Skip to main content
sharethis

กลุ่มเนวินพลิกเกมใช้96ส.ส.ยื่นแก้รอบ2


เว็บไซต์มติชน - นายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน กลุ่มอีสานใต้ ที่มีความใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นกลุ่มแกนนำในการรวบรวมรายชื่อ ส.ส.และ ส.ว. ยื่นรายชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 พร้อมกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) กล่าวถึงการถอนรายชื่อของ ส.ส.และ ส.ว.ออกจากญัตติเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจทำให้ญัตตินั้นตกไป ว่า การถอนรายชื่อนั้นเป็นเกสิทธิของ ส.ส. และ ส.ว.ที่สามารถทำได้ การประกาศถอนชื่อของ ส.ส.และส.ว. จะไม่เกิดปัญหาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่เคยร่วมกันลงชื่อเสนอญัตติ เตรียมการรวบรวมรายชื่อ ส.ส.ใหม่ เพื่อยื่นญัตติเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นครั้งที่ 2
 


"หากญัตติครั้งนี้ตกไป จนเหลือรายชื่อน้อยกว่า 126 คน พวกผมกำลังดำเนินการรวบรวมรายชื่อ ส.ส. ใหม่ เพื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นครั้งที่ 2 โดยจะใช้ร่างฯของ คปพร. โดยใช้รายชื่อ ส.ส. 96 คน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า ส.ส. 1 ใน 5 สามารถเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งจะยื่นต่อประธานสภาฯทันทีหลังจากญัตติเก่าตกไป และไม่มีทางที่พวกเราจะเลิกล้มความตั้งใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ" นายนิสิต กล่าว


 


 


ถอนชื่ออีก3เหลือยอดแค่131


เว็บไซต์มติชน - เมื่อเวลา 15.00 น.ที่รัฐสภา นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยความคืบหน้ากรณีมี ส.ส.และส.ว.ทยอยถอนชื่อในญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 ว่า ล่าสุดมีผู้ขอถอนชื่อจากญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มอีก 3 คน คือ นายสรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรคประชาราช นายนรพล ตันติมนตรี ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อแผ่นดิน และนายพีระ มานะทัศน์ ส.ว.ลำปาง ทำให้ขณะนี้มียอดผู้เสนอญัตติเหลือจำนวน 131 คน ยังเกินกว่าจำนวนที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 กำหนดไว้ที่ 1 ใน 5 คือ 124 คน จากสมาชิกรัฐสภาจำนวน 620 คน
 


จากนั้นเวลา 17.30 น. ที่รัฐสภา นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ราชบุรี นายบวรศักดิ์ คณาเสน ส.ว.อำนาจเจริญ ในฐานะตัวแทน 9 ส.ว. ที่ยังไม่ถอนชื่อการสนับสนุนญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ร่วมกันแถลงว่า พวกตนมาในฐานะ ตัวแทนส.ว. 9 คน ที่ยังไม่ถอนชื่อจากญัตติการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกคนเป็นส.ว.เลือกตั้ง ได้ไปหาเสียงว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ เมื่อมีการยื่นญัตติก็เลยมาร่วมสนับสนุนด้วย แต่ขณะนี้การแก้ รัฐธรรมนูญกลายเป็นการเผชิญหน้าไปแล้ว และถ้าหากจะให้บ้านเมืองสงบ ตนยินดีจะถอนให้ญัตติตกไป หากพันธมิตรฯเลิกการชุมนุม


 


 


ผบ.ทอ.ชี้เลิกแก้รธน.ทุกอย่างคลี่คลาย


เว็บไซต์มติชน - พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) ให้สัมภาษณ์ ถึงการชุมนุมว่า ถ้ายกเลิกการแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกอย่างจะคลี่คลายเพราะเป็นเงื่อนปมที่ยังมีอยู่ ถ้าต่างคนต่างมีทิฐิ มีอะไรต่างๆ ก็จะมีปัญหา ทุกอย่างจะคลี่คลาย ถ้าทำเพื่อส่วนรวม และประชาชน อย่าทำเพื่อส่วนตัวหรือเพื่อส่วนบุคคล ทั้งนี้ต้องช่วยกันทั้งสองฝ่าย


