ประชา ธรรมดา
(1)
ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้ไม่นาน รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ประกาศนโยบายโฉนดที่ดินชุมชน และมาตรการเก็บภาษีที่ก้าวหน้า (ต่อมาถูกเจ้าที่ดินสังกัดพรรคประชาธิปัตย์คัดค้าน เรื่องนี้เลยเงียบไป) ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจให้ผู้คนมิใช่น้อย ที่หลงใหลชื่นชมนโยบายการปฏิรูปที่ดินของฮูโก ชาเวส ประธานาธิบดีแห่งเวเนซูเอล่า
มหาตามะ คานธี ผู้เอ่ยเอื้อนอมตะวาจาสัจจธรรมที่ว่า ทรัพยากรธรรมชาติมีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้น ใช่หรือไม่? เราจึงควรแบ่งปันกันใช้ ช่วยกันดูแลรักษาให้ยั่งยืนในอนาคต ต้องให้มีความเป็นธรรมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
ที่ดินในเมืองไทยถูกผูดขาด บางคนมีที่ดินนับหมื่นแสนไร่ บางคนมีที่ดินหลายสิบแปลง บางคนปล่อยที่ดินให้รกร้างว่างเปล่าไม่ทำประโยชน์ไว้เพียงเก็งกำไร
แต่หลายคนไม่มีที่ดินสักผืนพอเพื่อสร้างผลผลิตพืชพันธุ์ธัญญาหาร จึงต้องกลายเป็น "ผู้เช่า"
หลายคนไม่มีที่ดิน สร้างบ้าน จึงต้องเป็นคนจรหม่อนหมิ่นไร้บ้านไม่มีที่ซุกหัวนอนของตนเอง จึงเป็นเพียง "คนไร้บ้าน"
ใช่หรือไม่ ? ที่ดินเป็นต้นทุนทางสังคม จึงควรจัดสรรให้ยุติธรรม
(2)
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 ตัวแทนของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.) ได้เข้าประชุมหารือกับนาย ถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำเสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดินของพวกเขา
แต่ปัญหาของพวกเขาก็ยังถูกเมินเฉย ไม่ได้รับการดำเนินการแก้ไขเหมือนที่รับปากเอาไว้
ใช่หรือไม่? รัฐบาลปัจจุบันก็เหมือนเช่นหลายรัฐบาลที่ผ่านมา มักจงใจ สร้างภาพ รับปาก เมินเฉย ถ่วงเวลาฯลฯ ปัญหาของคนจนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
วันที่ 4 มีนาคม 2552 พวกเขาไม่อาจเชื่อถือนโยบายผ่านคำพูดอันสวยหรูของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ที่ได้แถลงไว้ได้
การชุมนุมเรียกร้องสิทธิและทวงสัญญาก็ปรากฏขึ้นในที่สุด ณ ทำเนียบรัฐบาล
เสรีภาพมิอาจได้มาด้วยการร้องขอ ฉันใด สิทธิในที่ดินมิอาจหล่นมาจากฟากฟ้า ฉันนั้น
(3)
การต่อสู้ของพวกเขา เป็นสิทธิอันพึงมีพึงได้ เป็นพื้นฐานที่ชอบธรรม เพื่อมิให้เจ้าหน้าที่รัฐรังแกยึดที่ดินทำกินมาครั้นสมัยบรรพชน เพื่อไม่ให้ถูกจับกุมคุมขังจากอาญาสิทธิ์ของกฎหมายที่หมายกดมากกว่ากฎหมายที่ยุติธรรม เพื่อให้มีนโยบายการกระจายการถือครองที่ดิน เพื่อสร้างหลักประกันสิทธิด้านสวัสดิการพื้นฐานของมนุษย์ที่เกิดมาแล้วรัฐต้องจัดให้มีที่ดินทำกิน มีที่อยู่อาศัยในฐานพลเมืองที่เสียภาษีให้รัฐ
การต่อสู้ในครั้งนี้จึงเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของพวกเขา
การต่อสู้ของพวกเขาเป็นแบบอย่างในสังคมประชาธิปไตย ที่ต้องเคารพเสรีภาพในการรวมกลุ่มของประชาชนสาขาอาชีพต่างๆ ได้อย่างเสรี
การต่อสู้ของพวกเขายังกู่ก้องให้โลกรู้ว่า นโยบายที่ดินในสังคมไทย มีความลำเอียง มีผู้คนจำนวนนับหลานสิบล้านคนไม่มีที่ดิน ไม่มีที่อยู่อาศัย
คนไร้ที่ดิน ชุมชน ทั้งในเมือง ป่าเขาลำเนาไพร ชนบทไกลปืนเที่ยงไม่มีอำนาจร่วม ไม่มีส่วนร่วมในการจัดการที่ดิน
มีแต่รัฐเท่านั้นผูกขาด และรัฐก็เป็นรัฐที่สร้างนโยบายให้ประโยชน์กับเจ้าที่ดิน นายทุนมากกว่าประชาชนผู้ทุกข์ยาก
การต่อสู้ของพวกเขาหาได้เป็นเพียงการทวงสิทธิ์ของตนเองเท่านั้น
แต่พวกเขากำลังต่อสู้เพื่อประชาชนคนส่วนใหญ่ในแผ่นดินด้วยเช่นกัน
ชัยชนะจักสมปองต้องต่อสู้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)