รายงานพิเศษ : ขบวนการอนาธิปไตยสีเขียวที่เยอรมัน กับการต่อต้านขยะนิวเคลียร์
วิทยากร บุญเรือง
ท่ามกลางการพัฒนาอุตสาหกรรมบนโลกที่พลังงานเป็นสิ่งจำเป็นนั้น พลังงานนิวเคลียร์ (nuclear power) ได้ชื่อว่าเป็นพลังงานที่มีประสิทธิภาพและมีความคุ้มค่าสูงที่สุดอย่างหนึ่ง --- แต่สิ่งที่หลายๆ คนกลัวมันก็คือ เจ้าผลกระทบจากซากกากเดนที่หลงเหลือจากสิ่งที่ใช้ไปหมดนั้นแล้ว
ในยุคสมัยนี้ คงไม่มีใครพูดถึงประวัติศาสตร์อันโหดร้ายที่เชอร์โนบิล (Chernobyl) เพราะวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีทำให้การใช้งานการป้องกันมีความปลอดภัยสูง แต่ทว่าหลังจากที่ใช้พลังงานของมันหมดไป กากปฏิกอนเหล่านั้นยังคงมีอายุยาวนานเป็นหลายพันปี --- นั่นคือไปหาใหม่ที่เราต้องเผชิญ
นอกจากนี้ นิวเคลียร์เองยังคงเป็นสัญญะ (sign) ที่มนุษย์ทุกผู้ทุกคนติดฝังอยู่ในความกลัวแห่งจิตใต้สำนึก หลังมหาสงครามโลกครั้ง 2 เป็นสัญญะที่ส่อถึงความอัจฉริยภาพของมนุษย์และความโหดร้ายของมนุษย์ที่สามารถย่ำยีสิ่งที่เป็นธรรมชาติ และวิถีที่ไม่ฝืนในสิ่งที่เหนือการควบคุม
แต่ในหลายๆ แห่งบนพื้นผิวโลกมนุษย์ใบนี้ การขัดขืนวิถีทางอันอหังการนั้นกำลังเกิด วันนี้ผมจะพาไปดูๆ วิถีของคนตัวเล็กๆ ที่ปฏิเสธอำนาจใหญ่โตของพลังงานนั้น ที่เยอรมนี ...
000
เมื่อวันที่ 10 - 11 - 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านนิวเคลียร์ของยุโรป ได้ร่วมกันต่อสู้เชิงสัญลักษณ์เพื่อขัดขวางการเดินทางของรถไฟ 12 ขบวนที่บรรทุกเอาขยะนิวเคลียร์มา (nuclear waste) โดยรถไฟขบวนนี้เดินทางมากจากตอนเหนือของฝรั่งเศสมุ่งตรงสู่เยอรมนี
ภายใต้การคุ้มกันของตำรวจเยอรมันกว่า 20,000 นาย ในการขนวัตถุที่มีกัมมันตภาพรังสี (radioactive) แรงสูง สู่จุดหมายปลายทางที่หมู่บ้าน Gorleben ทางภาคเหนือของเยอรมนี (คนเยอรมันเรียกแถบนี้ว่า Wendland)
ส่วนขบวนการต่อต้านการขนส่งวัตถุอันตรายนี้ เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายกลุ่ม ได้วางแผนการกีดขวางเจ้ารถไฟ 12 ขบวนมรณะนี้ไว้ตลอดระยะทาง 50 กม. ที่มันจะแล่นผ่านไป และอีก 20 กม.ที่มันจะถูกขนย้ายโดยรถบรรทุก --- ทั้งนี้การรณรงค์ขัดขวางรถไฟ 12 ขบวนมรณะครั้งนี้ถือว่าเป็นการโหมโรงของเหล่านักเคลื่อนไหว ก่อนการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ G8 ที่เยอรมันจะเป็นเจ้าภาพในเดือนมิถุนายนปี ค.ศ. 2007
ตำรวจคุ้มกันรางรถไฟอย่างแน่นหนา
ผู้ร่วมรณรงค์สร้างสิ่งกีดขวางบนถนนและรางรถไฟ
ตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้หลังจากที่ผู้ร่วมรณรงค์
ทำลายรั้วป้องกัน
ชาวนาก็ออกจากเทือกสวนไร่นามาร่วมรณรงค์กับเขา
และที่จะขาดไม่ได้คือ กองทัพตัวตลก (clown army)
ทัพหน้าแห่งขบวนการอนาธิปไตย ก็ได้ร่วมไปกวนตีน
ตำรวจในงาน
ฝูงชนจำนวนมากแห่แหนกันไป "ยึดรางรถไฟเอาไว้"
นักเคลื่อนไหวบางคนล๊อคตัวเองติดกับรางรถไฟ
นี่แหละ เจ้าตัวปัญหา
สำหรับการขนส่งกากนิวเคลียร์ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 10 แล้วที่โรงไฟฟ้าของเยอรมันต้องส่งไปผ่านกรรมวิธีด้านความปลอดภัยที่โรงงานในฝรั่งเศสและก็ส่งกลับมาเยอรมันอีกที เพราะในเยอรมนีเองไม่มีโรงงานแบบนี้ หลังจากนั้นก็นำไปสู่โรงเก็บที่หมู่บ้าน Gorleben ที่ถูกใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1977 ซึ่งหลายคนรวมถึงนักเคลื่อนไหวเห็นว่าขาดความปลอดภัย --- แต่การขนย้ายวัตถุอันตรายแบบนี้ยังคงมีสัญญาไปถึงปี 2010
