Skip to main content
sharethis

 


การเมือง


ตำรวจภูธรภาค 1 สรุปความเสียหาย พธม.ยึดสุวรรณภูมิ ตะลึงพบอาวุธเพียบ ทรัพย์สินราชการเสียหาย เผย ก่อคดีอาญาอื้อ


เว็บไซต์แนวหน้า- ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) กล่าวว่า จากการปฏิบัติงานของศูนย์อำนวยการร่วมการแก้ไขสถาน การณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตำรวจภูธรภาค 1 ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายนเป็นต้นมา พบว่า มีคดีอาญาเกิดขึ้นจำนวนมากแยกเป็น คดีพยายามฆ่า 3 ราย คดีทำให้เสียทรัพย์ 1 ราย คดีมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป 1 ราย คดีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3 ราย ของกลางประกอบด้วย อาวุธปืน.357 มม.1 กระบอก 9 มม. 1 กระบอก 7.65 มม. 1 กระบอก ปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .357 มม.48 นัด ขนาด .38 มม. จำนวน 2 นัด ขนาด 7.65 มม.8 นัด ขนาด 9 มม.จำนวน 44 นัด ลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 5 นัด


   


ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ยังมีคดีมีวิทยุสื่อสารคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 2 ราย คดีทำร้ายร่างกาย/หน่วงเหนี่ยวกักขัง 1 ราย นอกจากนี้ตรวจยึดอาวุธและสิ่งของที่ใช้เป็นอาวุธ ประกอบด้วย แป๊บเหล็กดัดแปลงเป็นอาวุธปืน 8 อัน ขวาน 1 เล่ม ท่อนเหล็ก (กระบอง) 2 อัน มีด 6 เล่ม ตะปูเรือใบ 27 กิโลกรัม


 



พล.ต.ท.ฉลอง กล่าวต่อว่า สำหรับความเสียหายของทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีดังนี้ รถยนต์ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกทุบทำลายและเจาะยาง 3 คัน รถยนต์ขนย้ายกำลังของ ตำรวจถูกทุบและเจาะยาง 10 คัน โล่ตำรวจถูกพันธมิตรยึดไป จำนวน 27 อัน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 800,000 บาท ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกทำร้ายร่างกายรวม 3 ราย ถูกหนังสติ๊กยิงศีรษะ 1 ราย ถูกรุมทำร้ายร่างกายและหน่วงเหนี่ยวกักขัง 2 ราย


 


 


"เทพเทือก"ยันปชป.พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิไตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงนี้ถือว่าเป็นเวลาที่ส.ส.ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนจะได้คำนึงถึงสถานการณ์รวมของประเทศ หากร่วมมือกันได้ก็น่าเป็นทางออกของบ้านเมืองไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนขั้วเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ทั้งนี้จะเป็นอย่างไรก็ต้องรอให้เพื่อนสส.แต่ละพรรคหารือกันก่อน ส่วนกลุ่มนายเนวิน ชิดชอบ นั้น ไม่มีการพูดคุยเป็นเรื่องเป็นราวแต่พรรคก็พยายามสื่อสารถึงเพื่อนสส.แต่ละพรรค


   


ทั้งนี้ก็ต้องคุยกันบ้างหากมีการสอดคล้องกันในเรื่องนโยบาย รวมทั้งอาจมีคนนอกเข้าช่วยแก้ปัญหา ยอมรับว่ามีปัญหาวิกฤติ ทางออกต้องร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลดึงคนดีมีฝีมือช่วยกันทำงาน ต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และเป็นความต้องการของประชาชนรวมทั้งให้เป็นที่ยอมรับ


 


 


รวมยอด180 ส.ส.สมัครเข้า"เพื่อไทย" ส่วน 30 ส.ส."เพื่อนเนวิน" ยังป่วน


เว็บไซต์แนวหน้า- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยปรากฏว่าตลอดทั้งวันได้มี ส.ส.จากพรรคพลังประชาชน ทั้ง ส.ส.และ ส.ส.เขต กลุ่มเพื่อนเนวิน รวมทั้งกลุ่มโคราช ได้เดินทางเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยกันเพิ่มเติมจาก อาทิ นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.กาญจนบุรี นายอัสนี เชิดชัย ส.ส.สัดส่วน นางลินดา เชิดชัย ส.ส.นครราชสีมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน รวมทั้ง พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก เป็นต้น


 



ทั้งนี้ นายศักดา นพสิทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สำหรับยอดสรุป ส.ส.ที่เดินทางเข้ามาสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยภายใน 2 วัน รวมทั้งสิ้น 180 คน ซึ่งขณะนี้เหลือ ส.ส.อีกจำนวนประมาณ 30 คนโดยเฉพาะ ส.ส.ในกลุ่มเพื่อนเนวิน 30 คน ที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนว่ามีแนวทางอย่างไร


 


 


งดเปิดสภา-ยื้อโหวตนายกฯ


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องเลื่อนออกไปจากที่คาดการณ์กันไว้เดิมคือวันที่ 8 หรือ 9 ธ.ค. เนื่องจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษเมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) มีมติให้ถอนร่างพระราชกฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมสภาวิสามัญ ท่ามกลางความสับสนในประเด็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับสถานภาพของ ส.ส.สัดส่วน ซึ่งมีผลกระทบถึง นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และปัญหาคุณสมบัติของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ซึ่งไม่ได้เป็น ส.ส.แต่กลับปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี (นายกฯ รักษาการ)


 



เมื่อเวลา 18.00 น.วานนี้ ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายชวรัตน์ ได้เรียกประชุม ครม.นัดพิเศษ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมมีมติขอถอนร่างพระราชกฤษฎีกาเปิดสมัยประชุมสภาวิสามัญในวันที่ 8-9 ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาวาระเกี่ยวกับข้อตกลงและบันทึกความเข้าใจต่างๆ ที่จะใช้ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ซึ่งเดิมจะจัดขึ้นในวันที่ 15-18 ธ.ค. แต่ ครม.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี มีมติให้เลื่อนไปจัดในเดือน มี.ค.2552 จึงไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญอีกต่อไป


 



ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝ่ายสภา ต้องรอดูว่านายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะนัด ส.ส.ประชุมเมื่อไร สำหรับรัฐบาลไม่มีเรื่องนี้ เพราะการเปิดประชุมสภาเพื่อเลือกนายกฯ ถือเป็นอำนาจของประธานสภา ครม.รักษาการ คงไม่เข้าไปก้าวล่วง


   


"ในเบื้องต้น ท่านชวรัตน์บอกว่าให้เป็นดุลพินิจของประธานสภาเป็นหลัก ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุน และไม่ขัดข้องหากจะต้องโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 8-9 ธ.ค. เพราะไม่ว่าจะช้าหรือเร็วอย่างไรก็ไม่เกินกรอบ 30 วันตามที่กำหนดในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว" นายณัฐวุฒิ กล่าว และว่าเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ไม่มีการประชุมรัฐสภา กลุ่มเสื้อแดงก็จะไม่ไปชุมนุมเพื่อป้องกันสภาตามที่นัดหมายไว้เดิม


  


ด้าน นายชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีพระบรมราชโองการให้เปิดประชุมสมัยประชุมสภาวิสามัญ ซึ่งเดิมที่เคยกำหนดว่าจะมีการประชุมสภาเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับกรอบข้อตกลงอาเซียน แต่เรื่องก็ตกไปแล้ว ตามข้อบังคับการประชุมข้อ 57 รัฐบาลต้องเสนอมาใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีรัฐบาลตัวจริงเสนอ เรื่องนี้จึงมีอันพับไป ส่วนการเลือกนายกฯ ขณะนี้ยังไม่มีเรื่องเสนอมา จึงไม่ทราบว่าในวันที่ 8-9 ธ.ค.จะเปิดประชุมสภาได้หรือไม่ แต่ถ้ามีพระบรมราชโองการลงมาก็ต้องเปิด


   


ผู้สื่อข่าวถามว่า ควรตีความสถานภาพ ส.ส.สัดส่วน ก่อนโหวตนายกฯ ตามที่มีกลุ่ม ส.ว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ก็ดีเหมือนกัน โดยประธานวุฒิสภาก็ต้องดำเนินการตามที่มี ส.ว.ยื่นเรื่องมา ด้วยการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 7 วัน และเมื่อส่งเรื่องไปก็ต้องเลื่อนการเลือกนายกฯ ออกไป


   


ต่อข้อถามว่า ระหว่างที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการตีความ สถานภาพของประธานสภาจะเป็นอย่างไร จะทำหน้าที่ต่อได้หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า "เขายังไม่ได้ไล่ผมออก ผมก็ทำตามกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งมาแล้วเราก็ทำหน้าที่ ส.ส. เมื่อยังไม่มีความผิด ยังไม่ตาย และยังไม่ลาออก ยังไม่ถูกจำคุก ยังไม่มีเรื่องที่ทำให้สภาเสียหาย ก็ยังไม่มีอะไร ซึ่งการเลือกตั้ง ส.ส.สัดส่วน ถือว่ายากกว่า ส.ส.เขต เนื่องจาก ส.ส.สัดส่วน มีพื้นที่เลือกตั้งถึง 8 จังหวัด และถ้าไม่หาเสียง เอาแต่ชื่อพรรค ก็ไม่ได้เป็น ส.ส. แต่ถ้าศาลสั่งมาอย่างไร ผมก็พร้อมปฏิบัติตาม"


 



อย่างไรก็ดี นายชัย กล่าวว่า ยังคงทำหน้าที่ต่อไปหากมีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ แต่ถ้าศาลมีคำสั่งว่าให้พ้นสภาพจากการเป็น ส.ส.ก็จะพ้นตั้งแต่นาทีที่ศาลมีคำสั่ง ฉะนั้นการปฏิบัติทุกอย่างย่อมถูกต้องตามกฎหมาย จะไม่มีความเสี่ยงต่อการเลือกนายกฯ ฉะนั้นอย่าไปตีความแบบศรีธนญชัยเลย บ้านเมืองจะวุ่นวาย


 



 "เรื่องการเลือกนายกฯ คงจะรอศาลวินิจฉัยไม่ได้ ถ้ามีพระบรมราชโองการให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเมื่อไร ก็ต้องเปิดภายในกำหนดระยะเวลา จะไปขัดพระบรมราชโองการไม่ได้" นายชัย ระบุ



 


40 ส.ว.ยื่นแล้วตีความส.ส.สัดส่วน


มติชน - เวลา 13.30 น. ที่รัฐสภา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหาร พร้อมด้วยกลุ่ม 40 ส.ว. ยื่นหนังสือต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 3 ประเด็น คือ1.ส.ส.สัดส่วนของพรรคพลังประชาชน จะสิ้นสภาพความเป็นส.ส.หรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 93 วรรคห้า เนื่องจาก ส.ส.สัดส่วนมาจากการลงคะแนนเลือกพรรคการเมือง จึงไม่สามารถย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นได้เช่นเดียวกับส.ส.เขต เพราะหากย้ายไปพรรคเพื่อไทย พรรคดังกล่าวไมมีส.ส.และไม่เคยผ่านการเลือกตั้ง 2.ให้วินิจฉัยว่า ครม.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ทั้งคณะต้องสิ้นสุดไปด้วยหรือไม่ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชาชน ตามมาตรา 180 วรรคหนึ่ง(1) มาตรา 180 วรรคสอง มาตรา 182 (5) มาตรา 174 (4) มาตรา 102 (3) และมาตรา 100 (2) ทำให้มีส.ส.สัดส่วนหลายคนเป็นรัฐมนตรี ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่า จะย้ายพรรคได้หรือไม่ และ3.ให้วินิจฉัยว่า นายชวรัตน์ ชาญวีระกุล จะสามารถดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ เนื่องจากมาตรา 171 วรรคสอง บัญญัติให้นายกฯต้องเป็นส.ส. แต่นายชวรัตน์ ไม่ได้เป็นส.ส.


