เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2548 พล.ท.
พล.ท.ขวัญชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในพื้นที่ออกประกาศให้กลุ่มก่อความไม่สงบออกมาต่อสู้ทางสันติ โดยกำหนดไว้ 2 แนวทาง คือ ทางกฎหมายสำหรับผู้ที่มีหมายจับแล้ว และผู้ที่มีแนวคิดที่ไม่ตรงให้เข้ามาแสดงตนเป็นผู้ร่วมเสริมสร้างสันติสุข
พล.ท.ขวัญชาติ กล่าวว่า เฉพาะที่จังหวัดปัตตานีที่มีการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านความไม่สงบของบ้านตูปะ ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ ถือว่ามีความพร้อมใจกันทั้งหมู่บ้าน สมบูรณ์ที่สุด ดีกว่าการออกมามอบตัว
พล.ท.ขวัญชาติ กล่าวอีกว่า จากนั้นจะเข้าไปช่วยเหลือพัฒนาต่อไป ส่วนการออกมามอบตัวจะไม่บังคับ แต่จะเปิดโอกาสให้ออกมาด้วยความสมัครใจ และหลังจากสิ้นสุดการออกมามอบตัวแล้วจะใช้พระราชกำหนดเข้าไปกดดันเป็นรายๆ ไป ที่มีรายชื่อไว้บางส่วน ระดับแกนนำมีหมายจับไปแล้ว 54 คน และแบ่งชุดติดตามกดดันเพื่อให้ออกมาดำเนินการทางกฎหมายให้ได้ ซึ่งได้ควบคุมตัวมาได้แล้วหลายราย บางคนยังหาตัวไม่เจอ แต่ก็เข้าไปติดตามกดดันในแต่ละจุดโดยต่อเนื่อง ทำให้เขาขาดความเสรีในการออกปฏิบัติการก่อความไม่สงบ
พล.ท.ขวัญชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มที่หลบหนีไปต่างประเทศ ก็เป็นยุทธศาสตร์ของระดับการต่างประเทศเขาจะดำเนินการซึ่งจะมีอีกหน่วยงานหนึ่งที่เข้าไปดำเนินการด้านการต่างประเทศ ส่วนข่าวที่ว่ามีกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติเข้ามาในพื้นที่นั้นก็มีเป็นระยะๆ บางครั้งก็เป็นคำขู่หรือข่าวลอย แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ประมาท เจ้าหน้าที่การข่าวทุกฝ่ายก็ติดตามต่อเนื่องอยู่แล้ว สำหรับเรื่องมาตรการดูแลความปลอดภัยผู้ออกมามอบตัวและญาตินั้น มีวิธีการดูแลทั้งทางลับและเปิดเผย
พล.ท.ขวัญชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุการณ์ที่ยังเกิดอยู่นั้น คงมุ่งหวังที่จะข่มขู่พวกที่จะออกมามอบตัว หรือข่มขู่เจ้าหน้าที่ เป็นการออกมาแสดงว่ามีกำลังอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเป็นการประกาศตัวที่ชัดเจนว่าในพื้นที่นั้นยังมีกำลังอยู่ เราจะได้เข้าไปติดตามโดยต่อเนื่อง มีมาตราการณ์ด้านการข่าวเข้าพื้นที่อยู่แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอสุไหงปาดี ,ระแงะ ,จะแนะ และเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เป็นพื้นที่ที่ต้องเพ่งเล็งเป็นพิเศษ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)