'' ผู้ที่มาทำงานด้านนิติบัญญัติ และการบริหารงาน ต้องรีบทำงานให้กับบ้านเมือง ผมเคยถาม ส.ว. และได้รับคำตอบว่า กฎหมายที่เสนอเข้าสภายังไม่ออกมาสักฉบับเดียว ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมายังไม่มีกฎหมายออกมาเลย ผมถือว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องรีบทำ ไม่ใช่ว่าจะมามัวแต่ทำประโยชน์เพื่อตนเอง เรื่องปากท้องและปัญหาของประชาชนถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ควรได้รับการดูแลด้วย '' ผบ.ทอ.กล่าว
 
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวที่ จ.มหาสารคาม กรณีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯว่า เป็นเรื่องธรรมดา ถ้าไม่มีเดี๋ยวเหงาตาย แต่ก็น่าพอและยุติได้แล้ว รู้สึกว่ารัฐบาลยอมโอนอ่อนผ่อนตามพอสมควร จากนี้ไปคิดไว้ว่าจะเดินสายพบปะพี่น้องชาวภาคอีสานใรวมทั้งภาคอื่นด้วย เรื่องการตั้งพรรคการเมืองนั้นไม่ยากเลย ตั้งเมื่อไหร่ก็ได้


 


 


กกต.ถกร่างพรบ.ประชามติเสร็จพรุ่งนี้


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังการประชุม กกต. วันนี้ ว่า ที่ประชุมยังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2551 ไม่เสร็จสิ้น และได้นัดพิจารณาต่อในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ค.) คาดว่าจะแล้วเสร็จ และส่งสภาฯ ได้ในสัปดาห์หน้า และว่า เหตุที่ใช้เวลาพิจารณานาน เนื่องจากพิจารณาเป็นรายมาตรา โดยวันนี้พิจารณาไปได้ 12 มาตรา จากทั้งหมด 42 มาตรา


 


"การพิจารณาของ กกต. วันนี้ ส่วนใหญ่อภิปรายกันมากในมาตรา 8 เกี่ยวกับจำนวนผู้ออกเสียงประชามติ ซึ่ง กกต.เห็นตามที่ปรึกษาด้านพรรคการเมืองเสนอว่า การทำประชามติลักษณะบังคับ จะต้องมีประชาชนมาออกเสียงเกินครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิ และผลที่ออกมาต้องมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เพิ่มเติมในส่วนการออกเสียงประชามติในลักษณะขอคำปรึกษา ที่จะต้องมีผู้มาใช้สิทธิจำนวน 1 ใน 5 ของจำนวนผู้มีสิทธิ" นายประพันธ์ กล่าว


 


ทั้งนี้ นายประพันธ์ กล่าวว่า หลักเกณฑ์ที่ กกต.พิจารณา อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในการพิจารณาของสภาฯ แต่หลักเกณฑ์ที่ กกต.ยึด คือ ความชอบธรรม ว่าผลประชามติที่ได้จะถือว่าเป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่


 


 


ตร.พร้อมรับมือชุมนุมใหญ่ 30 พ.ค.


เว็บไซต์มติชน - ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 พล.ต.อ.วิเชียร พจน์ โพธิ์ศรี ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมสรุปสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยวันที่ 4 ร่วมกับพล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)   พล.ต.ต.สุรพลแถลงว่า  นายกรัฐมนตรียังไม่มีนโยบายหรือแนวคิดที่จะใช้กฎหมายความมั่นคงจับกุมแกนนำทั้ง 5 คนแต่อย่างใด หรือแม้แต่การใช้กำลังสลายการชุมนุม 


 


เมื่อถามว่าจะสลายการชุมนุมเมื่อไหร่ พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า จะมีการประเมินสถานการณ์กันทุกวัน และเรื่องของความเดือดร้อนของประชาชนที่จะมีสิทธิใช้ชีวิตอย่างสงบ ถึงขณะนี้มีประชาชนแจ้งคามเดือดร้อนมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งกำลังรวบรวมและสืบสวนเอาความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งมีหลายเรื่องทั้ง การเดินทางไปทำงาน การไปเรียนไม่ได้



 


'' ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น เมื่อมีผู้มากล่าวหาร้องทุกข์ ก็ต้องดำเนินการซึ่งกำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ และสิทธิการชุมนุมที่ต้องชุมนุมอย่างสงบปราศจากอาวุธ ก็มีการนำเอาสิ่งของที่ใช้เป็นอาวุธได้เข้าไปซึ่งต้องมีการพูดคุยกัน  การชุมนุมก็ต้องอยู่ในกรอบของกฏหมาย '' พล.ต.ต.สุรพลกล่าว
 พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า ส่วนการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 30 พฤษภาคม ตร.ยังคงยืนยันการรักษาความสงบเรียบร้อย มีการจัดเตรียมรถขนผู้ต้องขังไว้สนับสนุนให้พร้อม กรณีมีการกระทำผิดกฎหมาย จะเพิ่มความเข้มเรื่องการตรวจตราการพกพาอาวุธเข้ามาในที่ชุมนุม ตำรวจประเมินจากยอดการชุมนุมเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา สูงสุดในตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ 10,000-15,000 คน


 


 


'จำลอง' ปัดพันธมิตรฯไล่รัฐบาล


เว็บไซต์มติชน - ต่อมาเวลา 10.30 น.  มีผู้ชุมนุมเหลืออยู่ประมาณ 500 คน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯเรียกอาสาสมัครการ์ดมาประชุมซักซ้อมการใช้อุปกรณ์ และวางมาตรการรักษาความปลอดภัย สั่งห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้ามาในบริเวณที่ชุมนุมเด็ดขาด ส่วนเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบให้เข้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง
 


ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่า พันธมิตรฯจะเพิ่มข้อเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง พันธมิตรฯยังมีจุดยืนเดิมคือชุมนุมเรียกร้องให้ยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ส่วนกรณีถ้า ส.ส.และ ส.ว.ถอดถอนรายชื่อออกจากการยื่นญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วจะให้กลุ่มพันธมิตรฯ หยุดเคลื่อนนั้น ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว ขณะนี้เชื่อมโยงกันหมด อย่างไรก็ตาม หากมีการถอนรายชื่อทั้งหมด ทางแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จะหารือกันอีกครั้ง


 


 


แฉคำสั่งตร.เตรียมใช้แก๊สน้ำตาสลาย


เว็บไซต์มติชน - พล.ต.จำลองนำเอกสารอ้างว่าเป็นเอกสารลับตำรวจมาอ่านให้ฟังว่า เป็นเอกสารลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2551 สั่งให้เตรียมแก๊สน้ำตาของจีน ของอเมริกา ทั้งประเภทปาด้วยมือ หรือชนิดใช้ปืนยิง โดยแจกจ่ายไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องหน่วยละ 50 ลูก ภายในเวลา 15.00 น.วันที่ 29 พฤษภาคม แต่ พล.ต.จำลองไม่ยอมให้ถ่ายสำเนา ไม่บอกว่าใครลงนาม เพราะเกรงจะรู้ว่าได้มาจากไหน


 


พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลบอกว่าจะไม่สลายการชุมนุม แต่การที่ตำรวจออกคำสั่งดังกล่าวมา แสดงว่ามีความคิดที่จะสลายการชุมนุม ถ้าไม่มีความคิด จะเตรียมไปหาวิมานอะไร อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือ ถ้ามีการใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม พันธมิตรฯเตรียมพร้อมตามคู่มือ เช่น ใช้น้ำล้างตา พยายามหลบ เป็นต้น


" จะบอกตำรวจว่าคุณไล่เราไม่ได้หรอก ผมไม่ได้ท้าทาย แก๊สน้ำตามาจากภาษีประชาชนนะ แล้วเขาไว้ใช้กับคนที่คิดร้ายกับบ้านเมือง ไม่ใช่ใช้กับประชาชนที่มาชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ " พล.ต.จำลองกล่าว


 


 


การ์ดตีคนเมาป่วนม็อบเย็บ6เข็ม


เว็บไซต์มติชน - เมื่อ เวลา 13.00 น. การ์ดผู้หนึ่งขอตรวจค้นตัวนายวิทยา มันฑะนานนท์ อายุ 50 ปี ชาวนนทบุรี ซึ่งปะปนอยู่กับผู้ชุมนุม และมีอาการคล้ายคนมึนเมา จนเกิดโตเถียงกันอย่างรุนแรงก่อนจะชกต่อยกัน การ์ดผู้นี้ได้ใช้ท่อนเหล็กตีท้ายทอยนายวิทยา และตรวจค้นกระเป๋าพบปืนปลอมและมีด ก่อนจะหิ้วตัวนายวิทยาออกไปทำแผลที่หน่วยพยาบาลของพันธมิตรฯ โดยเย็บกว่า 6 เข็มก่อนปล่อยตัวไป


