ศบค. ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึง 31 ก.ค. - ไฟเขียวเปิดผับ บาร์ อาบอบนวด กำชับสวมหน้ากาก
ศบค. ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถึง 31 ก.ค. - ไฟเขียวเปิดผับ บาร์ อาบอบนวด กำชับสวมหน้ากาก ปธ.ชมรมแพทย์ชนบท ชี้ ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน น่าจะเพื่อเอื้อผู้รับเหมาจนหยดสุดท้าย
20 พ.ค.2565 สำนักข่าวไทย [1] รายงานว่า นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ว่า ที่ประชุมศบค.ขยายเวลาพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรออกไปอีก 2 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. - 31 ก.ค. 2565 เป็นการขยายครั้งที่ 18 เพื่อคงไว้ซึ่งมาตรการป้องกันและควบคุมโรคต่อไปจนกว่าจะผ่านเกณฑ์การประเมินการเป็นโรคประจำถิ่นตามที่สาธารณสุขกำหนด
ศบค.เห็นชอบปรับระดับพื้นที่สถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมโรคแบบบูรณาการ โดยมีผลในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ซึ่งจะไม่มีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(สีแดงเข้ม ) ไม่มีพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) แต่จะปรับเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง(สีเหลือง) จาก 65 จังหวัด เหลือ 46 จังหวัด และเพิ่มพื้นที่เฝ้าระวัง(สีเขียว) จำนวน 14 จังหวัด และพื้นที่สีฟ้า พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวจาก 12 เป็น 17 จังหวัด
“พื้นที่สีเหลืองเฝ้าระวังสูง 46 จังหวัด ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 1,000 คน สถานศึกษาสามารถใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติภายใต้มาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด ส่วนการเล่นกีฬา เปิดบริการได้ตามปกติ แต่การจัดการแข่งขันต้องจำกัดผู้ชม โดยกีฬาในร่ม ผู้ชมไม่เกินร้อยละ 75 กีฬากลางแจ้ง ผู้ชมตามความจุสนามและมาตรการเว้นระยะห่าง ส่วนโรงภาพยนตร์ โรงมโหรสพและการแสดงพื้นบ้านเปิดตามปกติ” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนพื้นที่สีเขียว พื้นที่เฝ้าระวังและสีฟ้า พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมและรวมกลุ่มตามความเหมาะสม ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ตามปกติ สถานที่เล่นกีฬาเปิดบริการและจัดการแข่งขันได้ตามปกติ รวมทั้งโรงภาพยนตร์และการแสดงพื้นบ้านที่สามารถเปิดดำเนินการตามปกติ ทั้งนี้ ในส่วนของสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด เปิดบริการได้วันที่ 1 มิถุนายน 2565
เดลินิวส์ [2] รายงานเพิ่มเติมด้วยว่า โฆษก ศบค. ระบุว่า ที่ประชุม ศบค. ให้สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เปิดได้ 2 พื้นที่ คือ พื้นที่สีฟ้า และสีเขียว เริ่มวันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป โดยเวลาในการเปิดบริการ จำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องไม่เกิน 24.00 น. คือเปิดได้ถึงเที่ยงคืน แม้ร้านเลิกแล้ว คนจะนั่งดื่มต่อไม่ได้ หากของเหลือให้หอบหิ้วกลับไปบริโภคที่บ้าน โดยหลังเที่ยงคืนจะไม่มีการเปิดร้านนั่งดื่ม ที่สำคัญต้องงดการใช้แก้วร่วมกัน และกิจการที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสตัว อาทิ อาบอบนวด ต้องสวมหน้ากากอนามัย
