ภาพการเดินขบวนเพื่อ "งาน ความยุติธรรมและปัญหาโลกร้อน" เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา

อันเป็นการเปิดฉากการประท้วงการประชุม G20 ที่กรุงลอนดอน

ตัวเลขของผู้เดินขบวนมีการประเมินแตกต่างกันไปตั้ง 3,000 จนถึง 40,000 คน

แล้วแต่ว่าเราจะไปถามใคร

(ที่มา: UK Indymedia)

 

 

 

 

ภัควดี วีระภาสพงษ์ แปลข่าวจาก CBC News, April, 1, 2009: http://www.cbc.ca/world/story/2009/04/01/g20-protests-london034.html?ref=rss

 

 

 

ผู้ประท้วงชุมนุมในย่านการเงินของลอนดอน

ในวันพุธก่อนที่การประชุมสุดยอด G20 จะเปิดฉากในวันนี้

 

 

ชายผู้หนึ่งถูกพบเสียชีวิตในการประท้วง G20 ในอังกฤษ ขณะที่ผู้ประท้วงหลายพันคนชุมนุมในย่านการเงินของกรุงลอนดอนในวันสุกดิบก่อนการประชุมสุดยอดจะเปิดฉากขึ้น

 

ตำรวจประจำกรุงลอนดอนกล่าวว่า ชายดังกล่าวล้มลงบนพื้นถนนใกล้ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ

 

ตำรวจยังไม่ได้ระบุสาเหตุการตายที่แน่ชัด

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจประเมินว่า มีประชาชนอย่างน้อย 4,000 คน แออัดอยู่ในบริเวณนั้น มีบางกลุ่มร้องตะโกนคำขวัญว่า "ทำลายเงินทิ้งซะ" ขณะเดินขบวนมาตามถนนที่เนืองแน่นไปด้วยผู้ประท้วง

 

ขณะเดียวกัน นักกิจกรรมที่ประท้วงเรื่องปัญหาโลกร้อนตั้งเต็นท์และนั่งประท้วงกันหน้าตึกประชุม ส่วนกลุ่มต่อต้านสงครามจัดรณรงค์อยู่อีกที่หนึ่ง รูปถ่ายจากการประท้วงแสดงให้เห็นว่า มีผู้ประท้วงบางคนเลือดอาบใบหน้า ฝ่ายตำรวจก็อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่หลายคนได้รับบาดเจ็บ

 

ผู้ประท้วงต้องการเรียกร้องความสนใจจากผู้นำประเทศกลุ่ม G20 ซึ่งรวมทั้งนายกรัฐมนตรีสตีเฟน ฮาร์เปอร์ของแคนาดาและประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ ซึ่งมีหมายกำหนดการจะพบปะกันในการประชุมสุดยอดที่ลอนดอนในวันนี้

 

คาดว่าประเด็นสำคัญที่สุดในการประชุมของกลุ่มผู้นำประเทศคือปัญหาความตกต่ำของระบบเศรษฐกิจโลก

 

 

ผู้ประท้วงคลุมหน้าเดินขบวนในย่านการเงินของกรุงลอนดอนเมื่อวันพุธ

(ภาพจากเอพี)

 

 

นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายกอร์ดอน บราวน์ ได้หารือล่วงหน้ากับประธานาธิบดีโอบามามาก่อนแล้ว และออกมากระตุ้นให้ประเทศสมาชิกหามาตรการเร่งด่วนในการต่อสู้กับวิกฤตการณ์ทางการเงิน ผู้นำคนอื่น ๆ จะเข้าร่วมการรับประทานอาหารเย็นอย่างเป็นทางการในคืนวันพุธก่อนเข้าร่วมประชุมในวันพฤหัสฯ (2 เมษายน)

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งปิดถนนทุกสายที่เข้าสู่ย่านการเงินและไม่อนุญาตให้ผู้ประท้วงเข้าหรือออกจากพื้นที่บริเวณนั้นอีก

 

มีคำสั่งห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลลาหยุด ท้องถนนจึงเรียงรายไปด้วยตำรวจหลายร้อยนาย ส่วนใหญ่ถือโล่ปราบจลาจล ในขณะที่บางส่วนอยู่บนหลังม้า

 

การประท้วงในสองสามจุดเริ่มกลายเป็นความรุนแรง ผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งทุบกระจกหน้าต่างธนาคาร Royal Bank of Scotland แตก เขียนคำว่า "โจร" ไว้บนผนังด้านนอกและบุกเข้าไปในอาคาร ผู้สื่อข่าวประจำกรุงลอนดอนของสำนักข่าวซีบีซี แอนน์ แมคมิลแลน กล่าวว่า เธอเห็นบางคนแบกคอมพิวเตอร์วิ่งออกมาจากธนาคารด้วย

 

หลังจากได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลในเดือนตุลาคม กลุ่มธนาคารกลายเป็นสายล่อฟ้าที่กระตุ้นต่อมโทสะของสาธารณชน ซึ่งกล่าวโทษว่านายธนาคารคือตัวการที่ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งนี้

 

ถนนของเรา ธนาคารของเรา

ผู้ประท้วงบางกลุ่มโยนระเบิดสีและขวด พลางตะโกนคำขวัญว่า "ถนนสายนี้ ถนนของเรา! ธนาคารพวกนี้ ธนาคารของเรา!"