 


ต่อมา พล.ต.จำลองประกาศให้มีการจัดระเบียบพ่อค้าแม่ค้าที่เข้ามาขายของในบริเวณที่ชุมนุม โดยให้ถ่ายสำเนาบัตรประชาชนทุกคนเพื่อป้องกันพวกแอบแฝงเข้ามาก่อกวน พร้อมให้ทั้งหมดมาอยู่ฝั่งสำนักงานสหประชาชาติเพื่อให้เกิดความระเบียบ


 


 



การุณพบตำรวจปัดข้อหาถีบสมเกียรติ


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิงห์ไกร รอง ผกก.สส.สน.ดุสิต เปิดเผยความคืบหน้า คดี นายการุณ โหสกุล ส.ส.พรรคพลังประชาชนทำร้ายร่างกาย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า นายการุณได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาฐานทำร้ายร่างกายและดูหมิ่นต่อ พนักงานสอบสวนแล้ว เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา


 


ด้านพ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่นผกก.สน.ดุสิต กล่าวว่า นายการุณ มารับทราบข้อกล่าวหาแล้วแต่ได้ปฏิเสธทุกข้อ และไม่ยินยอมจ่ายค่าปรับ ฐานทำร้ายร่างกาย และดูหมิ่น ที่พนักงานสอบสวนจะเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 500 บาท ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องนำสรุปสำนวนการสอบสวน และพยานหลักฐานทั้งหมดส่งให้อัยการสั่งฟ้องวันนี้ แต่เนื่องจากสำนวนคดีต้องรอให้พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น.เซ็นอนุมัติก่อนคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้.


 


 


หมอประเวศ เตือนระวังบ้านเมืองเสียหาย


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า ขณะนี้รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองที่ประชาชนคนไทยมีความขัดแย้งแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ดูเหมือนว่าความรุนแรงจะกลายเป็นความต่อสู้จนมากเกินไป ทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข สาเหตุเกิดจากการที่คนไทยใช้สมองส่วนหลังมากกว่าสมองส่วนหน้า เพราะเป็นสมองในส่วนการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด แย่งชิงมากกว่าใช้เหตุผลที่อยู่ในสมองส่วนหน้า หากยังตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ยิ่งทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย ทางออกเรื่องนี้อยากจะให้ทุกฝ่ายเกิดการปฏิบัติทางปัญญา จิตใจที่ดี นำไปสู่หนทางแห่งประชาธิปไตย โดยประชาชนทั้งประเทศมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือความสงบสุข.



 


 


รัฐปล่อย 2 พันล.แท็กซี่-รถเมล์เปลี่ยนเป็นNGV


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน กล่าวหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติสินเชื่อ 2,000 ล้านบาท ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เสนอ เพื่อให้บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) ไปดำเนินการเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนเครื่องยนต์ให้กับรถแท็กซี่และรถเมล์ จากที่เคยใช้ก๊าซแอลพีจี เป็นเอ็นจีวี โดยคิดอัตราดอกเบี้ยกับผู้ขอสินเชื่อเพียงร้อยละ 0.50 โดยคาดว่า จะสามารถเปลี่ยนเครื่องยนต์ได้ประมาณ 3,000 คัน ภายในปี 2552 ซึ่งจะช่วยประหยัดการนำเข้าน้ำมันได้ถึง 100 ล้านลิตรต่อปี หรือคิดเป็นเงิน 1,900 ล้านบาทต่อปี โดยค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นเอ็นจีวี ของแท็กซี่เฉลี่ยอยู่ที่คันละ 40,000 บาท ส่วนรถเมล์จะอยู่ที่ 50,000-100,000 บาท รวมทั้งเร่งรัดให้ ปตท. เพิ่มจำนวนปั๊มเอ็นจีวีให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยกระทรวงพลังงานยืนยันว่า ภายในปีนี้จะมีปั๊มเอ็นจีวีทั้งสิ้น 355 ปั๊ม


