10 ประเทศ ระบุว่าพวกเธอตั้งใจที่จะลาออกจากงานภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยระบุว่าตนเองรู้สึกว่ากำลังเผชิญกับ 'ภาวะหมดไฟในการทำงาน' (Burn-out) อยู่

จากผลสำรวจที่เผยแพร่เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย. 2565 โดยบริษัทที่ปรึกษา Deloitte Global ที่ได้ทำการสอบถามความคิดเห็นพนักงานหญิง 5,000 คน ใน 10 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, บราซิล, แคนาดา, จีน, เยอรมนี, อินเดีย, ญี่ปุ่น, แอฟริกาใต้, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ระหว่างเดือน พ.ย. 2564-ก.พ. 2565 พบว่าความเหนื่อยหน่ายเป็นตัวขับเคลื่อนอันดับต้นๆ สำหรับพนักงานหญิงที่กำลังมองหางานใหม่แทนที่งานปัจจุบัน เนื่องจากส่วนใหญ่ระบุว่าปัจจุบันนี้พวกเธอรู้สึกเครียดมากกว่าปีที่แล้ว 

อัตราดังกล่าวยิ่งแย่ลงในกลุ่มผู้หญิงที่เป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศนั้นๆ (ตัวอย่างเช่นผู้หญิงผิวสี, ฮิสแปนิก และเอเชีย ในสหรัฐฯ) เช่นเดียวกับผู้บริหารระดับกลางและพนักงานพาร์ทไทม์ รวมทั้งกลุ่มพนักงานหญิงอายุ 18-25 ปี โดยรวมแล้วผู้หญิง 1 ใน 3 กล่าวว่าพวกเธอจะหยุดทำงานเนื่องจากปัญหาสุขภาพจิต และเกือบครึ่งประเมินสุขภาพจิตของพวกเธอว่าอยู่ในระดับ "แย่/แย่มาก"

แม้ว่านายจ้างจำนวนมากพยายามที่จะทำให้ออกแบบตารางงานให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น แต่จากการสำรวจโดย Deloitte พบว่าพนักงานหญิงต่างระบุว่าพวกเธอรู้สึกว่าถูกกีดกัน แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบผสมผสานทั้งการทำงานที่ออฟฟิศสลับกับทำงานทางไกลจากที่บ้านก็ตาม

มีเพียงร้อยละ 10 ของผู้ตอบแบบสำรวจใน 10 ประเทศ กล่าวว่าพวกเธอวางแผนที่จะอยู่กับนายจ้างปัจจุบันนานกว่า 5 ปี โดยเฉพาะพนักงานหญิงและผู้บริหารระดับกลาง มีแนวโน้มต้องการที่จะเปลี่ยนงานใหม่ภายใน 2 ปีนี้

แต่กระนั้นก็ขึ้นอยู่กับองค์กรด้วยเช่นกัน จากการสำรวจพบพนักงานหญิง ร้อยละ 5 ที่ทำงานในองค์กรที่ให้การสนับสนุน ปกป้อง และให้โอกาสก้าวหน้าในอาชีพแก่พนักงานหญิง ไม่มีรายงานการมองหางานใหม่เลย และในจำนวนนี้มีเพียง ร้อยละ 3 เท่านั้นที่ระบุว่าตนเองรู้สึกว่ากำลังเผชิญกับภาวะหมดไฟในการทำงานอยู่

ที่มา
Women are burned out and want to quit their jobs: Survey (Ella Ceron, Aljazeera, 27 April 2022) [2]