Skip to main content
sharethis


บรรยากาศเทศกาลลอยกระทง ที่ "อ่างแก้ว" มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา


ที่มา: พันทิพ.คอม โดย ดลพ


 



 




 ป้ายผ้าประกาศห้ามใช้อ่างแก้วลอยกระทงและแนวลวดหนามโดยรอบ



 


ช่วงเทศกาลยี่เป็ง หรือลอยกระทงที่ จ.เชียงใหม่ สถานที่ที่ประชาชนนิยมไปลอยกระทง นอกจากสองฝั่งแม่น้ำปิงด้านสะพานนวรัฐและสะพานนครพิงค์แล้ว "อ่างแก้ว" ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำโบราณ ตั้งอยู่ในเขตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็เป็นสถานที่ที่ทั้งนักศึกษาและประชาชนภายนอกนิยมเข้ามาลอยกระทง ด้วยสถานที่ตั้งที่อยู่ในตัวเมือง บรรยากาศไม่พลุกพล่านจอแจ มีคนเล่นพลุประทัดบ้าง แต่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับแม่น้ำปิงฝั่งสะพานนวรัฐและสะพานนครพิงค์ ทำให้นิตยสารท่องเที่ยวบางฉบับใน จ.เชียงใหม่ ถึงกับระบุว่าที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ไม่ควรพลาดช่วงเทศกาลลอยกระทงเลยทีเดียว


 


อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ติดป้ายผ้ามีข้อความว่า "ประกาศมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำมีไว้เพื่อการผลิตน้ำประปา สำหรับอุปโภค บริโภค เพื่อเป็นการบำรุงรักษาคุณภาพน้ำ รวมทั้งป้องกันการชำรุดของตัวเขื่อนกั้นน้ำ มหาวิทยาลัยได้กำหนดข้อห้ามดังนี้ ห้ามนำกระทงทุกชนิดไปลอยน้ำในอ่างแก้ว ห้ามจุดประทัด ปล่อยโคมลอย จุดเทียนเล่นไฟทุกชนิด ห้ามใช้พื้นที่พักผ่อน หรือกิจกรรมใดๆ บริเวณโดยรอบอ่างน้ำ จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน ประกาศมา ณ วันที่ 19 พ.ย. 2550"


 


นอกจากป้ายผ้าที่ติดโดยรอบอ่างแก้วแล้ว ยังมีการตั้งแผงเหล็ก และล้อมลวดหนามรอบอ่างแก้ว และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยยืนประจำการอีกด้วย


 


เว็บไซต์เด็กมอ รายงานว่า นายจีระเดช เกษมสุข ผู้อำนวยการกองสวัสดิการ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ในช่วงของประเพณีลอยกระทงเมื่อปีที่ผ่านมา มีนักศึกษาและประชาชนทั่วไปเข้ามาลอยกระทง จุดดอกไม้ไฟ และประทัดลงไปในอ่างแก้ว ก่อให้เกิดมลภาวะ และมีสารเคมีปนเปื้อนในน้ำ ส่งผลถึงสุขภาพของผู้ใช้น้ำจากอ่างแก้ว เนื่องจากน้ำในอ่างแก้ว เป็นน้ำที่เก็บกักไว้ผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในฝั่งเชิงดอยทั้งหมด นอกจากนี้ยังพบว่ามีการขุดสันเขื่อนอ่างแก้วเพื่อฝังและจุดประทัดยักษ์ ส่งผลให้สันเขื่อนเสียหาย เมื่อมีฝนตกหน้าดินจะพังทลาย เขื่อนอาจเสียหายได้ ตลอดจนมีผู้เมาสุราอาละอาดบริเวณอ่าวแก้วด้วย

ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว ประเพณีลอยกระทงปี 2550 นี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงได้มีนโยบายขอให้งดจัดงานลอยกระทงบริเวณอ่างแก้วโดยเด็ดขาด ทั้งในการลอยกระทง การจุดดอกไม้ไฟ และประทัด พร้อมกันนี้ห้ามไม่ให้นำสุราและของมึนเมา ทุกชนิดเข้ามาในมหาวิทยาลัยโดยเด็ดขาด โดยมหาวิทยาลัยได้จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราความเรียบร้อยอย่างเข้มงวด