 


นอกจากนี้ ยังอนุมัติสินเชื่อ 1,057.5 ล้านบาท สำหรับโครงการสินเชื่อพลังงานครัวเรือน เพื่อให้ประชาชนสามารถกู้เงินไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 โดยไม่คิดอัตราดอกเบี้ย สำหรับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าธรรมดา ให้กู้รายละ 10,000 บาท เครื่องปรับอากาศ 30,000 บาท โดยสามารถกู้จาก 4 ธนาคารคือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยผ่อนชำระคืนภายใน 1 ปี และคาดว่า จะมีครัวเรือนที่ขอสินเชื่อประมาณ 75,000 ครัวเรือน และสามารถประหยัดพลังงานได้ 1,000 ล้านบาทต่อปี


 


 


"อียู"จี้ธุรกิจปรับตัวรับกฎเหล็กสิ่งแวดล้อม


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ- ดร.ฟรีดดิค ฮัมบัวร์เกอร์ เอกอัครราชทูตและหัวหน้าคณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปแห่งประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนา "นโยบายสิ่งแวดล้อมของอียูและมุมมองสิ่งแวดล้อมต่อภาคธุรกิจ" ว่า นโยบายด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อมถือเป็นวาระแห่งชาติของสหภาพยุโรป (อียู) การต่อสู้กับภาวะโลกร้อนก็เกี่ยวข้องโดยตรงกับพลังงานและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงต้องการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทย เข้าใจกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมของอียู และปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน เพื่อสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจกับชาติสมาชิกอียูทั้ง 27 ชาติ



  


ทั้งนี้อียูเป็นผู้นำเรื่องกำหนดมาตรฐานต่างๆ ในโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยด้านอาหาร สุขภาพ สุขอนามัยด้านต่างๆ ขณะที่สถิติปีที่แล้ว ระบุว่าไทยได้เปรียบดุลการค้ายุโรป 100% หรือคิดเป็นมูลค่า 8 พันล้านยูโร



  


ที่ผ่านมาไทยและอียูออกกฎระเบียบการค้าหลายฉบับ รวมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการแข่งขันซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ และได้มีข้อเสนอจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันทางธุรกิจในอียูกว่า 300 ข้อเสนอในกรอบเวลา 3 ปี ซึ่งได้ดำเนินการไปบ้างแล้ว ส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมไทยยกระดับความสามารถด้านการผลิต ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร การส่งออก และการตรวจสอบย้อนกลับของกุ้งที่ส่งเข้าไปจำหน่ายในอียู



  


ดร.ฮัมบัวร์เกอร์ยืนยันว่า กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมของอียู ไม่ใช่ข้อกีดกันทางการค้ารูปแบบใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในรูปภาษี เพราะเปิดโอกาสให้ทุกบริษัทเข้ามาแข่งขันได้อย่างเท่าเทียมกัน ภายใต้กฎระเบียบเดียวที่ทุกคนต้องปฏิบัติ จึงถือเป็นการแข่งขันที่เสมอภาคกัน



 


 


รสก.จี้ขอเงินค่าครองชีพ1.5พันบาท


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายปัญญา ปั้นบัวงาม กรรมการบริหารสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย (สพร.ท.) พร้อมตัวแทนกว่า 10 คน เข้ายื่นหนังสือถึง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้อนุมัติขึ้นค่าครองชีพให้พนักงานรัฐวิสาหกิจในอัตรา 6% ของเงินเดือน หรือเฉลี่ยคนละไม่ต่ำกว่า 1,500 บาท หลังจากก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นหนังสือถึงนางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานมาแล้ว โดยระบุว่าขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนจากราคาน้ำมันและเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมาก และเห็นว่ามาตรฐานการทำงานของรัฐวิสาหกิจกับข้าราชการต่างกัน จึงไม่สามารถปรับเพิ่มในระดับเงินเดือนที่เท่ากันได้ตั้งแต่ระดับซี 5 ลงมา ส่วนกรณีผู้มีเงินเดือนสูงกว่านี้ขอให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งพิจารณาตามความเหมาะสม



  


