Skip to main content
sharethis

ภาณุพล รักแต่งาม : รายงาน


 


       


 



วันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวเกี่ยวกับเมืองพัทยา โดยพาดหัวค่อนข้างหวือหวาว่า "Children lured into Thai sex industry in Pattaya" หรือแปลง่ายๆ ว่า "เด็กๆ ถูกล่อให้มาขายตัวที่พัทยา" ส่วนเนื้อหาก็พูดถึง "สภาพความเป็นจริง" ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยระบุชัดว่าพัทยาเป็น "pedophile paradise" หรือสรวงสวรรค์ของคนโรคจิตที่นิยมมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก


ถือเป็นการยกระดับความลามกของพัทยาขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง หลังจากที่ชื่อกระฉ่อนไปทั่วโลกในฐานะ "เมืองโลกีย์" มานานหลายสิบปี


 


รอยเตอร์อ้างคำพูดของ คุณสุดใจ นาคพันธ์ เจ้าหน้าที่มูลนิเวิร์ลวิชั่น ซึ่งเป็นเอ็นจีโอขนาดใหญ่ทำงานช่วยเด็กทั่วโลก รวมทั้งที่พัทยา บอกว่าเด็กๆ เหล่านี้จะออกขายดอกไม้หรือขนมกับนักท่องเที่ยว หากไม่ซื้อก็จะใช้ "ลูกเล่น" เช่นกอดแขน กอดขา ถ้าเป็นคนจิตใจปกติก็อาจจะให้เงินเพื่อตัดความรำคาญ แต่ถ้าไม่ปกติ (ซึ่งเยอะ) ก็จะลงเอยโดยการตกลงซื้อขายบริการทางเพศกัน


 


พัทยา เคยเป็นเมืองประมงที่เงียบสงบ แต่เปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิงในช่วงสงครามเวียดนาม เพราะกลายเป็นแหล่งพักผ่อนของจีไอเงินหนา วันนี้พัทยากลายเป็นเมืองโลกีย์ที่โด่งดังไปทั่วโลก ที่แม้กระทั่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ใช้ภาพพจน์ที่ว่ามาเป็นจุดขาย โดยรอยเตอร์อ้างข้อความบนเว็บไซต์ของททท.(www.tourismthailand.org) เกี่ยวกับจุดขายของพัทยาว่ามีทั้ง เอ็กโซติก-อีโรติกโชว์ ซาวน่า และโรงนวด ควบคู่ไปกับคำเชิญชวนให้มาขี่หลังช้าง มาเล่นกีฬาทางน้ำ ทางอากาศ ฯลฯ


 


ยี่สิบปีก่อน มีบาร์ในพัทยาประมาณ 500 แห่ง เดี๋ยวนี้มีมากกว่า 20,000 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นบาร์ข้างถนน มีเก้าอี้เพียงไม่กี่ตัว และเป็นแหล่งโชว์ตัวของสาวน้อยแต่งหน้าเข้มในเสื้อผ้าน้อยชิ้น... บางคนอายุแค่ 14


 


คุณศุภกร โนจา เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ศูนย์ป้องกันและพัฒนาเด็ก พัทยา บอกกับรอยเตอร์ว่า โสเภณีเด็กในพัทยาเพิ่มสูงมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้จะไม่มีตัวเลขที่แน่นอน แต่ประเมินกันว่ามีไม่ต่ำกว่า 2,000 คน และว่ามีเด็กถูกล่อหลอกให้เข้ามาขายตัวที่พัทยามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะค่าตอบแทนสูง เช่นเด็กผู้ชายอายุ 10-15 ปี สามารถทำเงินได้ถึงคืนละ 10,000 บาท หรือ 280 ดอลลาร์ทีเดียว


 


นายศุภกรบอกด้วยว่า นายหน้าบางคน ตั้งอาเขตล่อเด็กผู้ชายที่มาเล่นเกม เด็กบางคนติดเกมคอมพิวเตอร์อย่างหนัก เมื่อหมดเงินก็ยินยอมขายตัว โดยทุกวันจะมีฝรั่งนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 200 คนนั่งลอยชายอยู่ตามบาร์ริมถนน เพื่อรอให้นายหน้ามาติดต่อ... เป็นภาพที่คนในพัทยาเห็นกันเจนตา... ยกเว้นตำรวจ


 


