เมื่อเช้าวันที่ 30 สิงหาคม 2548 ที่ห้องประชุมระแงะ ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส พล.ท.ขวัญชาติ กล้าหาญ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.)พร้อมด้วยนายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และพล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 รับมอบตัวแนวร่วมก่อความไม่สงบในจังหวัดนราธิวาส 15 คน ประกอบด้วยจากอำเภอจะแนะ 2 คน อำเภอระแงะ 3 คน อำเภอบาเจาะ 2 คน และอำเภอสุไหงปาดี 8 คน

พล.ท.ขวัญชาติ กล่าวกับผู้ที่เข้ามอบตัวว่า ดีใจที่เห็นผู้หลงผิดแล้วคิดกลับใจเพื่อที่จะมาช่วยกันรักษาความสงบสุขให้บ้านเมือง โดยจะดูแลให้การช่วยเหลืออย่างดี และอยากให้ผู้ที่หลงผิดอีกหลายคนได้ออกมามอบตัว เพื่อทุกคนจะได้อยู่กันอย่างสันติสุข

ส่วนที่อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส พ.ท.ชาญชัย เอมอ่อน ผู้บังคับ พัน ร.132 นำตัวแนวร่วมเข้ามอบตัวอีก 2 คนได้แก่ นายมาหามะไซดี ฮายีส อายุ 36 ปี อยู่บ้านปอเนาะ หมู่ที่ 7 ตำบลปะรุลู อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ประกอบอาชีพรับจ้างกรีดยางพาราในอำเภอจะแนะ อดีตเคยเป็นทหารเกณฑ์เมื่อปี 2533 ที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ปลดประจำการเมื่อปี พ.ศ.2536 และ นายอิบรอฮิม กาเม็ง อายุ 39 ปี ชาวละหาร หมู่ที่ 3 ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ อาชีพทำสวนยางพาราและขับรถรับส่งนักเรียน และเป็นอดีตทหารเกณฑ์สังกัดกองบิน 56 ซึ่งปลดประจำการเมื่อปี พ.ศ.2532

ทั้งคู่เข้าสาบานตนเป็นแนวร่วมขบวนการมาประมาณ 1 ปีแล้วโดยมีเป้าหมายที่จะแบ่งแยกดินแดน 3 จังหวัดเป็นรัฐปัตตานี และยังมีสมาชิกที่ยังไม่มอบตัวอีกประมาณ 30 คน

นายอิบรอฮิม กล่าวว่า ถูกแกนนำก่อความไม่สงบชักชวนและข่มขู่ให้เป็นแนวร่วม แต่เมื่อรู้ว่าเป็นกลุ่มขบวนการก่อการร้ายก็รู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงติดต่อขอเข้ามอบตัวกับทางทหาร

นายมาหามะไซดี กล่าวว่า เข้าเป็นแนวร่วมขบวนการเพราะถูกข่มขู่จากแกนนำคนหนึ่ง ประมาณ 6 เดือนเศษแล้ว แต่ยังไม่เคยสาบานตน ส่วนสาเหตุที่มอบตัวเพราะกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและต้องการเป็นคนดีเพื่อช่วยเหลือสังคม

สำหรับผู้เข้ามอบตัวทั้ง 15 คน จะถูกนำตัวไปฝึกอบรมขัดเกลาจิตใจที่โรงเรียนเสริมสร้างสันติสุข ค่ายพระปกเกล้า อำเภอเมืองสงขลา