"สหพันธ์ตกลงกันว่าจะไม่ใช้วิธีกดดันรัฐบาลด้วยการเดินขบวน แต่จะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเรียกประชุมคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ซึ่งพร้อมจะเข้าร่วมชี้แจงข้อมูลด้วย จากนั้นจะส่งข้อมูลให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ต้นเดือนมิถุนายน และควรจะปรับค่าครองชีพได้ภายในเดือนมิถุนายน ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เช่นเดียวกับข้าราชการ" นายปัญญา กล่าวและว่า การปรับขึ้นค่าครองชีพนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่องบประมาณของรัฐบาล เนื่องจากเป็นการใช้เงินในส่วนที่รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้เข้ารัฐปีละแสนกว่าล้านบาท จากที่ประเมินมีพนักงานรัฐวิสาหกิจประมาณ 2 แสนราย คาดว่าจะใช้เงินเพียงปีละ 300 ล้านบาท หรือ 0.3% ของรายได้นำส่งคลังเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพ ไม่ใช่การปรับฐานเงินเดือนแต่อย่างใด



  


ด้าน นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า การประชุมกับผู้บริหารรัฐวิสาหกิจครั้งที่ผ่านมา ได้มอบนโยบายไปแล้วว่าควรพิจารณาหารายได้เพิ่มให้แก่พนักงานและลูกจ้างระดับล่างของรัฐวิสาหกิจ โดยให้ไปพิจารณาตามความเหมาะสม แต่ก็ขึ้นอยู่กับฐานะและผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง เพราะขณะนี้ภาคราชการมีการขึ้นค่าครองชีพไปแล้ว รัฐวิสาหกิจจึงควรดำเนินการให้สอดคล้องกัน


 


 


ทีวีไทยเปิดพื้นที่ให้ "นักข่าวพลเมือง"


เว็บไซต์ไทยโพสต์ - เทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการทีวีไทย ทีวีสาธารณะ เชื่อว่าโครงการนักข่าวพลเมืองจะตอบโจทย์เรื่องความไม่สมดุลในการนำเสนอข่าว "หลายคนมีความอึดอัดใจเวลาดูข่าว บางครั้งข่าวมองจากศูนย์กลางในกรุงเทพฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องในภูมิภาคน้อย คือความไม่สมดุลในการนำเสนอข่าว ทำอย่างไรให้ทีวีสามารถเสนอเรื่องราวที่สะท้อนเรื่องราวทั้งหมด การเปิดพื้นที่ให้แก่นักข่าวพลเมืองเป็นอีกหนึ่งมิติ ที่ทำให้ทีวีไทยเป็นทีวีสาธารณะจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกำหนดทิศทางเนื้อหาข่าวและวาระรายการต่างๆ ภายในสถานี เพื่อให้มีความรู้สึกว่าเป็นทีวีของประชาชน



  


ความเป็นนักข่าวพลเมืองนั้นอยู่ในตัวของทุกคน ที่มีจิตสำนึกและมีจุดยืนไม่นิ่งเฉยต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม ซึ่งสิ่งที่ทำได้ในเชิงปฏิบัติคือการมีส่วนร่วมในการส่งข้อมูล ส่งภาพให้กับสื่อ ถ้าให้ดียิ่งขึ้นก็คือมีส่วนร่วมในการคิดว่า จะทำอย่างไรถึงจะเอาสิ่งเหล่านี้เข้าสู่สื่อกระแสหลักได้ ผมอยากให้การทำข่าวมีมุมมองมากกว่าที่สื่อกระแสหลักทำอยู่ คือมองให้นอกเหนือจากการมองแค่เรื่องบุคคลสำคัญในบ้านเมืองเพียงไม่กี่คน ไม่มองเฉพาะหน่วยงานส่วนกลาง เพราะจะทำให้การทำข่าววนเวียนอยู่แบบนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในบ้านเมืองเราที่แท้จริงยังน้อยนัก ที่จะได้นำเสนอผ่านสื่อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ทุกคนต้องมีจิตสำนึกร่วมกัน" เทพชัยกล่าว


 


 


