Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 15 ก.ย. 2549 ตำรวจภาค 9 เตรียมขย้ำธุรกิจมืด จ้องยึดทรัพย์กว่า 200 ล้าน สงสัยส่งเงินช่วยขบวนการป่วนใต้ เร่งเตือนภัยทุกหน่วยงานอีกรอบ ระวัง 16 - 20 กันยาฯ 5 วันอันตราย เค้น 5 ผู้ต้องหาบึ้มแบงก์ หวังขยายผลสารพัดคดีก่อความไม่สงบ


 


เตรียมยึดทรัพย์นักธุรกิจหนุนป่วนใต้


พล.ต.ต.ปัญญา เทียนศาสตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่ามีกลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น ค้าของเถื่อน ยาเสพติด และบ่อนการพนัน เข้าไปเชื่อมโยงสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ โดยเงินที่ได้จากการทำธุรกิจผิดกฎหมาย จะถูกนำไปฟอกในประเทศเพื่อนบ้าน หรือทำธุรกิจถูกกฎหมายบังหน้า


 


"ขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลบัญชีเงินฝากในธนาคาร ทรัพย์สินที่มีอยู่ทั้งหมดของผู้ต้องสงสัย หากมีหลักฐานชัดเจน จะขออนุมัติจับและยึดทรัพย์ ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นมีมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท เพื่อตัดตอนเส้นทางของเงิน ที่นำไปสนับสนุนผู้ก่อความไม่สงบ" พล.ต.ต.ปัญญา กล่าว


 


เตือนภัยป่วนใต้16-20กันยาฯ


ขณะเดียวกัน กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีคำสั่งเตือนหน่วยงานใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระวังป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ระหว่างวันที่ 16 - 20 กันยายน 2549 โดยเฉพาะวันที่ 16 กันยายน 2549 ซึ่งเป็นวันสถาปนาขบวนการมูจาฮีดินอิสลามปัตตานี


 


รายงานข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคงแจ้งว่า ขณะนี้มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนำระเบิดประกอบแล้ว จากชายแดนมาเลเซียเข้ามาซุกซ่อนไว้ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดละ 50 ลูก และพบสมชิกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่อาศัยอยู่ตามรอยต่อจังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานีกว่า 20 คน เดินทางไปที่อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา


 


ค้นร้านคอมพ์ยะลาล่ามือบึ้มแบงก์


เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 14 กันยายน 2549 พ.ต.อ.สฤษฏ์ชัย อเนกเวียง หัวหน้าชุดสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจส่วนหน้า จังหวัดยะลา นำกำลังเข้าตรวจค้นห้างหุ้นส่วนจำกัดไมโครเน็ตคอมพิวเตอร์ ถนนภูมาชีพ ตลาดใหม่ ในเขตเทศบาลนครยะลา เพื่อหาหลักฐานการเชื่อมโยงกับคอมพิวเตอร์ที่ยึดมาจากบ้านเลขที่ 90 ถนนสิโรรส อำเภอเมืองยะลา ซึ่งเป็นของผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดธนาคารกสิกรไทย สาขายะลา เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2549 เนื่องจากพบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ยึดมาจากบ้านผู้ต้องสงสัย ซื้อมาจากร้านดังกล่าว ผลการตรวจสอบยังไม่พบข้อมูลมากนัก


 


สำหรับความคืบหน้าของคดี ภายหลังจากจับกุมนายซุลกิฟลี อาแว ผู้ต้องหาระเบิดธนาคารกสิกรไทย สาขายะลา ได้ที่บ้านพักเลขที่ 182 หมู่ที่ 6 บ้านกะลุบี ตำบลสากอ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส และขยายผลจับนักศึกษาโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จังหวัดยะลา ที่บ้านพักย่านตลาดเก่า 5 คน ประกอบด้วย นายแวอิสมาแอ แวสือนิ นายมุยุฟลี ยะแวโซ นายซอและห์ ซาเร๊ะบากอ นายฮานาฟี แวสือนิ และ นายไซนาอาซีเซ็ง สาและ พร้อมกับยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ซื้อมาจากห้างหุ้นส่วนจำกัดไมโครเน็ตคอมพิวเตอร์ได้ 1 เครื่อง


 


ในส่วนของนายซุลกิฟลี อาแว รับสารภาพว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิดธนาคารจริง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขยายผลว่า มีใครร่วมก่อเหตุในธนาคารอื่นๆ อีก 22 จุด ส่วนนายมุยุฟลี ยะแวโซ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ตรวจสอบพบว่ามีหมายจับในคดียิง จ.ส.ต.ประพนธ์ สุวรรณโกตา ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ค่ายพญาลิไท เสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2549


 


เช่นเดียวกับนายรุสลี หรือรอซาลี ลิแจ ที่มีหมายจับของสถานีตำรวจภูธรตำบลโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ในคดีลอบยิงนายอาแว บือราเฮง แพทย์ประจำตำบลโกตาบารู เมื่อต้นปี 2549 ที่ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างสอบสวนขยายผลว่า ใครเป็นผู้จ้างวานและอยู่เบื้องหลัง


 


จากการสอบสวนของพนักงานขยายผลที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวสจแห่งชาติส่วนหน้า จังหวัดยะลา ปรากฏว่า นายอาพันดี อีซอมูซอ 1 ใน 5 ผู้ต้องหา และเป็นเจ้าของบ้านที่ตำรวจบุกเข้าจับกุม 5 ผู้ต้องหา สารภาพว่ากำลังรอคำสั่งมอบงานก่อเหตุร้าย ขณะที่นายมะกือรี เด็งสาแม จากการสอบสวนพบว่า เป็นน้องชายของนายอุสมัน เด็งสาแม ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีความมั่นคง และมีรางวัลนำจับ 1 ล้านบาท


 


สำหรับอาวุธปืน อาก้า และปืนพกสั้น ขนาด .38 ที่ยึดได้ในระหว่างจับกุม พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจรามัน มอบให้กองกับการวิทยาการ 45 จังหวัดยะลา นำไปยิงตรวจสอบปลอกกระสุนว่า เคยก่อเหตุที่ใดบ้าง โดยเน้นเปรียบเทียบปลอกกระสุนที่เก็บได้จากเหตุการณ์ระเบิดและยิงถล่มอาสาสมัครรักษษดินแดน ชุดคุ้มครองครูโรงเรียนบ้านบูเกะบือราแง ตำบลอาซ่อง ที่มีผู้เสียชีวิต 5 ศพ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2549 และลอบยิงตำรวจสถานีตำรวจภธรตำบลโกตาบารู บนถนนสายโกตาบารู - โต๊ะปาแกะ ขณะกลับจากเข้าเวรรักษาความปลอดภัยสถานีรถไฟไม้แก่น เสียชีวิต 2 ศพ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัดเดียวกันที่เข้าเวรที่สถานีรถไฟไม้แก่นเสียชีวิตอีก 1 ศพ


 


กราดอาก้าถล่มหนุ่มเจาะไอร้องร่างพรุน


เวลา 06.30 น. วันเดียวกัน ขณะที่นายซัมรี หะยีดอเลาะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ถนนจารุเสถียรบ้านยานิง หมู่ 2 ตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ขับจักรยานยนต์กลับจากดื่มน้ำชาภายในหมู่บ้าน มาถึงหน้าบ้านพัก มีคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยานยนต์ประกบจากด้านหลัง ใช้อาวุธปืนอาก้ากราดยิงใส่เข้าที่บริเวณลำตัวหลายนัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนอาก้ากว่า 20

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net