Skip to main content
sharethis

วันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 15.30 น. ที่ห้องประชุมกระจก คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ได้แก่ รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เชษฐพัฒนวนิช รศ.ดร.อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ รศ.สมเกียรติ ตั้งนโม นายชำนาญ จันทร์เรือง ได้อ่านแถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนเรื่อง "ขอประณามการเคลื่อนไหวที่นำสังคมไทยไปสู่หายนะ" (ดูล้อมกรอบ)


 


โดยเนื้อหาของแถลงการณ์เป็นการประณามการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่บุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีในช่วงเช้าวันนี้ ว่าจะนำพันธมิตรฯ ไปสู่การกระทำที่ก้าวข้ามพ้นจาก "อารยะขัดขืน" สู่ "อนารยะขัดขืน" และในแถลงการณ์ยังระบุว่านี่เป็นการทำลายสิทธิในการสื่อสารของฝ่ายต่างๆ ในสังคม และเรียกร้องให้สังคมไทยไตร่ตรองและใช้สติกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นการกระทำที่มุ่งนำไปสู่การสร้างความรุนแรงและอาจนำพาสังคมไทยไปสู่ความหายนะมากขึ้น


 


นอกจากนี้ในท้ายแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่อาจแก้ไขได้ด้วยการรัฐประหาร หรือการใช้วิธีการอื่นใดที่ไม่ใช่วิถีทางประชาธิปไตย ดังที่สังคมไทยได้เคยประสบมาจากเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 แล้ว


 


รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล กล่าวหลังการอ่านแถลงการณ์ว่าจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขอย้ำว่าการรัฐประหารไม่ใช่ทางออกของปัญหานี้ ไม่ว่าการรัฐประหารนั้นจะเกิดขึ้นโดยฝีมือใครก็ตาม จะยิ่งซ้ำเติมให้สังคมไทยประสบหายนะมากขึ้น โดยก่อนหน้าเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 กระทั่งเกิดการรัฐประหารในคืนวันนั้นเป็นบทเรียนที่ดีที่ว่าปัญหาไม่ได้ถูกแก้ไขหลังมีการรัฐประหาร


 






แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน


เรื่อง ขอประณามการเคลื่อนไหวที่นำสังคมไทยไปสู่หายนะ


 


แม้การเคลื่อนไหวเพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมืองจะเป็นสิทธิพื้นฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ในสังคมประชาธิปไตยซึ่งกลุ่มคนต่างๆ สามารถกระทำได้ แต่ก็ต้องเป็นการกระทำที่ดำเนินไปภายใต้หลักการพื้นฐานซึ่งต้องเคารพสิทธิของบุคคลอื่น ไม่ใช้ความรุนแรง รวมทั้งต้องไม่เป็นการเคลื่อนไหวที่นำไปสู่การทำลายระบอบประชาธิปไตยโดยรวม


 


ณ บัดนี้ การเคลื่อนไหวทางการเมืองของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ก้าวข้ามพ้นจากสิ่งที่เรียกว่า "อารยะขัดขืน" ไปสู่การกระทำที่เป็น "อนารยะขัดขืน" อย่างชัดเจน หรือเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายโดยปราศจากความชอบธรรมและไม่เคารพสิทธิของสังคมโดยรวม ด้วยการบุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์อันเป็นการทำลายสิทธิเสรีภาพในการสื่อสารและทางเลือกการรับรู้ของสังคมไทยด้วยการใช้กำลังและความรุนแรง


 


รวมถึงการเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่กำลังเกิดขึ้นด้วยการใช้กำลังและจำนวนของมวลชน เช่น การบุกเข้ายึดสถานที่ราชการ การใช้กำลังคุกคามเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อปกป้องผู้กระทำความผิด ทั้งหมดเป็นการกระทำที่จะนำพาสังคมไทยไปสู่ความหายนะอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง


 


มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนมีความเห็นต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้


 


ข้อแรก ขอประณามการกระทำของพันธมิตรฯ ที่ใช้ความรุนแรงในการบุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์อันเป็นการทำลายหลักการเสรีภาพในการสื่อสารมวลชน และทำลายสิทธิในการสื่อสารของฝ่ายต่างๆ ในสังคม


 


ข้อสอง ขอเรียกร้องกับสังคมไทยให้ไตร่ตรองและใช้สติกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป็นการกระทำที่มุ่งนำไปสู่การสร้างความรุนแรงและอาจนำพาสังคมไทยไปสู่ความหายนะมากขึ้น


 


ข้อสาม ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายที่คุ้มครองสิทธิของประชาชน เพื่อมิให้บ้านเมืองตกอยู่ในสภาวะไร้ขื่อแปและอาจนำไปสู่การจราจลในหมู่ประชาชน


 


ข้อสี่ การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ไม่อาจแก้ได้ด้วยการใช้กำลัง การรัฐประหารหรือการใช้วิธีการอื่นใดที่ไม่ใช่วิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย ดังที่สังคมไทยได้เคยประสบมาจากเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 แล้ว


 


มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน


                                                              26 สิงหาคม 2551


 


 


หมายเหตุ - สำหรับคำแถลงของคณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนโดยละเอียด ประชาไทจะเรียบเรียงและนำเสนอต่อไป

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net