Skip to main content
sharethis

วันที่ 25 ธันวาคม 2551 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายวีระ มุสิกพงษ์ และแกนนำผู้จัดรายการความจริงวันนี้แถลงที่ ที่ร้านสภากาแฟ ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ประกาศชุมนุมต่อต้านรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ จนกว่าจะมีการยุบสภา โดยให้เหตุผลหลัก 2 ประการสำคัญคือ กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร และไม่มีการแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว และกรณีที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ที่เคยเข้าร่วมการชุมนุมเป็นหนึ่งในผู้ปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยซึ่งปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิและทำเนียบรัฐบาล


 


นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในวันที่ 28 ธันวาคม จะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง จะมีการจัดตั้งคนเสื้อแดงทั้งประเทศ เพื่อต่อต้านรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์และมีเป้าหมายร่วมกันเพื่อให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน นอกจากนี้จะมีการตั้งทีมทนายเสื้อแดง มาดูแลด้านกฎหมาย และกลุ่มนักวิชาการเสื้อแดงที่คอยให้ความรู้กับประชาชนผู้รักประชาธิปไตย และภายในต้นปี 2552 จะมีการเปิดช่องทางการสื่อสารสำหรับคนเสื้อแดงทั้งประเทศ จะเชิญคนเสื้อแดงจากทั่วประเทศมาสื่อสารกับประชาชน


 


การเคลื่อนไหววันที่ 28 ต่อวันที่ 29 หรือ 30 ธันวาคม และในวันต่อๆ ไป จะมีการเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นมากกว่าทุกครั้ง รูปแบบก็จะแปลกแตกต่างกับการชุมนุมครั้งใดที่เคยเกิดขึ้น แต่จะไม่ใช้วิธีการเหมือนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธปไตยเคยทำ โดยเฉพาะการดาวกระจายแล้วไปยึดสถานที่สำคัญต่างๆ


ส่วนการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ประสานงาน แต่คาดว่าจะได้ความชัดเจนก่อนวันที่ 28 ธันวาคมแน่นอน


 


โดยนายณัฐวุฒิกล่าวว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้นำพรรคการเมืองที่มีสมาชิกของพรรคได้ก่อการละเมิดกฎหมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติสาสตร์ประเทศไทย ทั้งการยึดทำเนียบรัฐบาล ยุดสนามบินนานาชาติสร้างความเสียหายแก่ประเทศนับแสนล้านบาท "วันนี้คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไม่สามรารถดำรงอยู่ในฐานะนายกฯ ได้เลย ถ้าเรามีความคิดเดียวกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เราก็จะบุกยึดทำเนียบรัฐบาล แต่เราไม่มีความต้องการนั้น แต่เราต้องการแสดงออกว่าคุณอภิสิทธิ์ไม้มีความสง่างามในการดำรงตำแหน่งนายกฯ คุณอภิสิทธิ์ต้องเกรงใจกองทัพ เกรงใจพันธมิตร ฯ เกรงใจผู้ก่อการร้าย แล้วถามวาจะบริหารบ้านเมืองไปได้อย่างไร " นายณัฐวุฒิกล่าว


 


ทั้งนี้ได้กล่าวพาดพิงถึงนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ด้วยว่า "ขอชื่นชมนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่วางอำนาจบาตรใหญ่ แสดงความเด็ดขาดตั้งแต่รัฐบาลยังไม่ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ด้วยการสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงทุก 6 ชั่วโมง แต่นายบุญจงซึ่งครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่ข้างๆ เวทีคนเสื้อแดง ขณะที่พวกตนยืนอยู่บนเวที ไม่ทราบว่าบทบาทของนายบุญจงเป็นรัฐมนตรีหรือคนเชียร์แขกให้กลุ่มคนเสื้อแดง


ที่สำคัญคือไม่ทราบว่ามีใครไปรายงานให้นายบุญจงทราบหรือยังว่าขณะนี้มีบุคคลลึกลับ พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ชวนแกนนำคนเสื้อแดง แกนนำวิทยุชุมชน และแกนนำชาวบ้านในต่างจังหวัดที่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับคนเสื้อแดงให้ไปพักผ่อนเก็บตัวกันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงวันที่ 26 ธันวาคมเป็นต้นไป โดยบุคคลลึกลับคนนั้นชื่อ "ดิ่ง" เราได้รับการแจ้งมาจากแกนนำคนเสื้อแดงหลายพื้นที่ และบุคคลเหล่านี้ได้ปฏิเสธไปเรียบร้อยแล้วว่าจะไม่ไปเก็บตัวตามคำชักชวน"


 


นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เรียกร้องให้ยุติการแบ่งสีของคนไทยนั้น พล.อ.อนุพงษ์พูดแบบนี้คิดว่าตัวเองวางตัวเป็นกลางทางการเมืองจนประชาชนไว้ใจได้แล้วหรือ โดยเฉพาะการงอมืองอเท้าให้กลุ่มพันธมิตรเข้ายึดสนามบินโดยไม่ทำอะไร แล้วเอาแต่ออกโทรทัศน์เพื่อกดดันรัฐบาล แอบไปจัดตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหารเหมาะสมแล้วหรือ สิ่งแรกที่ควรจะต้องถอยออกจากการเมืองในระบอบประชาธิปไตยคือสีเขียวของ พล.อ.อนุพงษ์


 