วธ.ชงกม.ฟันโรงหนังเถื่อน


สยามรัฐ - นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)กล่าวว่า คณะอนุกรรมการ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 เพื่อหารือการออกกฎหมายลูก กฎกระทรวง เพื่อรองรับพ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ ที่จะประกาศบังคับใช้ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ โดยเนื้อหาของพรบ.นี้ ครอบคลุม 2 ส่วน 1.การขอถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย กระทรวงกีฬาและการท่องเที่ยวจะเป็นผู้ดูแล 2.การพิจารณาฉาย จำหน่าย จ่ายแจกภาพยนตร์ในประเทศไทย โดยวธ.เป็นผู้ดูแลและกำหนดนโยบาย ภายใต้คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีหน่วยงานปฏิบัติคือสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) และคณะอนุกรรมการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ (เซ็นเซอร์)


  


ปลัดวธ.กล่าวอีกว่า ในช่วงเปลี่ยนผ่านหน่วยงานรับผิดชอบจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มาเป็น วธ. ซึ่งการจัดระดับความเหมาะสมของภาพยนตร์หรือเร็ตติ้งยังไม่เสร็จ จึงจำเป็นจะต้องทำงานผ่านคณะกรรมการเซ็นเซอร์ในรูปแบบเดียวกับ สตช. ไปก่อนเพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศ ซึ่งคณะกรรมการเซ็นเซอร์ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาพยนตร์ วีดีทัศน์ ศิลปวัฒนธรรมทั้งหมด 7 คน ผู้แทนภาครัฐ 4 คน ผู้ประกอบการภาพยนตร์ 3 คน อย่างไรก็ตามวันที่ 2 มิ.ย.นี้ วธ.จะพิจารณาเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเข้ามามีส่วนพิจารณาเนื้อหาภาพยนตร์ให้เหมาะสมกับเพศวัยด้วยเช่น แพทย์ นักจิตวิทยา นักศาสนา เป็นต้น


  


"พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ ปี 2551 ปรับปรุงเนื้อหาให้ทันสมัยในการผลิตภาพยนตร์ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเปลี่ยนการตรวจสอบเนื้อหาภาพยนตร์จากการเซ็นเซอร์มาเป็นระบบจัดเร็ตติ้ง ซึ่งขึ้นผู้ประกอบการว่าทำเนื้อหาภาพยนตร์มาเหมาะสำหรับคนอายุเท่าไหร่ ขายให้คนอายุเท่านั้น และมีบทลงโทษผู้กระทำผิดจริงจัง เช่น ห้ามฉาย เผยแพร่ภาพยนตร์ วีดีทัศน์ที่มีเนื้อหารุนแรงสยดสยอง เช่น ฆ่าหั่นศพ ให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีดู แต่จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป นอก จากนี้จะมีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมภาพยนตร์รองรับ โดยจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมีส่วนร่วมทั้งเรื่องการร่างกฎ กระทรวง ระเบียบประกาศใช้" ปลัด วธ. กล่าว


 


 


เกษตรกรสุดอั้นราคากุ้งติดดิน ฮือบุกทำเนียบอ้อนรัฐรับจำนำ


ข่าวหุ้น - กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งนำโดย นายเอกพจน์ ยอดพินิจ ผู้แทนสมาคมกุ้งทะเลไทย และประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานีนายบรรจง นิสภวาณิชย์ นายกสมาคมกุ้งตะวันออกไทย นายสมปอง ชาววังไทร นายกสมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย นายปกครอง เกิดสุข ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งกระบี่ นายจักรินทร์ เพชรเจริญ ปธ.ชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจันทบุรี นายสรวุฒิ จิระพันธ์ ปธ.ชมรมผู้เลี้ยงกุ้งปัตตานี นายแพทย์ธีรวัฒน์ หงสกุล ปธ.ชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสตูล และนายสัตวแพทย์ยุทธนาสิงหพันธ์ ปธ.กลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งตราดยั่งยืน รวมกว่า 10 คน เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเนื่องจากราคากุ้งตกต่ำ


  


ทั้งนี้ ปัญหาราคากุ้งกำลังสร้างความเดือดร้อนหนักให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่บีบคั้น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ ต้นทุนการผลิตต่างๆ พุ่งสูง ผู้เลี้ยงต้องแบกรับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จึงเดินทางมาขอให้เร่งแก้ปัญหาช่วยพยุงราคาโดยการรับจำนำกุ้ง เนื่องจากจะเป็นมาตรการที่ช่วยเกษตรกรได้


