แฟ้มภาพจากเพจปรเมศวร์-เบียร์ งามพิเชษฐ์ [1]

22 พ.ค. 2565 ผลการเลือกตั้งเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา คะแนนอย่างไม่เป็นทางการ (ณ 20.30 น.) มีดังต่อไปนี้

อันดับ 1 หมายเลข 1 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ กลุ่มเรารักพัทยา ได้ 14,633 คะแนน
อันดับ 2 หมายเลข 4 นายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร กลุ่มพัทยาร่วมใจ ได้ 12,736 คะแนน
อันดับ 3 หมายเลข 3 นายกิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย คณะก้าวหน้าพัทยา ได้ 8,794 คะแนน
อันดับ 4 หมายเลข 2 นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ ผู้สมัครอิสระ ได้ 8,794 คะแนน

มติชนออนไลน์ [2] รายงานว่าเมื่อเวลา 20.30 น. ภายหลังทราบผลการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาอย่างไม่เป็นทางการ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้สมัครหมายเลข 1 กลุ่มเรารักพัทยา เปิดเผยว่า “ขอขอบคุณชาวเมืองพัทยาทุกคนที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันนี้ ไม่ว่าจะเลือกใครก็ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือต้องการเห็นการพัฒนาเมืองพัทยาที่ดีขึ้น ดังนั้น การที่กลุ่มเรารักพัทยาได้รับความไว้วางใจจากประชาชนแบบยกทีมในวันนี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของกลุ่มเรารักพัทยา ซึ่งมีทั้งคนรุ่นใหม่ที่เปี่ยมพลังและคนรุ่นใหญ่ที่มากประสบการณ์ มาเป็นตัวแทนของคนพัทยาและขับเคลื่อนการทำงานใน 4 เป้าหมาย 15 นโยบาย ภายใต้แนวทาง “Better Pattaya ต่อยอด ต่อเนื่อง เพื่อเมืองพัทยาที่ดีขึ้น” อย่างดีที่สุดในทุกนโยบาย และพร้อมแก้ปัญหาเร่งด่วนของเมืองพัทยาขณะนี้ทันทีนับตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง”

มาตรการเร่งด่วน ที่ต้องเร่งดำเนินการ ประการแรก ก็คือเรื่องเศรษฐกิจ รายได้ ปากท้องของคนเมืองพัทยา สอง ก็คือมาตรการป้องกันและรับมือปัญหาน้ำท่วมขัง และสามคือบูรณาการความร่วมมือแก้ปัญหาการขุดเจาะสาธารณูปโภคที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนเมืองพัทยาและภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ทั้งหมดจะก้าวสู่มิติใหม่ในการแก้ปัญหา พัฒนาเมืองพัทยาให้ราบรื่นและมีดุลยภาพ ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต

“สุดท้าย ผมเชื่อมั่นว่า หลังการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว ทุกคนไม่ว่าจะเลือกพรรคใดก็จะกลับมามีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นพลังในการผลักดันพัทยาของเราให้ก้าวไปข้างหน้า โดยช่วงเวลา 4 ปีนับจากนี้ ผมพร้อมทุ่มเทสรรพกำลัง ทำให้พัทยากลับมามีความหวัง เศรษฐกิจเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยกลยุทธ์ วิสัยทัศน์ และยุทธศาสตร์การทำงานแบบมืออาชีพ สร้างเมืองพลวัตรใหม่ที่เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง เชื่อมต่อการบริหารจัดการและงบประมาณร่วมกับระดับชาติ จังหวัด และท้องถิ่น ยกระดับความเชื่อมั่นทางธุรกิจ การค้า การลงทุน ในฐานะมหานครศูนย์กลางแห่ง EEC ที่ผลประโยชน์ ตกถึงมือทุกคนได้อย่างทั่วถึง เป็นธรรม เท่าเทียม ผมพร้อมทำงานให้ทุกคนบนเจตนารมณ์การพัฒนา เพื่อให้พัทยาเป็นเมืองนานาชาติ เป็นบ้านที่น่าอยู่ และก้าวสู่เมืองแห่งโอกาสสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง” นายปรเมศวร์กล่าว