นายจตุพร กล่าวว่า การชุมนุมวันที่ 28 ธันวาคมนั้นใช้ชื่อรายการว่า "ความจริงวันนี้ ความจริงประเทศไทย ไม่ไว้วางใจอภิสิทธิ์" ซึ่งไม่สามารถใช้วิธีการใดมาสกัดกั้นประชาชนได้ ล่าสุด รับทราบมาว่าหน่วยข่าวกรองได้รายงานกับรัฐบาลว่าจะมีประชาชนจากจังหวัดต่างๆ เข้ามาร่วมชุมนุมประมาณ 3,800 คน การที่พรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลได้ด้วยวิธีการที่ไม่เป็นประชาธิปไตยก็สมควรแล้วที่จะได้รับการรายงานจากข่าวกรองแบบนั้น


 


นอกจากนี้มีความพยายามที่จะบอกว่าแกนนำกลุ่มมวลชนต่างๆ จะไม่เข้ามาร่วมชุมนุม ซึ่งบอกได้เลยว่ากรณีของนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดรที่ประกาศไม่มาร่วมชุมนุมนั้นได้ประสานงานกันผ่านโทรศัพท์แล้ว และการชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถานและสนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ กลุ่มของนายขวัญชัยก็ไม่ได้มาร่วม แต่ประชาชนก็ยังมาร่วมเป็นจำนวนมาก


 


นายจตุพร กล่าวว่า การชุมนุมวันที่ 28 ธันวาคม นอกจากจะมีการพูดถึงกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปพูดจากวนเท้าคนไทยทั้งประเทศ กรณีที่กลุ่มพันธมิตรเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว จะมีการร้อยเรียงเอกสารการหนีทหารของนายอภิสิทธิ์ตั้งแต่ต้นจนละเอียด ผมจะใช้ในการอภิปรายระหว่างการแถลงนโยบายรัฐบาลด้วย อยากจะท้านายอภิสิทธิ์ว่าในช่วงที่ผมอภิปรายอย่าให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทำการประท้วง


 "กรณีนายกษิต ภิรมย์ กระทำเช่นผู้ก่อการร้ายชัดเจน รัฐบาลไหนที่ยังมีสำนึกรับผิดชอบจะตั้งคนแบบนี้ไม่ได้ แต่คุณอภิสิทธิ์ก็ทำ อย่างไม่รับผิดชอบประชาชน เกรงใจผู้ก่อการร้ายมากกว่าประชาชน เรามีนายกฯ ที่เข้าสู่ตำแหน่งจากกองซากปรักหักพังจากเหตุการณ์บุกยึดสนามบิน แต่นายกฯ ยังโอบอ้อมปกป้องคนที่มีส่วนนำในการก่อการนั้น" นายจตุพร กล่าวและว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์วางกฎเหล็กออกมา 9 ข้อ ก็ล้วนมีปัญหากับนายอภิสิทธิ์ทุกข้อ เพราะในขณะที่ความรับผิดชอบกฎหมาย แต่ความรับผิดชอบทางการเมืองก็ต้องมีความสำคัญเช่นกัน "การหนีทหารแล้วเอาหลักฐานปลอมไปสมัครเข้ารับราชการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อย แม่หลายคนจะอธิบายว่าเรื่องราวขาดอายุความ แต่ถามว่าความรับผิดชอบทางการเมืองอยู่ที่ไหน"


 


 นางมยุรี เศวตาศัย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประตูน้ำพระอินทร์ กล่าวว่า กลุ่มเสื้อแดงในตลาดประตูน้ำพระอินทร์ที่เกาะกลุ่มกันเหนียวแน่น 200 คน และแต่ละคนมีเครือข่ายอีกจำนวนมาก ยืนยันว่าจะไปร่วมกับพี่น้องคนเสื้อแดงจาก กทม.และต่างจังหวัด เพื่อประท้วงคัดค้านพร้อมกดดันการแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในวันที่ 29 ธันวาคม อย่างแน่นอน


 


"พวกเราไม่เคยกลัว กรณีกระทรวงมหาดไทยสั่งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่ง รายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงทุกๆ 6 ชั่วโมง เพราะเป็นการทำตามสิทธิกฎหมาย ทำแบบเปิดเผย และต้องการไปประท้วง ไม่ได้ไปยึดปิดล้อมสภา ทำเนียบ หรือสนามบินอย่างที่กลุ่มพันธมิตรทำ การสนองตอบคำสั่งของรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ก็คือการทำงานสนองตอบนายคนใหม่เท่านั้น


ส่วนเหตุผลการประท้วงครั้งนี้เพราะกลุ่มคนเสื้อแดงทั่วประเทศรับไม่ได้กับการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง เนื่องจากมีกลุ่มก๊วนหลายกลุ่มไร้สปิริต เป็นการเปลี่ยนขั้วที่ไม่ได้เกิดจากแนวนโยบายหรือแนวคิดในการทำงาน แต่เพื่อแลกกับประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งประเทศชาติไม่ได้อะไร"


 


ทั้งนี้ จะชุมนุมประท้วงด้วยความสงบ ไร้อาวุธ ไร้ความรุนแรง และไม่ขว้างปาสิ่งของเข้าใส่กลุ่ม ส.ส.หรือคณะรัฐมนตรี เพราะต้องการชุมนุมเพื่อไม่ให้รัฐบาลแถลงนโยบายเท่านั้น ส่วนจะมีมือที่ 3 หรือไม่นั้น คาดเดาไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ตำรวจต้องดำเนินการ คือตรวจสอบกลุ่มบุคคลแปลกปลอมและกลุ่มคนต้องสงสัย ที่จะเข้ามาปะปนกับกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะหากเกิดความรุนแรงขึ้น เชื่อได้เลยว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงต้องกลายเป็นแพะรับบาป


 


เนื้อหาบางส่วนจาก มติชนออนไลน์ http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1230207816&grpid=00&catid=01

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net