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว หนุ่มน้อยนักเคลื่อนไหววัย 22 ปี ชาวฝรั่งเศส "Sebastian Briat" เสียชีวิตเนื่องจากกิจกรรมต่อต้าน ที่เมือง Nancy ในฝรั่งเศส ซึ่งในปีนี้ก็มีการไว้อาลัยให้แก่เขา
การต่อสู้เพื่อการรักษาสิ่งแวดล้อมให้อยู่กับมนุษย์อย่างปลอดภัย สำหรับในเยอรมนีแล้ว ถือว่ามีความเข้มข้นในระดับหนึ่ง และก็ยังคงจะมีเรื่อยๆ หากฝ่ายปกครองยังคงแต่หวังผลประโยชน์ทางการก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับความเจริญของระบบเศรษฐกิจทุนนิยม โดยละเลยเรื่องความปลอดภัยและยังตะบี้ตะบันกระทำการเสี่ยงๆ แบบนี้ต่อไป.
000
วัฒนธรรมการต่อต้านการขนส่งสิ่งที่เกี่ยวกับนิวเคลียร์ ไม่ว่าจะเป็นส่วนประกอบหรือกากปฏิกูลของมัน สู่จุดสูงสุดในทศวรรษที่ 1990"s อันเป็นช่วงพีคของกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติแนวใหม่ ที่โดนนักวิชาการหลายๆ สำนักจัดกลุ่มให้พวกเขาอยู่ในขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมรูปแบบใหม่ (new-socialmovement)
โดยส่วนใหญ่แล้ว ฐานกำลังและวิธีการเคลื่อนไหวของพวกเขา จะกระเดียดไปทางการเคลื่อนไหวแบบการนำตัวเอง เป็นกลุ่มก้อนเครือข่ายเล็กๆ และมีวิถีทางในการเข้าท้าทายกับ "ปัญหา" และ "อำนาจ" นั้นด้วยวิธีเผชิญหน้าโดยตรง (Direct-Action) --- และนั่นคือจุดเด่นของการเคลื่อนไหวแบบ "อนาธิปไตย" (anarchists)
นักอนาธิปไตย อาจจะถูกปรามาสว่าเป็นพวกเด็กเล่นสนุก หรือหันหลังให้รัฐโดยไร้ประโยชน์ และอีกหลายๆ อย่าง ... แต่แน่ล่ะว่าในวิถีปฏิบัติของแต่ละชุดความคิดอุดมการณ์นั้นย่อมมีความแปลกแตกต่างกันออกไป
การ "เล่น-ท้าทาย-ขัดขืน" ต่อ "อำนาจ" โดยตรงของนักอนาธิปไตยอาจจะเป็นอีกหนึ่งวิธีในการต่อสู้ รื้อถอนปัญหา และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่มีความเท่าเทียมให้แก่โลกใบนี้
เช่นเดียวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่อำนาจแห่งระบบทุนนิยมได้ขีดเส้นแบ่งและควบคุมมันให้รู้สึกว่าอะไรคือปัญหา และอะไรไม่ใช่ปัญหา อำนาจทุนนิยมได้เข้าไปกำหนดความเป็นไปของธรรมชาติ --- และแน่ละว่านักอนาธิปไตยยอมให้อำนาจที่บิดเบี้ยวนั้นโอหังไปกว่านี้คงจะไม่ได้! ... ถึงแม้ว่ามันเป็นการต่อสู้แบบเล็กๆ ดูงี่เง่าและไร้ผล แต่อย่างน้อยเราก็ได้สู้ล่ะวะ!
( ถ้าพวกเอ็งแน่จริงก็ ถอดเสื้อนอกออก ปลดกระดุมซักเม็ดสองเม็ด ปิดแอร์ แล้วก็เรามาสู้บนท้องถนนกะพวกข้าสิ ใจถึงป่าว? นักอนุรักษ์ฯ ในห้องแอร์ทั้งหลาย ;-)
ประกอบการเขียน - แหล่งข้อมูลแนะนำ
http://de.indymedia.org/2006/11/161759.shtml
http://newswire.indymedia.org/en/2006/11/874583.shtml
http://portland.indymedia.org/en/2006/11/349084.shtml
http://portland.indymedia.org/en/2006/11/349118.shtml
http://www.dw-world.de/dw/article/0,,2237191,00.html?maca=en-rss-en-all-1573-rdf
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)