รอยเตอร์สัมภาษณ์ "โย" เด็กชายวัย 17 อดีตเด็กขายตัวที่ปัจจุบันพักอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือของรัฐบาล โดยโยบอกว่าก่อนจะมีอะไรกัน ลูกค้าจะพาเขาไปแม็กโดนัลด์ และเมื่อเสร็จสรรพได้เงินมาแล้ว เขาจะเอาเงินไปเล่นเกมคอมพิวเตอร์


 


อย่างไรก็ดี รอยเตอร์ได้พูดถึงสตรีไทยคนหนึ่งที่อุทิศตัวต่อสู้กับภาพพจน์อันเลวร้ายของพัทยา... เป็นเหมือน "ฮีโร่" กู้ภาพพจน์ของคนไทยไว้ได้บ้าง


 


เธอชื่อ โสพิน เทพประจักษ์ นักธุรกิจหญิงอายุ 62 เจ้าของโรงแรม ร้านอาหาร อพาร์ทเมนท์ สนามไดร์ฟกอล์ฟ และบาร์ ที่รอยเตอร์บอกว่าใช้วงดนตรีและทีวีจอยักษ์ถ่ายทอดกีฬานัดต่างๆ เป็นเครื่องมือในการดึงลูกค้า แทนการใช้ "โกโก้แดนเซอร์" เหมือนที่อื่น


 


คุณโสพินกำลังอุทิศตัวเพื่อเปลี่ยนภาพพจน์ของพัทยา จากเมืองโลกีย์มาเป็นเมืองสำหรับท่องเที่ยวแบบครอบครัว... โดยบอกกับรอยเตอร์ว่า ทุกวันนี้ เหล่าภรรยาไม่อยากให้สามีมาพัทยา แม้จะมาทำงานก็เถอะ เพราะสิ่งยั่วยุมีมากเหลือเกิน "ดิฉันรู้สึกแย่มากเมื่อเห็นผู้หญิงพยายามยั่วนักท่องเที่ยวที่ริมหาด ต่อหน้าเมียของพวกเขา พัทยามีสิ่งดีๆ มากกว่านั้นเยอะแยะ"


 


ที่ผ่านมา คุณโสพิณพยายามจัดงานหาทุนเพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาของพัทยา จัดตั้งเครือข่ายอาสาสมัครเตือนภัยผู้ปกครองให้ระมัดระวังว่าลูกหลานจะถูกล่อลวง รับอดีตโสเภณีเด็กเข้าทำงานในธุรกิจของเธอ ส่วนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักในโรงแรมของเธอ จะได้รับคำเตือนว่าห้ามนำโสเภณีเด็กเข้ามาในห้องพัก เพราะมีเพศสัมพันธ์กับเด็กในไทยแลนด์นั้น คือสิ่งที่ผิดกฎหมาย...


 


"ดิฉันทราบดีว่า เราไม่สามารถหยุดยั้งสิ่งที่พวกเขาตั้งใจจะมาทำที่นี่ได้ แต่อย่างน้อยเราก็พยายาม ถึงจะไม่สำเร็จ แต่ถ้าเราไม่พยายาม ใครจะทำล่ะ" เธอบอก...


 


อ่านข่าวของรอยเตอร์ชิ้นนี้จบแล้ว.... แม้จะไม่ค่อยถูกใจนักที่ภาพพจน์ของเมืองไทยถูกกระทบแรงๆ แบบนี้ แต่จากเนื้อหาของข่าวที่เห็นได้ชัดว่าความเลวร้ายต่างๆ เกิดขึ้นโดยที่ตำรวจท้องถิ่น หรือผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องไม่ใส่ใจดูแลเลยนั้น... ทำให้ต้องมาคิดอีกรอบ


 


บางทีการที่เรื่องนี้ถูกตีแผ่ไปทั่วโลก ฟ้องกลุ่มสิทธิมนุษยชนหรือกลุ่มสิทธิเด็กที่ "ตาโต" เสมอเมื่อได้ยินเรื่องลักษณะนี้ อาจจะมีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพัทยาบ้างก็ได้


       


 เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่อยากให้ "เด็กไทยถูกหลอกล่อให้ขายตัวที่พัทยา" ตามหัวข่าวที่รอยเตอร์พาดเอาไว้เหมือนกัน...


 


 


.........................................................................................


ที่มา : ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net