 


ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่านายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า จะสามารถทำหน้าที่เป็นประธานสภาต่อไปได้หรือไม่ เพราะเป็นส.ส.สัดส่วน ที่ยังมีปัญหาตามที่คณะส.ว.ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และจะสามารถทำหน้าที่ประธานสภาในวันโหวตเลือกนายกฯได้หรือไม่ จึงน่าจะรอความชัดเจนเรื่องนี้ก่อน รวมถึงรักษาการนายกฯที่ไม่ได้เป็นส.ส. จะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การยื่นตีตามข้อ 1 ถึงสถานะของส.ส.สัดส่วนอาจจะส่งผลต่อการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี หากศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัย


 


 


ปชป.เอาด้วยจี้"ปู่ชัย"ส่งตีความ


 มติชน - นายธนา ชีรวินิจ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยผลการประชุมกรรมาธิการว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงสถานะของส.ส.ระบบสัดส่วน จาก 3 พรรคการเมืองที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั้งให้ยุบพรรค โดยส.ส.ที่เป็นกรรมาธิการฯหลายคน ห่วงว่าจะมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมทั้งในการประชุมของกมธ.และองค์ประชุมของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพราะตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถชี้ขาดได้ว่า ส.ส.ระบบสัดส่วนของพรรคการเมืองที่ถูกยุบยังสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้หรือไม่ จึงมีความเห็นเรียกร้องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งเรื่องนี้ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเพื่อความชัดเจนและเป็นบรรทัดฐานต่อไป


 


 


สุวรรณภูมิเปิดเต็มรูปแบบ 5 ธ.ค.


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ตั้งแต่เวลา 05.35 น. วันที่ 4 ธันวาคม ได้เปิดให้บริการผู้โดยสารขาเข้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ส่วนผู้โดยสารขาออกยังคงให้เช็กอินที่ไบเทคบางนาเช่นเดิม เพื่อรอเตรียมพร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 5 ธันวาคมนี้อย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งจะมีเที่ยวบินให้บริการทั้งขาเข้าและขาออกจำนวน 88 เที่ยวบิน แบ่งเป็นการบินไทย ขาเข้า 23 เที่ยวบิน ขาออก 23 เที่ยวบิน นกแอร์ ขาเข้า 14 เที่ยวบิน ขาออก 14 เที่ยวบิน วัน ทู โก ซึ่งได้รับอนุญาตให้บินอีกครั้งเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ขาเข้า 7 ขาออก 7 เที่ยวบิน


 



นายจุลจิตต์ บุณยเกตุ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ กล่าวว่า บริษัทได้รับความเสียหายจากการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิราววันละ 60 ล้านบาท เนื่องจากไม่สามารถจำหน่ายสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีได้ โดยความเสียหายนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับ ทอท. เพื่อขอให้ช่วยเหลือในลักษณะการชดเชยให้บริษัท เนื่องจากมีสัญญาสัมปทานระบุไว้



 


ดอนเมืองเปิดเต็มรูปแบบแล้ว


ASTV ผู้จัดการ- ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง กล่าวว่า หลังจากที่ดอนเมืองเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. ที่ผ่านมา การบริการทั้งระบบรักษาความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวก การเช็กอินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยืนยันว่าการให้บริการของท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นไปตามมาตรฐานสากลที่กำหนดไว้ แต่ยอมรับว่าจำนวนผู้โดยสารยังมีน้อย ซึ่งท่าอากาศยานดอนเมืองจะร่วมมือกับสายการบินต่าง ๆ เร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารได้รับข้อมูลว่าดอนเมืองเปิดให้บริการตามปกติแล้ว เพื่อให้ผู้โดยสารกลับมาใช้ตามปกติเฉลี่ยวันละ 1,100 คน หรือเที่ยวบินให้บริการ 60 เที่ยวบิน โดยวานนี้ (4 ธ.ค.) มีเที่ยวบินในประเทศทั้งสิ้น 56 เที่ยวบิน นกแอร์ 36 การบินไทย 20 เที่ยวบิน


 


 


14 คนชิงผู้ว่าฯกทม.


สยามรัฐ - ที่ศาลาว่าการ กทม.เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ธ.ค.51 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับสมัครผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายว่า เป็นไปด้วยความคึกคักด้วยการปรากฎตัวของนายยุรนันท์ ภมรมนตรี อดีตพระเอกหน้าหยก และอดีต ส.ส.กทม.พรรคไทยรักไทย ที่คราวนี้อาสาลงผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.สังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งเดินทางมาพร้อม นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการหัวหน้าพรรคฯ พร้อมแกนนำและทีมส.ก.ที่มาให้กำลังใจ ซึ่งเรียกความสนใจแก่บรรดาข้าราชการและประชาชนเป็นอย่างมาก


   


โดยนายยุรนันท์ ได้เข้าสักการะพระพุทธรูปประจำศาลาว่าการ กทม.ก่อนจะยื่นสมัครในเวลา 08.30 น.โดยได้หมายเลข 10 ซึ่งเป็นหมายเลขเดียวกับนายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัครพรรคพลังประชาชน ที่ลงในครั้งที่แล้ว ทั้งนี้นายยุรนันท์ ระบุว่าหลังจากวันที่ 5 ธ.ค.แล้ว จะเปิดแถลงทีมงานพร้อมนโยบาย และเดินหน้าหาเสียงเต็มรูปแบบ โดยเชื่อว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.ในพรรคเป็นอย่างดี


   


ขณะที่นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รักษาการ รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกนายยุรนันท์ เพราะเคยเป็นอดีต ส.ส.มีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว และไม่คิดจะใช้ภาพของความเป็นดาราเรียกคะแนนเสียงจากประชาชน เพราะในต่างประเทศก็มีดาราเป็นผู้นำบ้านเมือง จึงเชื่อว่าประชาชน จะมีวิจารณญาณในการเลือกผู้บริหารบ้านเมือง


   


วันเดียวกันเวลา 09.25 น. นายแก้วสรร อติโพธิ ผู้สมัครอิสระ ได้มาสมัครในนามกลุ่มกรุงเทพใหม่ ใช้สัญลักษณ์ช้างงาน พร้อมสโลแกน "ซื่อสัตย์ กัดติด ฟิตงานบริหารเป็น" โดยได้หมายเลข 12 พร้อมประกาศตัวทีมงานประกอบด้วย นายภราเดชพยัคฆ์วิเชียร อดีตผู้ว่าการ ททท. นายยืนยง โอภากุล (แอ๊ดคาราบาว) นายขวัญสรวงอติโพธิ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร ผู้ก่อตั้งและพัฒนาเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ นายอภิชาติ ทองอยู่ อดีตโฆษกพรรคมหาชน โดยวางแผนพัฒนา กทม.ในทุกด้าน ทั้งฟื้นฟูท่องเที่ยว พัฒนาการเกษตร ผังเมือง คุณภาพชีวิต สุขภาพเด็กผู้ป่วย ศิลปวัฒนธรรม