 

 

 

หุ่นขนาดเท่าคนจริงใส่หมวกทรงสูงห้อยจากไฟจราจรกลางถนน

ระหว่างการประท้วงหน้าธนาคาร Bank of England ในกรุงลอนดอนเมื่อวันพุธ

ป้ายที่ห้อยรอบคอหุ่นเขียนว่า "Eat the Bankers"

 

 

ผู้ประท้วงบางคนเรียกการประท้วงการประชุมสุดยอด G20 ครั้งนี้ว่า "เมษาการเงินหน้าโง่" (Financial Fool"s Day)

 

แมคมิลแลนบรรยายถึงอารมณ์ของการประท้วงว่า "ก้าวร้าวมาก"

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่า ตำรวจหลายคนได้รับบาดเจ็บระหว่างการประท้วง แม้ตำรวจจะบอกว่า บรรยากาศคลี่คลายลงในช่วงบ่าย มีประชาชนอย่างน้อย 14 คนถูกจับจากการประท้วงครั้งนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจบางคนถูกปาไข่และผลไม้ใส่
"มีการปาข้าวของจำนวนมากใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและมีการปะทะกันหลายครั้งกับเจ้าหน้าที่ที่กั้นถนน ทำให้มีการใช้ความรุนแรงต่อตำรวจมากขึ้น" เป็นคำพูดในแถลงการณ์ของฝ่ายตำรวจ

ส่วนรูปจากที่เกิดเหตุเป็นภาพตำรวจควงกระบอง ยิงแก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยฟุ้งกระจาย ในขณะที่ผู้ประท้วงบางคนเดินออกมาพร้อมกับเลือดอาบศีรษะ

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยเพื่อควบคุมการประท้วงครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ และมีเป้าหมายเพื่อคุ้มครองย่านธุรกิจ ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ อาคารตลาดหุ้นลอนดอนและสถาบันการเงินอื่น ๆ

จอห์น รีส แกนนำการประท้วงต่อต้านสงคราม กล่าวแก่สำนักข่าวซีบีซีว่า การประท้วงที่เขาเข้าร่วมเป็นไปอย่าง "สันติ" เช่นเดียวกับปฏิบัติการของผู้ประท้วงส่วนใหญ่

"สื่อมวลชนมักตีข่าวเฉพาะด้านที่รุนแรงของการประท้วง พวกตำรวจก็เหมือนกัน" เขากล่าว

"ผมคิดว่ามันน่าเสียดายมาก แต่ผมก็เข้าใจดีว่า ทำไมประชาชนจึงโกรธแค้นมากกับประเด็นเหล่านี้

"มีการกระพือข่าวกันมากมายเรื่องกระจกหน้าต่างสองสามบานแตกในวันนี้ แต่มีความรุนแรงมากมายยิ่งกว่านี้เกิดขึ้นในระบบทุก ๆ วัน ลองคิดถึงคนหลายร้อยคนหรือหลายพันคนที่ตายในอัฟกานิสถานดูสิ"

นักการเงินได้รับคำเตือนล่วงหน้า
มารินา เปปเปอร์ นักเคลื่อนไหวชาวอังกฤษที่ช่วยจัดการประท้วง กล่าวว่าการปะทะกับตำรวจบานปลายหลังจากพื้นที่ถูกปิดกั้น

"ฉันคิดว่า ประชาชนเกิดความรู้สึกคับข้องใจเมื่อไม่ได้รับอนุญาตให้เดินขบวนเข้าไป....อุณหภูมิจึงเริ่มร้อนขึ้นมา" เปปเปอร์กล่าว

 

 

ตำรวจปิดกั้นย่านการเงินระหว่างการประท้วงในวันพุธ

 

 

ผู้ประท้วงชักหุ่น "นายอาชาทั้งสี่แห่งวันสิ้นโลก" อันเป็นสัญลักษณ์ของสงคราม ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศ อาชญากรรมทางการเงินและภาวะไร้บ้าน

 

"ระบบทุนนิยมไม่ได้ตกอยู่ในวิกฤตการณ์ แต่ระบบทุนนิยมนั่นแหละคือวิกฤตการณ์" เปปเปอร์ยืนยัน "กำไรของคนไม่กี่คนที่ร่ำรวยอยู่แล้วกลับสำคัญมากกว่าความต้องการของประชาชนทั่วทั้งโลก"

 

นักการเงินได้รับคำเตือนล่วงหน้าไม่ให้ใส่สูท หลายคนเลือกใส่เสื้อผ้าลำลองหรืออยู่บ้านไปเลย แต่ก็มีนักการเงินบางคนเยาะเย้ยผู้ประท้วงด้วยการโบกธนบัตร 10 ปอนด์ใส่ผู้เดินขบวนจากหน้าต่างชั้นบนของอาคาร

 

"ดูเหมือนทุกอย่างกลับหัวกลับหางไปหมด" สตีฟ จอห์นสัน ผู้ประท้วงวัย 49 บ่น เขาเป็นคนงานก่อสร้างที่กำลังตกงาน "พวกนายธนาคารดันได้โบนัสก้อนเบ้อเริ่ม ส่วนพวกสมาชิกรัฐสภาก็เอาแต่โกยเงินตุงกระเป๋า"