โฆษก ศบค. กล่าวว่าพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวและพื้นที่เฝ้าระวัง(พื้นที่สีฟ้าและสีเขียว) โดยให้จำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ไม่เกิน 24.00 น. เปิดบริการไม่เกิน 24.00 น. งดบริการเครื่องดื่มที่ใช้แก้วร่วมกัน งดกิจกรรมส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การให้บริการที่มีการคลุกคลีและสัมผัสใกล้ชิดกับลูกค้าจะต้องสวมหน้ากากอนามัย ส่วนผู้ให้บริการ พนักงาน นักร้อง นักดนตรีและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ วัคซีนเข็มกระตุ้น ตรวจคัดกรองความเสี่ยงพนักงานทุกวัน ตรวจ ATK พนักงานทุก 7 วัน
“ผู้รับบริการต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ วัคซีนเข็มกระตุ้น และปฏิบัติตามมาตรการ ยูนิเวอร์แซลพรีเวนชั่น ส่วนมาตรการสำหรับสถานประกอบการ ที่จะเปิดดำเนินการต้องขึ้นทะเบียนขออนุญาต จากคณะกรรมการโรคติดต่อ เพื่อประเมิน อนุญาตและติดตามกำกับอย่างใกล้ชิด” โฆษก ศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ปรับมาตรการสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร และการบริหารจัดการระบบ Thailand Pass วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ปรับลดการตรวจการเข้าราชอาณาจักร โดยผู้เดินทางที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนไม่ครบ สามารถแสดงผล Professional ATK หรือ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง ยกเลิกการกักตัวในกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับไม่ครบ และไม่มีผลตรวจ แต่เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินสามารถตรวจ Professional ATK ได้ พร้อมกันนี้ปรับการลงทะเบียน Thailand Pass เฉพาะชาวต่างชาติ ส่วนคนไทยไม่ต้องลงข้อมูลใน Thailand Pass แต่ยังคงประกันสุขภาพของชาวต่างชาติที่ 10,000 เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ ศบค. ยังผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศในกลุ่มข้าราชการ บุคลากรของรัฐและนักเรียนทุนให้สามารถเดินทางได้
“ปัจจุบันกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 แล้วร้อยละ 80 ส่วนเข็มที่สามฉีดเพียงร้อยละ 43.1 ซึ่งถือว่ายังน้อยอยู่ โดยมี 16 จังหวัด สามารถฉีดวัคซีนได้มากกว่าร้อยละ 60 ในทุกกลุ่มเป้าหมาย ต้องชื่นชมว่าทำได้ดี” โฆษกศบค. กล่าว
ปธ.ชมรมแพทย์ชนบท ชี้ ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน น่าจะเพื่อเอื้อผู้รับเหมาจนหยดสุดท้าย
วันเดียวกัน (20 พ.ค.) นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ และประธานชมรมแพทย์ชนบท โพสต์เฟซบุ๊ก [3]ระบุว่า การต่อ พ.ร.ก. ฉุกเฉินที่อ้างการควบคุมโรคโควิด ทั้งๆ ที่สถานการณ์ทุเลาลงมาก หน้าที่ปกติของภาคส่วนต่างๆ ก็ดูแลได้อยู่แล้ว ความจำเป็นในต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกจึงไม่มีเลย แต่ทำไมยังจะดันทุรังต่อ เหตุผลหนึ่งที่สังคมส่วนใหญ่ไม่รับรู้คือ งานก่อสร้างภาครัฐนั้น สามารถอ้างโควิดผ่านประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อสร้างไม่เสร็จเกินสัญญาโดยมีค่าปรับเป็น 0 บาทได้ ทำให้งานก่อสร้างถนน สะพาน อาคาร หรืออื่นใด แม้จะล่าช้ากว่ากำหนดส่งมอบเป็นปี ก็ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ โครงการล่าช้าประชาชนเสียโอกาส แต่ผู้รับเหมาชอบมาก
"ยิ่งโครงการขนาดใหญ่ ผู้รับเหมาก็ยิ่งยิ้มย่อง ขอให้ต่อ พ.ร.ก.อีก 2 เดือนก็เอา เพราะค่าปรับวันละเป็นแสนเป็นล้าน การต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 หรือ 2 เดือน มิถุนายน และหรือ กรกฎาคม ไม่มีประโยชน์ในการควบคุมโรคแล้ว แต่ต่อเพื่อประโยชน์ผู้รับเหมาทั่วไทยที่ก่อสร้างไม่เสร็จตามสัญญา สิ่งนี้คือความจริงที่รัฐบาลไม่เคยบอกประชาชน ยุติการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รัฐบาลต้องไม่เอาเปรียบประชาชน" ประธานชมรมแพทย์ชนบท โพสต์