Skip to main content
sharethis


เวลา 16.30น. ที่สนามหลวง นายชินวัฒน์ หาบุญพาด แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปก.) กล่าวบนเวที นปก. ว่า ขอให้ประชาชนสลายการชุมนุมที่สนามหลวง และเนื่องจากได้รับการประสานมา จึงจะมีการรื้อเวที เพื่อย้ายไปชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ เพราะรัฐบาลได้ประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินในกรุงเทพฯ เพราะฉะนั้นจึงไม่อยากละเมิด พ.ร.ก. นั้น อีกด้านหนึ่งอยากเรียกร้องให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รีบจัดการกับคนที่ไม่ดำเนินการตาม พ.ร.ก. เพราะถ้าประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน แล้วควรจัดการให้รวดเร็ว ไม่ควรแช่ไว้นาน เหมือนการลูบหน้าปะจมูก  ส่วนสถานการณ์ต่อไปจะประเมินกันวันต่อวัน


 


ทั้งนี้ นายชินวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อย้ายไปที่ จ.สมุทรปราการ แล้ว ยังไม่แน่ใจว่าใครจะเป็นแกนนำหลัก โดยเขาคาดว่า ถ้ายังไม่มีการจัดการอะไรกับพันธมิตรฯ ประชาชนรอบกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆ คงมีการชุมนุมกันแน่ เพื่อกดดันรัฐบาลให้จัดการกับพันธมิตรฯ ต่อไป


 


นายชินวัฒน์ ยืนยันบนเวทีด้วยว่า การปะทะกันวานนี้ มีผู้เสียชีวิตฝ่าย นปก. 1 ราย เป็นคนโคราช


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ผู้จัดกำลังรื้อถอนเวที อย่างไรก็ตาม มีประชาชนจำนวนมากจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่อยากยุติการชุมนุมและสมุทรปราการอยู่ไกล เดินทางไม่สะดวก


 


นางบัวคำ ทองโพธิ์ใหญ่ อาชีพแม่ค้า ผู้ชุมนุมคนหนึ่ง กล่าวว่า เราเคารพกฎหมายบ้านเมือง เขาให้สลายการชุมนุมเราก็ยอม


 


ผู้สื่อข่าว ถามว่า คิดอย่างไรที่ตอนนี้หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก นางบัวคำ และคนอื่นๆ ตอบว่า การเมืองใหม่ 70-30 คืออะไร มันไม่เป็นประชาธิปไตย ฝากถามพันธมิตรฯ หน่อยว่า เขาอยากได้ใครหรือ นายกฯ สมัครและรัฐบาลนี้ ประชาชนเขาเลือกเข้ามา แล้ว 7-8 คนนั้นมาจากไหน ทำไมคนถึงเชื่อพวกนั้นและสื่อชั่วๆ อย่างเอเอสทีวี


 


นายฉะอ้อน หว่านพืช อายุ 76 ปี ชาวสมุทรปราการ กล่าวว่า ดูข่าวแล้วทนไม่ไหว ถึงต้องเดินทางนั่งรถเมล์มาที่นี่ รู้สึกสถานการณ์มันย่ำแย่ลงทุกวัน อย่างน้อยต้องเคารพกฎหมายบ้านเมืองกันบ้าง รัฐบาลนี้ยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็ออกมาไล่ ไม่ฟังเหตุฟังผลยึดบ้านยึดเมือง


 


"ไม่มีใครจ้างใครมาหรอก คนที่นี่เขามาด้วยใจ ผมเองก็นั่งรถเมล์มาไกล" นายฉะอ้อน กล่าว


 


ต่อมา (17.15น.) นายวรัญชัย โชคชนะ ได้นำโทรโข่งมาปราศรัย ทำให้ผู้ชุมนุมประมาณ 100 คนในบริเวณดังกล่าว ที่ยังไม่แยกย้ายกันกลับ รวมตัวกันฟังการปราศรัยของนายวรัญชัย


 


ต่อมาในช่วงค่ำ หลังจากเวที นปช.บางส่วนได้รื้อออกไปแล้ว ยังมีกลุ่มคนขึ้นไปปราศรัยบนเวทีเล็ก ซึ่งเป็นเวทีแรกก่อนที่จะตั้งเวทีใหญ่ของ นปช. ในวันที่ 26 ส.ค. โดยระบุว่าพวกเขาไม่มีสังกัดใด แต่เป็น "เสียงประชาชน" และต้องปราศรัย ชุมนุมต่อตามเสียงเรียกร้องของประชาชนบางส่วนที่ยังอยู่สนามหลวง และไม่สามารถไปร่วมชุมนุมที่สมุทรปราการได้


 


อย่างไรก็ตาม  ได้เกิดเหตุผู้ชุมนุมกระทบทั่งกระทั่งกับผู้สื่อข่าวและช่างภาพของไทยรัฐด้วย โดยผู้สื่อข่าวและช่างภาพคนดังกล่าวชื่อนาย นายสุเมธ สมคะเน ซึ่งในภายหลังได้เข้าแจ้งความที่สน.ชนะสงคราม ระบุว่า ขณะที่กำลังทำข่าวบริเวณท้องสนามหลวง ถูกชายฉกรรจ์ที่ชุมนุมทำร้ายร่างกาย หลังพยายามเข้าไปถ่ายรูปการกระทบกระทั่งของกลุ่มผู้ชุมนุมหลังเวที แต่เมื่อปีนแผงเหล็กที่กั้นเพื่อไปถ่ายภาพ ก็ถูกผู้ชุมนุมคนหนึ่งเข้ามากัน และโต้เถียงกันจนมีการผลักอกล้มลง นายสุเมธระบุว่า มีชายคนหนึ่งพยายามใช้เท้าเตะที่ใบหน้า แต่ไม่ถูก เพราะใช้กล้องถ่ายรูปบังไว้ เมื่อช่างภาพมารุมถ่ายรูปจึงแยกย้ายไป โดยตนเองได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่หลัง หลังจากนั้นผู้ชุมนุมคนอื่นพยายามเข้ามาขอโทษและไกล่เกลี่ยว่าไม่ทราบว่าเป็นนักข่าว เข้าใจว่าเป็นกลุ่มพันธมิตรที่กำลังจะปีนรั้วเข้าไป         


 

 


 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net