Skip to main content
sharethis

นายอนุชา อาจหาญ รองประธานชมรมอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านกู้กู ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ว่า การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และ พังงา ของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหาตามคำร้องขอของสมัชชาคนจน ซึ่งมีเรื่องป่าไม้ที่ดินและชายฝั่งทะเลอยู่ในชุดของประมงพื้นบ้านอันดามันด้วย นั้น จากการที่ประชุมร่วมกับจังหวัดภูเก็ตและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องของราชการ โดยมีนายสาทิตย์ เป็นประธาน ที่ห้องประชุมตึกใหม่ ศาลากลาง จังหวัดภูเก็ต แล้ว รู้สึกว่า ชาวบ้านกู้กู ไม่พอใจพฤติกรรมของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ที่ออกมาตัดบทกรณีที่มีการออกเอกสิทธิ์ทับพื้นที่ป่าชายเลนแหล่งทำมาหากินของชาวบ้าน โดยอาสาที่จะแก้ปัญหาเสียเองทั้งๆที่หาก ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แก้ปัญหา เรื่องนี้ก็คงไม่ถึงนายกรัฐมนตรี ความเป็นจริงพวกเราก็ล้วนแต่เป็นผู้ที่เลือก สส.พรรคประชาธิปัตย์มาทั้งสิ้นแต่ทำไมเมื่อพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกลับ เอาผู้ว่าราชการที่มีความรู้สึกว่าไม่เข้าใจชาวบ้านเลยมาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หรือมาเพราะเรียน วปอ.รุ่นเดียวกับน้องชายของเลขาธิการพรรค

นายอนุชา กล่าวว่าเอกสารสิทธิ์ที่ดินทับป่าชายเลนแปลงนี้เป็นที่ทราบกันดี ว่า เป็นที่ดินของนายอนันต์ อนันตกูล อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยและช่วงหนึ่งมีชื่อเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จากเหตุผลนี้หรือไม่ที่ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกมาป้องตัดบทในการประชุม แต่เมื่อถึงช่วงบ่ายซึ่งเป็นการลงพื้นที่ด้วยตัวเองของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชาวบ้านได้ร่วมกัน กันผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตออกจากรัฐมนตรีไม่ให้เดินประกบ และตัวแทนชาวกู้กูก็นำภาพประกอบการบรรยายถึงที่มาที่ไปของการครอบครองที่ดินของนายอนันต์ ซึ่งนายสาธิตรับปากว่าจะนำเรื่องนี้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีและจะพิจารณาสั่งการตามเนื้อผ้าต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนนิล รักษาการผู้เชี่ยวชาญพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ด้านป่าไม้ที่ดิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่าคดีนี้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.องเมือง ภูเก็ต แล้ว แต่ประชาชนมาร้องเรียนร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกทางหนึ่งซึ่งได้จัดพนักงานสอบสวนลงพื้นที่สืบสวนสอบสวน แล้ว มีความน่าเชื่อว่ามี สค. 1 บินมาสวมทับ และ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นที่ภาพถ่ายทางอากาศและผู้เชี่ยวชาญด้านที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน อ่านแปลที่ดินแปลงนี้ไว้น่าสนใจมากอย่างเช่น อ่านแปลระบุว่าที่ดินแปลงนี้มีความเค็มมากสภาพดินไม่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตของพืชเศรษฐกิจ พันธุ์ไม้ที่จะเจริญเติบโต ได้ต้องเป็นจำพวก ไม้โกงกาง ลำพูน ลำแพน เป็นต้น นอกจากนั้นยังชี้ว่าที่ดินแปลงนี้ไม่มีการทำประโยชน์มาก่อนแต่อย่างใด
พ.ต.ท.ประวุธ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ที่ครอบครองที่ดิน ไม่น่าจะมีความผิดเนื่องจากมีการซื้อขายมาจากบุคคลอื่น ที่กล่าวว่าอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยน่าจะผิดนั้น หากดูตามหลักฐานไม่น่าจะเข้าข่ายผิด แต่กรมที่ดินน่าจะพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์
ที่มาข่าว: มติชนออนไลน์
 

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net