หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รับหลักการ ร่าง "พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พ.ศ...." นั้น ล่าสุด กลุ่มนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกมาต้านและทำจดหมายเปิดผนึกต่อสังคมไทยและประชาคมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชี้เป็น พ.ร.บ.ที่ให้อำนาจเบ็ดเสร็จ มุ่งเอื้อประโยชน์ให้กับระบบราชการและกลุ่มทุนที่แสวงหาผลประโยชน์กำไร ไม่ฟังเสียงประชาคมและประชาชนอย่างรอบด้าน และผิดกับเจตนารมณ์การก่อตั้ง มช.อย่างสิ้นเชิง
โดยเนื้อหาจดหมายเปิดผนึกต่อสังคมไทยและประชาคมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุว่า สืบเนื่องจาก สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)กำลังพิจารณาพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อันจะทำให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปลี่ยนสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ และได้มีการเคลื่อนไหวของเพื่อนนักศึกษา ให้ สนช. ถอนการพิจารณาพระราชบัญญัติดังกล่าวนั้น
พวกเราขอให้กำลังใจและสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเพื่อนนักศึกษาที่เรียกร้องให้ สนช. ระงับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อันเป็นการปกป้องมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อันเป็นสาธารณสมบัติจากการแปรรูปให้อยู่ภายใต้อาณัติของคณะผู้บริหารและกรรมการสภามหาวิทยาลัย
ต่อสถานการณ์ดังกล่าว พวกเราที่เป็นนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีความเห็นดังนี้
1. สมาชิกสภานิติบัญญัติซึ่งมาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร ที่มาส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ ได้เร่งรีบออกกฎหมายหลายฉบับที่ให้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดกับระบบราชการ ไม่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่โปร่งใส ปิดบังบิดเบือนข้อมูล และสร้างผลกระทบต่อสิทธิอันพึงมีพึงได้ของประชาชน ซึ่งเนื้อหาของกฎหมายล้วนมีเนื้อหาจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และมุ่งเอื้อประโยชน์ให้กับระบบราชการและกลุ่มทุนที่แสวงหาผลประโยชน์กำไร เช่น พระราชบัญญัติความมั่นคงในราชอาณาจักร พระราชบัญญัติประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์ พระราชบัญญัติข่าวกรองแห่งชาติ พระราชบัญญัติป่าชุมชน (ฉบับราชการ) พระราชบัญญัติน้ำ รวมถึงพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ต้องการเปลี่ยนสถานะมหาวิทยาลัยให้เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ
2. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เกิดจากความเรียกร้องต้องการของประชาชนภาคเหนือในปี พ.ศ.2493 ที่ต้องการให้ขยายการศึกษาระดับอุดมศึกษาออกสู่ภูมิภาค โดยขอให้รัฐบาลจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่
ดังนั้น การรวบรัดพิจารณาพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มาจากการแต่งตั้ง ร่วมกับกรรมการสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยไม่ทันฟังเสียงประชาคมมหาวิทยาลัยและประชาชนอย่างรอบด้าน จึงเป็นสิ่งไม่เหมาะสม ถือเป็นการปฏิเสธการมีส่วนร่วมของประชาชน ผิดกับเจตนารมณ์การก่อตั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อย่างสิ้นเชิง
พระราชบัญญัติดังกล่าวซึ่งมีผลกระทบต่อสังคมโดยรวม จำเป็นอย่างยิ่งต้องมีวิธีการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อความโปร่งใส เป็นธรรม มีประสิทธิภาพ ตามหลักการสังคมประชาธิปไตย ดังนั้นไม่ควรเร่งรีบพิจารณาพระราชบัญญัติฉบับนี้ และควรรอให้ประชาคมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดำเนินการอย่างรอบด้านกับรัฐบาลและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นผู้ต้องรับผิดชอบโดยตรงในอนาคต
3. รัฐบาลภายหลังเลือกตั้ง 23 ธันวาคม นี้ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ควรดำเนินการแต่งตั้ง คณะกรรมการประชาพิจารณ์ที่มีหลายภาคส่วนเข้าร่วมและเป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน เป็นกลาง เพื่อให้ทุกฝ่ายเสนอข้อมูลความคิดเห็น มุมมองต่างๆ ถกเถียงกันอย่างสร้างสรรค์ และเป็นการให้ประชาคมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งอาจารย์ พนักงาน เจ้าหน้าที่ต่างๆ นักศึกษา ตลอดจนประชาชนในท้องถิ่นภาคเหนือ มีส่วนร่วมตามหลักการประชาธิปไตย และมิใช่เพียงเวทีจัดฉากเพื่อสร้างความชอบธรรมเท่านั้น
4. เราเชื่อมั่นว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ควรจะเป็นนั้น ต้องไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่มุ่งแสวงหากำไร แต่เป็นมหาวิทยาลัยที่สำนึกในบุญคุณของประชาชนที่เสียภาษี ที่เรียกร้องให้มีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ต้องเปิดโอกาสให้ทุกชนชั้นเข้ามาศึกษาเล่าเรียนได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียม สร้างความเป็นเลิศทางวิชาการที่รับใช้ประชาชนและเพื่อศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ทั้งนี้ กลุ่มนักศึกษาเก่า มช.กำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อร่วมกันลงนามคัดค้านและให้ชะลอการผ่านร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อันไม่ชอบธรรมฉบับนี้ และได้เชิญชวนเพื่อนนักศึกษาเก่า มช.ร่วมกันลงชื่อต่อท้ายแถลงการณ์ดังกล่าว เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับการณรงค์ของนักศึกษา โดยสามารถส่งรายชื่อ + รหัสประจำตัว + คณะ มาได้ที่ cmupetititon@gmail.com
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)