"หากได้เป็นผู้ว่าฯ ปัญหาแรกที่จะเข้าจัดการทันทีอย่างเด็ดขาดคือปัญหาคอร์รัปชั่นของนักการเมืองและข้าราชการ และขอวอนประชาชนอย่าตัดสินใจไม่เลือกผม เพียงเพราะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งการลงสมัครครั้งนี้มีความมั่นใจและพร้อมเต็มที่" นายแก้วสรร กล่าว


   


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ อย่างนายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ได้เดินทางมาเปิดแถลงข่าวถึงการไม่ลงสมัครผู้ว่าฯ รอบสอง เนื่องจากงบประมาณไม่พอ แม้จะมีชาว กทม.อยากให้ลงอีกครั้งก็ตาม ส่วนนโยบายของตน ที่หลายคนว่ามีประโยชน์นั้น หากสนใจก็นำไปใช้ได้ และพร้อมยินดีช่วยเหลือทุกคน ส่วนบุคคลที่ถูกจับตามองมากที่สุดในการลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. คือร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ที่ก่อนหน้ามีชายลึกลับมารับใบสมัคร แต่ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นไม่มีการปรากฏตัวของ ร.ต.อ.ปุระชัย แต่อย่างใด


   


ขณะที่ ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ หัวหน้าพรรคสุวรรณภูมิ ที่คาดว่าจะลงสมัครผู้ว่าฯเช่นกัน กลับเดินทางมาให้กำลังใจลูกพรรค อย่างนายเอธัส มนต์เสรีอนุสรณ์ อดีตผู้ช่วยเลขาฯ นายสมัคร สุนทรเวช สมัยที่เป็นผู้ว่าฯ กทม. โดยนายเอธัศ เป็นผู้สมัครคนสุดท้ายได้หมายเลข 14 โดย ร.ต.อ.นิติภูมิ กล่าวภายหลังว่า กทม.เป็นเมืองใหญ่ที่ต้องมีคณะทำงาน เพราะผู้ว่าฯเพียงคนเดียวไม่สามารถดูแลประชาชน แก้ปัญหาต่างๆได้ทั่วถึง โดยจะตั้งคณะกรรมการของผู้ว่าฯ 5 คน แต่ละคนจะดูแลใน 10 เขต นโยบายเน้นการศึกษาท่องเที่ยว พัฒนาเศรษฐกิจฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้ กทม.เป็นเมืองแถวหน้า ใช้สโลแกน "วิญญาณไทย ใจสากล ตัวตนเต็มไปด้วยเทคโนโลยี" ซึ่งตนจะลงพื้นที่เดินหาเสียงด้วย โดยเน้นแสดงวิสัยทัศน์ผ่านสื่อ


   


นอกจากนี้ได้มีผู้สมัครสังกัดอิสระอีก 2 คน คือนายธรรณม์ชัย รุ่งโรจน์ ผู้สมัครหมายเลข 11 และนายอุดม วิบูลย์เทพาชาติ หมายเลข 13 สำหรับผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.เมื่อปิดรับสมัครในวันสุดท้าย มีทั้งสิ้น 14 คน ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (กกต.ทถ.กทม.) จะได้ตรวจสอบคุณสมบัติ และประกาศรายชื่อและหมายเลขประจำตัวผู้สมัครทั้งหมด ภายใน 7 วัน โดยจะมีเวลาหาเสียง 37 วัน และเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 11 ม.ค.52


 


 


ความมั่นคง


จับผู้ต้องหาคดีฆ่า"ครูจูหลิง" สารภาพก่อเหตุอื่นอีกเพียบ


มติชน - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส และพ.ต.อ.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผกก.สภ.รือเสาะ นำกำลังตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง 100 นาย เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 18/1 บ้านอีนอ หมู่ 3 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ ซึ่งเป็นบ้านของนายดอเลาะ โต๊ะโมง อายุ 36 ปี ครูสอนศาสนาใน ต.ลาโล๊ะ ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่พบนายนาซรูดิง มาเย๊าะกาเซ๊ะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/1 บ้านกูจิงลือปะ หมู่ 4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซ่อนอยู่ในบ้านดังกล่าว จึงคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.รือเสาะ


 


จากการตรวจสอบ นายนาซรูดิงเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.นราธิวาส คดีร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้าย น.ส.จูหลิง ปงกันมูล ครูโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ ให้เสียอิสรภาพ เป็นเหตุให้ น.ส.จูหลิงเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อเดือนมิถุนายน 2549 และมีหมายจับคดีใช้อาวุธปืนยิงขบวนรถไฟในเขต อ.ระแงะ เมื่อเดือนมิถุนายน 2549 และยังรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุคดีอื่นด้วย ใช้อาวุธปืนยิงนางลัดดา สุทธานี อายุ 60 ปี เจ้าของร้านค้าเสียชีวิต และยิงนางดารณี วงศ์ดวงแก้ว อายุ 38 ปี บุตรสาวนางลัดดา บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ร้านขายของชำ เลขที่ 12 บ้านบริจ๊ะ หมู่ 7 ต.ลาโล๊ะ ต.รือเสาะ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา


 


 


เศรษฐกิจ


เอทีแอนด์ทีประกาศปลดพนักงานหมื่นสองพันคน


www.siamintelligence.com - ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมสหรัฐฯ เอทีแอนด์ที ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าจะปลดพนักงาน 12,000 ตำแหน่ง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในช่วงเศรษฐกิจขาลง


 


จากรายงานของบริษัทให้ข้อมูลว่า แผนการลดพนักงาน 12,000 ตำแหน่ง หรือประมาณ 4% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด จะเริ่มดำเนินการในเดือนธันวาคม และตลอดปีหน้านี้ โดยการลดจำนวนพนักงานครั้งนี้เป็นผลมาจากแรงกดดันทางเศรษฐกิจ และการปรับโครงสร้างองค์กรให้คล่องตัวขึ้น แผนลดจำนวนพนักงานเป็นส่วนหนึ่งในแผนการตัดการใช้จ่ายในปีหน้า ซึ่งจะมีการเสนอข้อมูลเพิ่มเติมในเดือนมกราคม อันเป็นช่วงเวลาที่บริษัทจะออกรายงานทางการเงินไตรมาสสี่


