Skip to main content
sharethis

วันนี้ (17 ต.ค.2551) เมื่อเวลา 10.30 น. นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล และนายวัชระ แสงประทุม ทีมทนายความของพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เอกพล ทวิชวงศ์ไชยกุล พงส.(สบ.2) สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย น.ส.พ.ผู้จัดการและเคเบิ้ล เอเอสทีวี ในข้อหาหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา ด้วยเอกสาร


 



โดยนาย วัชระ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2551 หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ รวมถึงสื่อในเครือได้ลงข้อความหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ในลักษณะ พ.ต.ท.ทักษิณ จ้องล้มสถาบันเบื้องสูง โดยมีข้อความว่า "แม้วทุ่มเงินล้มสถาบัน" ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นการกล่าวหาอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งทาง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ปรึกษากับทีมทนายความแล้วเห็นว่า เป็นการกล่าวหาที่เกินจะรับได้ และไม่ควรที่จะดึงสถาบันเบื้องสูงมายุ่งกับการเมือง จึงได้มอบหมายให้ทางทีมทนายความเดินทางแจ้งความดังกล่าว


 



นายวัชระกล่าวต่อว่า โดยก่อนหน้านี้ทางพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เคยฟ้องต่อศาลแพ่งซึ่งศาลแพ่งก็ได้มีคำสั่งห้ามนายสนธิพูดถึงอดีตนายกทักษิณ ให้เกิดความเสียหาย แต่นายสนธิ ก็ยังฝ่าฝืนคำสั่งห้ามของศาลเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 51 ซึ่งถือว่าไม่ให้ความเคารพคำตัดสิน โดยวันนี้ตนในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงได้นำหลักฐานเป็นหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการฉบับวันที่ 15 ตุลาคม 2551 รวมถึงซีดี คำถอดเทปจากรายการของเอเอสทีวีเข้าแจ้งความ และจะให้ทีมทยานความ ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ที่ได้มีคำสั่งห้ามนายสนธิ ลิ้มทองกุลกล่าวโจมตีใส่ร้าย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ต่อไป ส่วนจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายเท่าไหร่นั้น จะมีการพิจารณาอีกครั้ง


 


"พ.ต.ท.ทักษิณ เคยยื่นฟ้องนายสนธิ กับพวกมาแล้วโดยเฉพาะศาลได้มีคำสั่งห้ามนายสนธิ พูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ในทางเสียหายอีก แต่นายสนธิ ยังคงกล่าวโจมตีใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวกับสถาบันเบื้องสูงอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการกระทำที่ละเมิด ไม่เคาระต่อคำสั่งห้ามของศาล จึงได้มอบหมายให้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งได้มีคำสั่งห้ามนายสนธิที่กล่าวใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณต่อไป" นายวัชระ กล่าว


 



ด้าน นาย วิชิต ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า จนถึงขณะนี้ นายสนธิได้ถูกแจ้งความและยื่นฟ้องดำเนินคดีมากกว่า 50 คดี โดยเฉพาะการปราศรัยกล่าวหาค่อนข้างจะรุนแรงกว่าทุกครั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ยอมรับไม่ได้ที่กล่าวหาว่า ทุ่มเงินเพื่อล้มล้างสถาบัน เพราะไม่เป็นความจริง จึงต้องแจ้งความดำเนินคดี อย่างไรก็ตามในการฟ้องทางแพ่ง อาจจะเรียกค่าเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 500 ล้านบาท เพราะได้พูดใส่ร้ายต่อเนื่อง ยังละเมิดคำสั่งศาลด้วย


 


 

ที่มา: เว็บไซต์เดลินิวส์ และเว็บไซต์คมชัดลึก
สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net