จึงขอความร่วมมือมายังนักศึกษาและประชาชนทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย หากพบเห็นผู้ฝ่าฝืนสามารถแจ้งได้ที่ หน่วยรักษาความปลอดภัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทร. 0-5394-1190 นายจีระเดชกล่าว


 


ประชาไทได้สอบถาม รศ.ดร. เอกชัย แสงอินทร์ รองอธิการบดี มช. ฝ่ายจัดการระบบกายภาพและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าที่ออกประกาศดังกล่าวเพราะอ่างแก้ว เป็นแหล่งน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การเล่นประทัด ดอกไม้ไฟ แล้วโยนลงไปในอ่างแก้ว จะทำให้ผู้ใช้น้ำได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ เพราะมลพิษจากการลอยกระทง จุดประทัดไม่ได้ไปไหน เพราะอ่างแก้วเป็นแหล่งน้ำนิ่ง


 


โดยสารเคมีในประทัดที่จะลงสู่แหล่งน้ำมีทั้งสารซัลฟิวริก หรือกรดกำมะถัน (sulfuric acid, H2SO4) และกรดไนตริก (nitric acid, HNO3) นอกจากนี้ยังมีการขุดหลุมที่สันอ่างแก้วเพื่อจุดประทัดยักษ์ ซึ่งอันตรายต่อโครงสร้างของเขื่อนด้วย โดยในอนาคตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มีแผนจะเสริมความแข็งแรงของสันเขื่อนด้วยการเสริมดินเพิ่มด้านถนนเลียบสันอ่างแก้วรอบนอก โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 7 ล้านบาท


 


ต่อผลกระทบที่นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ไม่สามารถไปลอยกระทงที่อ่างแก้วได้นั้น รศ.ดร.เอกชัยได้แนะนำให้นักศึกษาไปลอยกระทงที่คูเมือง หรือแม่น้ำปิง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำไหลและมีเจ้าหน้าที่คอยทำความสะอาด จะดีกว่า


 


ส่วนความเห็นของนักศึกษานั้น นายชาครีย์ วัฒนศิริ ชั้นปีที่ 4 รองนายกสโมสรนักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มช. กล่าวว่าตัวเขาเองไปลอยกระทงที่อ่างแก้วทุกปีตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ส่วนปีที่แล้วไปทำกระทงขายที่แม่น้ำปิง กรณีที่มหาวิทยาลัยมีคำสั่งปิดอ่างแก้วนั้น พอเขาได้เห็นลวดหนามก็ตกใจ ทำไมต้องทำมากขนาดนี้ ตอนแรกรู้สึกไม่เห็นด้วย แต่ต้องยอมรับว่านักศึกษาส่วนหนึ่งเล่นประทัดกันอย่างรุนแรง คิดถ้ามหาวิทยาลัยจะออกมาตรการเช่นนี้ควรประกาศล่วงหน้าหรือสอบถามความคิดเห็นนักศึกษาก่อน ทำแบบไม่บอกล่วงหน้าแบบนี้รู้สึกไม่ค่อยดี เพื่อนๆ ก็วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการล้อมลวดหนาม เพราะอ่างแก้วเป็นที่สาธารณะที่มีคนใช้ประโยชน์ตลอด ถ้าจะห้าม น่าจะห้ามเฉพาะการเล่นประทัดเฉยๆ หรือยอมให้ขึ้นไปเดินบนสันเขื่อนได้ หรือจะติดป้ายห้ามแล้วมีเจ้าหน้าที่มาดูแลก็ได้ ดีกว่าอยู่ๆ มาล้อมลวดหนาม


 


นอกจากนี้ในโลกอินเตอร์เน็ตยังมีการแสดงความคิดของนักศึกษาต่อการปิดอ่างแก้วอีกด้วย เช่น การวิพากษ์วิจารณ์ในกระดานข่าว www.cmupark.com หัวข้อ 40911 อ่างแก้วล้อมรั้วลวดหนามจริงๆเหรอ โดย guess ตั้งกระทู้วันที่ 20 พ.ย. 50 เวลา 20.17 น. ซึ่งมีทั้งผู้สนับสนุนและไม่เห็นด้วยกับคำสั่งปิดอ่างแก้วของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และหัวข้อ 40960 มีที่ที่ลอยกระทงดีดี เหมือนอ่างแก้วที่ไหนอีกบ้างครับ โดย น้องจิน เป็นต้น

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net