 


แต่รายงานยังแจ้งว่าแม้ว่า AT&T จะลดกำลังคนในบางส่วน แต่บริษัทก็ยังเพิ่มตำแหน่งคนในธุรกิจอื่นอีกด้วย — เช่นธุรกิจไร้สาย, วิดิโอ และบรอดแบนด์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า


 


 


พนง.เครือดั๊บเบิ้ลเอประท้วงถูกบีบออก-ลดเงิน 50%


เว็บไซต์คมชัดลึก - ที่ จ.ขอนแก่น กลุ่มพนักงานบริษัท ศรีบ้านไผ่ จำกัด ต.หินตั้ง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบริษัทที่รับซื้อไม้ยูคาลิปตัสในเครือบริษัท ดั๊บเบิ้ลเอ จำกัด จำนวน 56 คน นำโดยนายธวัชชัย นามเชียงใต้ ผู้จัดการฝ่ายการจัดซื้อไม้ยูคาลิปตัส สาขา อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ได้ออกมาประท้วงเรียกร้องสิทธิของพนักงาน



นายธวัชชัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายภานุวัฒน์ หงษ์ทอง ผู้บริหารของบริษัท แจ้งให้พนักงานทราบว่าบริษัทมีนโยบายลดอัตราเงินเดือนของพนักงานลง 50% ต่อเดือน นอกจากนี้ ยังเสนอโยกย้ายให้ผู้จัดการฝ่ายการจัดซื้อไม้ยูคาลิปตัสในพื้นที่ 19 อีสานไปเป็นพนักงานขนไม้ยูคาลิปตัสเข้าเครื่อง โดยให้ค่าตอบแทนคิดเป็น 50% ของเงินเดือนเดิม อีกทั้งบริษัทยังมีนโยบายพักงานพนักงานทั้งหมดเป็นเวลา 3 เดือน โดยไม่มีการจ่ายเงินเดือน ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิของลูกจ้าง


   


ขณะที่นายภานุวัฒน์ หงส์ทอง ผู้บริหารบริษัท ศรีบ้านไผ่ จำกัด กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นนโยบายของบริษัทแม่ที่แจ้งมา จึงจำเป็นต้องทำตามคำสั่ง แต่ในกรณีเรื่องของสวัสดิการต่างๆ นั้น บริษัทจะหารือกันอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุป และจะมีการนัดประชุมชี้แจ้งให้พนักงานทราบในเร็วๆ นี้



ส่วนความคืบหน้ากรณีพนักงานบริษัท คอบบร้า อินเตอร์เนชั่นแนล ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร อ.เมือง จ.ชลบุรี ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมหลังบริษัทปิดกิจการเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมนั้น นายนาวิน สีมาพันธ์ ประธานสหภาพแรงงานบริษัท คอบบร้าฯ กล่าวว่า บริษัทยังไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน หลังมีการเจรจาเรียกร้องให้จ่ายโบนัส 2 หมื่นบาท ขึ้นเงินเดือน 8% โดยล่าสุดสหภาพแรงงานได้เรียกร้องเงินส่วนที่พนักงานจะได้รับทั้งหมดคือ 90 ล้านบาท แบ่งชำระปลายเดือนธันวาคม 2551 จำนวน 45 ล้านบาท และต้นเดือนเมษายน 2552 จำนวน 45 ล้านบาท ซึ่งตัวแทนของบริษัทรับปาก จะไปเจรจากับผู้มีอำนาจต่อไป หากไม่ประสบผลสำเร็จ พนักงานจะรวมตัวประท้วงหน้าบริษัทตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม เป็นต้นไป


   


นางอุไรวรรณ เทียนทอง รักษาการ รมว.แรงงาน กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์การเลิกจ้างในขณะนี้น่าเป็นห่วงมาก และอาจมีตัวเลขคนตกงานนับล้านคนตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังลุกลามเหมือนโดมิโนล้มเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสถานการณ์ทางการเมืองในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น การยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่งผลกระทบต่อสถานประกอบการจำนวนมาก อาจเร่งทำให้คนตกงานเพิ่มมากขึ้น กระทรวงแรงงานจะนำนโยบายแก้ปัญหาวิกฤติการเลิกจ้างที่เตรียมไว้มาปรับให้เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะงบประมาณ 1,536 ล้านบาท ที่กำลังขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหา คาดว่าจะได้รับในเร็วๆ นี้ และจะต้องนำมาใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชน เพื่อบรรเทาปัญหาให้ได้มากที่สุด



นางอุไรวรรณกล่าวอีกว่า สถานการณ์เลิกจ้างล่าสุด มีสถานประกอบการปิดกิจการเพิ่มขึ้นเป็น 519 แห่ง ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง 44,794 คน และยังมีสถานประกอบการที่มีแนวโน้มจะถูกเลิกจ้างอีก 2,000 แห่ง ลูกจ้าง 83,721 คน


 


 


สถานะสหกรณ์ส่อเค้าง่อนแง่นเกษตรฯสั่งจับตาเข้มหวั่นวิกฤติการเงินโลกกระทบหนัก


เว็บไซต์แนวหน้า - นางสาวสุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้เชิญตัวแทนสหกรณ์ออมทรัพย์ 150 แห่งเข้าร่วมรับฟังแนวทางในการบริหารการเงินของสหกรณ์ เนื่องจากสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นสถาบันการเงิน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลก ที่กำลังอยู่ในภาวะถดถอย ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรลดลง ตลาดผู้นำเข้าเริ่มชะลอการนำเข้า มีผลต่อรายได้ของเกษตรกร และในส่วนของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ อาจมีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง รวมถึงสถานประกอบการที่ผลิตสินค้า เพื่อส่งออกประสบปัญหาต้องเลิกกิจการ ลดจำนวนพนักงานหรือปรับลดเงินเดือน กรณีดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ในสถานประกอบการ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวน 455 แห่ง


   