  


นายเอกพจน์ ยอดพินิจ เปิดเผยว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกำลังประสบภาวะวิกฤติราคากุ้งตกต่ำ ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ทั้งที่อาหารโปรตีนต่างๆ ของโลก มีราคาเพิ่มสูงขึ้นๆ เช่น เนื้อสุกร เนื้อไก่ เนื้อปลา เป็นต้น ขณะที่ราคากุ้งกลับตกต่ำและมีแนวโน้มลดลงทุกวัน


  


อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามาตรการจำนำกุ้ง จะช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไม่เดือดร้อนมากไปกว่านี้ได้ เพราะจะสามารถรองรับผลผลิตกุ้งที่ออกมาของพี่น้องเกษตรกรไว้ก่อน ในช่วงวิกฤติราคากุ้งตกต่ำนี้


  


ขณะเดียวกันยังเชื่อมั่นว่า กระทรวงพาณิชย์ โดย พณฯ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ จะสามารถใช้มาตรการต่างๆ เพื่อเร่งแก้วิกฤติราคากุ้งตกต่ำให้กับพี่น้องเกษตรกรได้โดยเร็วเหมือนที่คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เคยดำเนินการให้มีโครงการรับจำนำกุ้งขาว(ส.ค.-ก.ย.50) ในปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถบรรเทาปัญหาและคลี่คลายปัญหากุ้งราคาตกต่ำต่อเนื่องได้


  



 


แบงก์เกอร์ขยาดปฏิวัติฟันธงชาติพัง


สยามรัฐ - นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวการปฏิวิต ว่า หากเกิดขึ้นจริงจะมีผลต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพราะการปฏิวัติมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติด้วย ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องหาทางยุติในรูปแบบที่สร้างความสงบเรียบร้อยตามวิถีประชาธิปไตยซึ่งเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ แม้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยก็ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงก็ตาม


  


นายชัยนันท์ ลภิธนานุวัธน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารนครหลวงไทยให้ความเห็นว่า หากมีการปฏิวัติเกิดขึ้นจะทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปด้วยความยากลำบากยิ่งขึ้น เนื่องจากในขณะนี้มีปัจจัยในเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาอยู่ที่ 131 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลล์ เข้ามาเพิ่มด้วย สังเกตได้ว่าในปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มมีการชะลอการตัดสินใจในการซื้อบ้านมากขึ้น ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองแต่ในส่วนของสินเชื่อรายย่อยจะมีการชะลอตัวตามไปด้วยหรือไม่ ต้องรอดูอีกระยะหนึ่งเนื่องจากในขณะนี้ยังมีปริมาณความต้องการสินเชื่อต่อเนื่อง


  


ขณะที่นายชวลิต จินดาวณิค ประธานสายการเงินและงบประมาณ บมจ.ธนาคารเกียรตินา กล่าวว่า คงไม่มีใครอยากให้มีการปฏิวัติในช่วงนี้ แม้ว่าคนไทยก็ยังไม่มีความตกใจมากนักกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่ต้องระมัดระวังมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนต่างชาตินั้นมีความวิตกมากกว่าคนไทย เนื่องจากภาพข่าวที่เผยแพร่ไปยังต่างประเทศที่เป็นภาพเหตุการณ์การชุมนุมนั้น ทำให้ต่างชาติตกใจ เพราะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดข้อมูลที่แท้จริง และหากต่างชาติมีความกังวลใจก็จะมีการขายหุ้นออกไปได้ทันที


  


ทางด้านน.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยืนยันว่า จะไม่มีการทำรัฐประหารเกิดขึ้น โดยรัฐบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่ ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะไม่มีการยุบสภา โดยภายใน 2-3เดือน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านประหยัดพลังงานและการเพิ่มรายได้ภาคประชาชนจะมีผลบังคับใช้น่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น


  


ส่วนการปรับตัวลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทย เกิดจากกระแสข่าวลือที่ก่อให้เกิดความตื่นตระหนก ซึ่งรัฐบาลขอยืนยันถึงนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศว่า เรื่องการชุมนุมที่เกิดขึ้นขณะนี้ ไม่ส่งผลกระทต่อการเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net