ประชาไท - เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ต.ค.2549 ที่ห้องประชุมกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พล.อ.
พล.ท.
"ส่วนกรณีที่มีการส่งสัญญาณจากฝ่ายตรงข้ามว่า พร้อมจะเจรจาเพื่อนำสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมจะชี้แจงในโอกาสต่อไป เนื่องจากบางเรื่องไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่ามีตัวแทนติดต่อส่งสัญญาณมา เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น โดยเฉพาะการที่รัฐบาลชุดใหม่ประกาศชัดว่าให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้" พล.ท.วิโรจน์
พล.อ.องค์กร กล่าวว่า แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ เคยปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาก่อน เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาความไม่สงบได้แน่นอน
"สุรยุทธ์" ยันต้องรอนโยบายรัฐเปิดทางเจรจา
พล.อ.
อย่างไรก็ตาม พล.อ.
ผู้สื่อข่าวถามว่า เชื่อมั่นหรือไม่ว่าสถานการณ์จะทุเลาลง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า หากจะพูดว่าเชื่อ คงไม่ได้ แต่ได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากผู้ใหญ่จำนวนมากที่แสดงความร่วมมือ และแสดงน้ำใจอยากจะเข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องบ่งชี้ที่ดีว่าความร่วมมือน่าจะเกิดขึ้นได้
ส่วนแนวโน้มเรื่องการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ยังเป็นเรื่องที่ต้องรอนโยบาย และคิดว่าอาจจะเร็วเกินไปที่จะพูดในส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม มีการประสานเพื่อขอเจรจากับเจ้าหน้าที่รัฐบ้างหรือไม่นั้น ในส่วนของตนยังไม่มีเพราะยังไม่ได้ลงไปลึกขนาดนั้น เพียงแต่พูดคุยกับคนที่รู้จักและร่วมงานกัน และกรณีที่คนในพื้นที่เสนอแนะว่าน่าจะมีการเจรจาก็เป็นเรื่องที่จะต้องหารือกัน ไม่ใช่เรื่องของตนเพียงคนเดียวใต้
นักวิชาการ "มอ." หนุนเจรจาลับ
ผศ.ดร.
กกร.เร่งออกร่างเขตเศรษฐกิจเฉพาะกิจช่วยนักลงทุน3จังหวัด
นาย
ผู้ว่านราฯ แนะเลิกค่าเสี่ยงภัย
นาย
นายประชา กล่าวว่า ค่าเสี่ยงภัยกลายเป็นการสร้างความขัดแย้งให้ข้าราชการในพื้นที่ เพราะเลือกให้บางหน่วยงานเท่านั้น ส่วนใครที่เห็นว่าเมื่อเป็นข้าราชการแล้วต้องมีค่าเสี่ยงภัย เพราะไม่มั่นใจในชีวิตและทรัพย์สินก็ให้ลาออกไปเลย อยากให้รัฐบาลนำเงินค่าเสี่ยงภัยนั้นมาจ้างเยาวชนที่ว่างงานในพื้นที่ดีกว่า เพราะมีความจำเป็นมากกว่า เป็นการแก้ปัญหาเยาวชนถูกล่อลวงให้ก่อเหตุความไม่สงบ
แฉซ้ำรัฐบาลเก่าเล่นเส้นโยกตำแหน่งข้าราชการ
"รัฐบาลชุดที่ผ่านมาขาดความเป็นธรรม โดยเฉพาะการโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการ เพราะมีการยึดหลักเส้นสายและญาติพี่น้อง จึงขอฝากรัฐบาลใหม่ให้เน้นความเป็นธรรมมากที่สุด ทั้งการบริหารประเทศและการดูแลข้าราชการในสังกัด" นายประชากล่าว
นายประชา กล่าวต่อว่า ขอให้แก้ปัญหาปัญหาด้านการศึกษาของเยาวชนในพื้นที่ด้วย โดยให้จัดระบบการศึกษาทางด้านศาสนาเข้ามารวมกับสามัญในโรงเรียนของรัฐบาล จะทำให้รัฐบาลดูแลเด็กและเยาวชนในพื้นที่ได้ง่าย ไม่มีการนำคำสอนทางศาสนาไปบิดเบือนเหมือนปัจจุบัน สภาพการศึกษาที่เป็นอยู่เป็นปัญหาแรกที่ทางภาครัฐควรเข้ามาช่วยเหลือ และแก้ไขระบบที่เป็นอยู่ เพราะปัจจุบันถือเป็นสิ่งแรกที่จะทำให้เยาวชนประพฤติไปในทางที่ผิดและอาจถูกชักจูงง่าย
สั่งรปภ.เข้มช่วงปิดเทอม
พล.ต.ต.
นาย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)