วิกฤติการณ์ดังกล่าวจึงส่งผลมาถึงการดำเนินงานของสหกรณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม สหกรณ์จึงควรติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด และปรับทิศทาง วิธีการบริหารการเงิน รวมถึงกำหนดแนวทางในการดำเนินธุรกิจในทันต่อการเปลี่ยนแปลง และบริหารงานโดยยึดหลักธรรมาภิบาล (Good govemance) ที่ระบบที่โปร่งใสตรวจสอบได้ ดำเนินธุรกิจให้เหมาะสม สอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละสหกรณ์ และไม่สร้างความเสี่ยงในการดำเนินการเพิ่มมากขึ้น


 



อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาผลกระทบจากวิกฤติการเงินที่มีต่อระบบสหกรณ์ พร้อมทั้งหาทางป้องกันปัญหาที่ส่งผลกระทบกับสหกรณ์ต่างๆ ประเด็นที่สหกรณ์ควรระมัดระวัง ได้แก่ สหกรณ์ที่ระดมทุนจากแหล่งทุนภายนอก ควรดำเนินนโยบายบริหารการเงินด้วยความรอบคอบ รัดกุม คำนึงถึงหลักการ Matching Fund สะสมทุนสำรองให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สหกรณ์มีทุนจากแหล่งภายในเพียงพอและลดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงภายนอก ส่วนสหกรณ์ที่นำเงินไปให้สหกรณ์อื่นกู้ยืม ควรตรวจสอบงบการเงินของสหกรณ์ผู้ขอกู้และระบบควบคุมภายใน ประกอบการพิจารณาปล่อยกู้ ขณะเดียวกัน สหกรณ์ทุกแห่งควรมีการวางแผนรองรับในระยะยาว ด้วยการรณรงค์เงินออมในสหกรณ์อย่างจริงจัง ทบทวนการบริหารการเงินและหลักเกณฑ์การให้เงินกู้แก่สมาชิก และสร้างวินัยทางการเงินให้กับผู้บริหารและสมาชิกสหกรณ์ โดยยึดหลักของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแนวทางในบริหารงานสหกรณ์ให้สามารถผ่านพ้นวิกฤติทางการเงินปัจจุบันไปได้ในที่สุด


 


 


ร้านค้าย่อย"หั่นสต็อก"สินค้า เตรียมรับมือวิกฤติศก.ปีหน้า


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - นายสมชัย สุทธิกุลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส รับผิดชอบกลุ่มเครื่องนอนแอลกอฮอล์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้จำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อแรงเยอร์ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ในร้านค้าย่อยไม่ค่อยดีนัก เจ้าของร้านย่อยหลายแห่งเริ่มสต็อกสินค้าน้อยลง ยิ่งสินค้าไหนขายเงินสดจะลำบากเพราะเจ้าของร้านอยากที่เก็บเงินสดไว้มากกว่าในขณะที่เจ้าของสินค้าต้องการได้เงินสดจากร้านค้ามาหมุนเร็วขึ้นด้วยการร่นระยะเวลาเครดิตเทอมให้สั้นลงจากเดิมอยู่ที่ 30-60 วัน


 



"ตอนนี้เจ้าของร้านระมัดระวังการซื้อสินค้าเข้าร้าน เพราะลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายทำให้ขายสินค้ายากขึ้น สังเกตได้จากปริมาณการเข้าร้านอาหารของคนไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าผู้คนขาดความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยตามปกติ ประกอบกับจำนวนนักเที่ยวที่พักในโรงแรมน้อยลง ส่งผลให้ยอดขายตามโรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคารลดลง"


   


นายสมชัย กล่าวต่อว่า ปัจจัยลบเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจ และการเมืองที่ผันผวนในรุนแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทุกคนขาดความมั่นใจ ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ไม่ลงทุน เพราะยังมองไม่เห็นทิศทาง ทำให้ไม่สามารถวางแผนการทำงานในปีหน้าได้เหมือนกับทุกๆ ปีที่ผ่านมา ซึ่งปกติธุรกิจต้องวางแผนให้เสร็จสิ้นไปตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในประเทศจะดำเนินต่อไปอย่างไร และความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจะจบลงเมื่อไร รวมถึงผลพ่วงจากเหตุการณ์หลังจบปัญหาลงไปได้จะเกิดอะไรขึ้น และผลนั้นยังคงยืดเยื้อต่อไปในอนาคตมากน้อยเพียงใด


   


นายสมชัย ยอมรับว่า ในส่วนของเครื่องดื่มแรงเยอร์ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงานนั้น คงได้ผลกระทบมาก หากว่าเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวต่อไปในปีหน้า กลุ่มผู้ใช้แรงงานอาจจะมีงานทำน้อยลง หรืออาจถึงขั้นตกงาน ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น การทำตลาดสินค้าคงยากขึ้น และส่งผลให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังที่มีมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาทไม่เติบโต อย่างไรก็ตามในส่วนของเครื่องดื่มแรงเยอร์เองคงต้องพยายามที่รักษาส่วนแบ่งตลาดที่มีอยู่ 5% ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งถือเป็นอันดับ 4 ในตลาดเอาไว้อย่างเหนี่ยวแน่น


 



ขณะที่นายพิทยา พันธุ์เพ็ญโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคคา โฮลดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวยอมรับว่า แนวโน้มปีหน้าผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่ายมาก และขึ้นอยู่กับ ทิศทางของการเมืองต่อจากนี้หากยังไม่นิ่ง ก็จะส่งผลต่อความมั่นใจของผู้บริโภค สังเกตได้จากยอดขายของโคคา ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินภูเก็ต ก่อนหน้านี้ ยอดขายหายไป 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากแนวโน้มดังกล่าว อาจจะทำให้ร้านอาหารได้รับผลกระทบมากในปีหน้า เพราะทุกคน งดจ่ายและหันไปทานข้าวในบ้านกันมากขึ้น


 



"ขณะนี้พบว่า ความถี่ในการเข้าร้านอาหารของคนไทยลดลงและการจ่ายเงินเฉลี่ยต่อครั้งไม่เกิน 300 บาทโดยในกลุ่มคนทำงานที่มีอายุ 28-30 ปีจากเดิมต่อครั้งเฉลี่ยอยู่ที่ 500 บาท แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ผู้บริโภคขาดความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย เพราะ ไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจการเมือง"นายพิทยากล่าว


 


 


คุณภาพชีวิต


คนพิการทั่วโลกกว่า 400 ล้านคนอยู่ประเทศยากจน-วอนรัฐช่วยพัฒนา


เว็บไซต์คมชัดลึก - เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย และองค์กรเครือข่ายด้านคนพิการ ร่วมกันจัดงาน "CRPD สู่ศักดิ์ศรีสร้างสังคมที่ดี มีความยุติธรรม" เนื่องในโอกาสวันคนพิการสากลวันที่ 3 ธันวาคม 2551 ซึ่งในปีนี้ นายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวสุนทรพจน์ตอนหนึ่งว่า การจะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ เราจะต้องให้คนพิการเข้ามามีส่วนร่วมในทุกกระบวนการ ซึ่งปัจจุบันกว่า 80%ของคนพิการ หรือมากกว่า 400 ล้านคน อาศัยอยู่ประเทศยากจน จึงต้องช่วยกันทำงานเพื่อยุติวัฏจักรความพิการและความยากจน


 



 "ข้าพเจ้าขอร้องให้รัฐบาลรวมถึงผู้มีส่วนร่วมช่วยกันทำให้ขั้นตอนการพัฒนาคนพิการ และหน่วยงานที่ช่วยเหลือพวกเขารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยวิธีนี้จะส่งเสริมการบูรณาการและสร้างสรรค์อนาคตที่ดีขึ้นแก่ทุกคนในสังคม" นายบัน คี มุน กล่าว


   


นายมณเฑียร บุญตัน สมาชิกวุฒิสภา ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "คนพิการไทยได้อะไรจาก CRPD : อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ" ว่า อนุสัญญานี้เป็นกฎหมายระหว่างประเทศฉบับแรกเกี่ยวกับคนพิการ ซึ่งประเทศไทยให้สัตยาบันเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีผลให้ประเทศไทยต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของอนุสัญญาตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2551 โดยสิทธิของคนพิการตามอนุสัญญานี้ ได้แก่ 1.ความเสมอภาค 2.สิทธิการมีชีวิต เสรีภาพ และความมั่นคงของบุคคล 3.สิทธิที่ได้รับการยอมรับ 4.เสรีภาพจากการถูกทรมาน 5.เสรีภาพจากการใช้ความรุนแรงและการถูกล่อลวง


   


6.สิทธิทางร่างกายและจิตใจ 7.เสรีภาพในการย้ายถิ่นฐาน การถือสัญชาติ 8.สิทธิที่อยู่อาศัย 9.เสรีภาพในการแสดงออก 10.เคารพการเป็นส่วนตัว 11.เคารพในการสร้างครอบครัว 12.สิทธิด้านสุขภาพ 13.สิทธิทางการศึกษา 14.สิทธิในการทำงาน 15.สิทธิสำหรับมาตรฐานความเป็นอยู่ที่เพียงพอ 16.สิทธิในการมีส่วนร่วมทางการเมือง และสาธารณกิจ และ 17.สิทธิในการมีส่วนร่วมด้านวัฒนธรรม


 



 "อนุสัญญานี้ถือเป็นกฎหมาย หากละเมิดแม้ไม่มีหน่วยงานใดจับกุม แต่จะถูกลงโทษด้วยการตำหนิติเตียน ประณาม ตักเตือนในเวทีระดับโลก จากเดิมที่มองความพิการเป็นเรื่องส่วนตัวอยู่ที่เวรกรรมของแต่ละคน เป็นสังคมเวทนานิยม กลายเป็นสังคมฐานสิทธิ ที่ให้คนพิการได้รับประโยชน์ตามสิทธิ มีเสรีภาพในการเลือกกระทำการต่างๆโดยปราศจากการเลือกปฏิบัติ" นายมณเฑียรกล่าว


 


 


กทช. ดันร่างฉบับใหม่ ตัดสัญญาณมือถือกันจุดระเบิด


เว็บไซต์แนวหน้า - นายประเสริฐ อภิปุญญา รองเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) เปิดเผยว่า กทช.ได้รับฟังความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับร่างประกาศ กทช.เรื่องหลักเกณฑ์ และวิธีการงดหรือระงับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรือมีความจำเป็น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนความมั่นคงของประเทศ หรือเสถียรภาพทางเศรษฐกิจหรือเพื่อป้องกันประโยชน์สาธารณะ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการที่เป็นผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น


 



สำหรับวัตถุประสงค์หลักในร่างหลักเกณฑ์ดังกล่าว เพื่อป้องกันปัญหาเหตุฉุกเฉินหรือเหตุการจุดชนวนระเบิดโดยผ่านอุปกรณ์สื่อสาร เช่น โทรศัพท์มือถือที่อาจส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายกับประเทศได้



"เหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมา มีผู้ไม่หวังดีนำอุปกรณ์สื่อสารเป็นอุปกรณ์ในการจุดชนวนระเบิด ทางกทช.จึงต้องการให้มีร่างประกาศในเหตุการณ์นี้ขึ้นมา เพื่อป้องกันบุคคล และสถานที่ ไม่ให้เกิดเหตุร้ายได้" นายประเสริฐ กล่าว


   


โดยในการประชาพิจารณ์หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ประกอบการที่เข้ารับฟังความคิดเห็น ต่างเป็นห่วงและให้เหตุผลประกอบในร่างนี้ว่า อยากให้ กทช.มีความชัดเจนในร่างประกาศ เนื่องจากกฎเกณฑ์นี้ควรกำหนดผู้รับผิดชอบ หรือผู้รับคำสั่งให้ปฏิบัติหน้าที่ในการระงับหรือตัดสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ เมื่อมีกรณีระเบิดเกิดขึ้น


 



"ผู้ร่วมประชาพิจาร์ณต้องการให้ระบุรายละเอียดเรื่องการระงับอุปกรณ์สื่อสาร เนื่องจากปัจจุบันอุปกรณ์ในการสื่อสารมีมากขึ้น ซึ่งควรชี้แจงรายละเอียดนี้ให้ชัดเจน อีกทั้งในการสั่งบล็อกพื้นที่อัตราย ควรมีการกำหนดรายละเอียดของพื้นที่และต้องประเมินความเสียหายด้วย เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงอาจได้รับผลกระทบจากการบล็อกสัญญาณไปด้วย" นายประเสริฐ กล่าว


   


นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องการความชัดเจนในประเด็นค่าความเสียหายเมื่อมีการสั่งบล็อกพื้นที่ไปแล้วว่า หน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ รวมทั้งหน่วยงานที่จะรับคำสั่งหรือผู้สั่งระงับควรมีความชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนของผู้รับผิดชอบ และลดขั้นตอนลง ซึ่ง กทช.จะนำประเด็นเหล่านี้มาสรุปผลการประชาพิจารณ์ต่อไป


 


 


ต่างประเทศ


แย้งฮิลลารีขาดคุณสมบัติเป็นรมว.ต่างประเทศ


เว็บไซต์คมชัดลึก-วอชิงตัน-กลุ่มนักกฎหมายแย้ง ฮิลลารี คลินตัน ขาดคุณสมบัติเป็น รมว.ต่างประเทศ ขณะที่โอบามาเลือก บิล ริชาร์ดสัน เป็น รมต.พาณิชย์


   


กลุ่มปกป้องผลประโยชน์สาธารณชนของสหรัฐที่ชื่อ "จูดิเชิล วอทช์" ได้ออกคำเตือนเมื่อวันพุธ (3 ธ.ค.) ว่านางฮิลลารี คลินตัน อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลนายบารัก โอบามา โดยอ้างบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่ห้ามแต่งตั้งสมาชิกรัฐสภาที่รับรองกฎหมายขึ้นเงินเดือนฝ่ายบริหารเข้าดำรงตำแหน่งในรัฐบาล เพื่อป้องกันการมีส่วนได้เสียของสมาชิกรัฐสภาผู้นั้น ขณะที่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เพิ่งลงนามกฎหมายปรับขึ้นเงินเดือนให้รัฐมนตรีต่างประเทศ และกฎหมายนี้ได้ผ่านความเห็นชอบในรัฐสภาระหว่างที่นางฮิลลารีดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกรัฐนิวยอร์ก


   


อย่างไรก็ตาม เหล่าแกนนำพรรคเดโมแครตต่างไม่เชื่อว่าการแต่งตั้งนางฮิลลารีเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศจะมีปัญหา เพราะมีหนทางมากมายที่จะแก้ไขเรื่องนี้ อย่างเช่น ให้วุฒิสภาซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากอยู่ ลงมติให้ปรับเงินเดือนของรัฐมนตรีต่างประเทศกลับไปเท่าเก่า ซึ่งเป็นวิธีที่เคยใช้มาแล้วในรัฐบาลหลายสมัย ทั้งสมัยประธานาธิบดี วิลเลียม ทัฟต์ เมื่อปี 2452 และแม้แต่สมัยประธานาธิบดีบิล คลินตัน ก็เคยใช้วิธีนี้เพื่อแต่งตั้งวุฒิสมาชิกลอยด์ เบนต์เซน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง


   


ด้านอดีตประธานาธิบดีคลินตันได้ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นที่ฮ่องกงเรื่องที่ภรรยาจะรับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศว่า นางฮิลลารีเองก็ตกใจไม่น้อยที่ทราบข่าวในตอนแรก และต้องคิดหนักเมื่อได้รับข้อเสนออย่างเป็นทางการเพราะเธอรักงานในตำแหน่งวุฒิสมาชิกมากกว่าทุกงานที่เคยทำมา พร้อมย้ำว่าตัวเขาเองแทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจรับตำแหน่งของฮิลลารี และคิดว่าภรรยาตัดสินใจถูกต้องแล้ว แต่ข้อเสียอย่างเดียวจากการตัดสินใจนี้ก็คือ ต่อไปเขาและเธอจะมีเวลาส่วนตัวร่วมกันน้อยลง


   


ขณะเดียวกัน นายโอบามาได้ประกาศเลือกนายบิล ริชาร์ดสัน ผู้ว่าการรัฐนิวเม็กซิโก ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์ในรัฐบาลของตัวเอง นับว่านายริชาร์ด เป็นนักการเมืองเชื้อสายสเปนคนแรกที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายโอบามา โดยเขาเคยเป็นคู่แข่งกับนายโอบามาชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อต้นปี รวมถึงเคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆ เช่น รัฐมนตรีพลังงาน และทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติสมัยคลินตัน


 


 


ปากีสถานยันไม่รับผิดชอบบึ้มมุมไบ


แนวหน้า - อิสลามาบัด (เอเอฟพี) - ประธานาธิบดี อาซิฟ อาลี ซาร์ดารี ของปากีสถาน ยืนยันผ่านการให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นของสหรัฐ ว่าปากีสถานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่โจมตีนครมุมไบ ของอินเดีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดังนั้น ไม่มีทางที่ปากีสถานจะต้องเข้าไปรับผิดชอบเรื่องนี้ แม้ทางอินเดียยืนยัน ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุเพียงรายเดียวที่จับมาได้ ระบุกับตำรวจอินเดียว่า ตัวเขาเองเป็นชาวปากีสถาน ด้วยเหตุนี้ ตำรวจอินเดียจึงเชื่อมั่นว่า ผู้ก่อเหตุโจมตีนครมุมไบทั้งหมดเป็นชาวปากีสถาน แต่ประธานาธิบดี ซาร์ดารี ของปากีสถาน กลับให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ แลร์รี คิง ไลฟ์ ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า เขาผู้นั้นเป็นชาวปากีสถาน ตามการกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่อินเดีย เขายังคิดว่า กลุ่มคนร้ายที่สร้างความปั่นป่วนให้กับภูมิภาคเอเชียใต้อยู่ในขณะนี้ เป็นพวกไร้สัญชาติด้วยซ้ำ


   


ขณะที่อินเดียกลับกล่าวตำหนิกลุ่มติดอาวุธในปากีสถานว่า เป็นผู้ก่อการร้ายโจมตีนครมุมไบในครั้งนี้ และเรียกร้องให้ปากีสถานส่งมอบตัวแกนนำกลุ่มติดอาวุธให้กับทางการอินเดีย เพราะต้องสงสัยจะเป็นผู้วางแผนก่อเหตุ แต่ทางรัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน กลับเสนอที่จะร่วมสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวกับอินเดีย และย้ำว่า นี่ไม่ใช่เวลาจะมาชี้นิ้วว่าใครผิด แต่ควรร่วมมือกันปราบปรามเหตุก่อการร้ายมากกว่า


 


 
สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net