Skip to main content
sharethis

สุเทพ เทือกสุบรรณ เผยมอบผบช.น.รับผิดชอบจัดกำลังตั้งจุดตรวจค้นในพื้นที่กทม. ส่วนต่างจังหวัดมอบแม่ทัพภาค ผอ.รมน.ภาค และผู้ว่าฯ คุมเข้มสถานที่ราชการ

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เวลา 16.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง ว่า ที่ประชุมได้มีการประเมินสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วงบ้านเมืองที่เดินหน้าไปได้ด้วยดี แต่ต้องมีอุปสรรค เกิดเหตุทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศจนส่งผลเสียหายต่อสาธารณะ เพราะฉะนั้นคณะทำงานฝ่ายความมั่นคงจึงได้กำหนดมาตรการเพื่อป้องกัน ป้องปรามเหตุร้ายให้เกิดน้อยที่สุด ซึ่งการป้องกันจะมีหลายระดับ ตั้งแต่เฝ้าระวังสถานที่ราชการ แบ่งเป็นกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ในส่วนของกรุงเทพฯ นั้นได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นผู้รับผิดชอบจัดกำลังตั้งจุดตรวจค้นเพื่อตรวจค้นอาวุธ ที่อาจจะมีผู้คิดร้ายนำไปยิงสถานที่ต่าง ๆ หรือนำระเบิดไปวางไว้ตามสถานที่ พร้อมทั้งจัดให้มีชุดลาดตระเวน ตรวจตราสถานที่สำคัญ โดยกำลังจำเป็นต้องจัดหลายจุดและใช้ชุดลาดตระเวนจำนวนมาก จึงขอเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหารเข้ามาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจ

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับต่างจังหวัดได้มอบหมายให้แม่ทัพภาค ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค (ผอ.รมน.ภาค) และผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดได้ไปดำเนินการจัดทำแผนป้องกันสถานที่ราชการในลักษณะเดียวกัน ส่วนบุคคลสำคัญ ๆ จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุที่ไม่พึงประสงค์ นอกจากนั้นเราได้ให้มีฝ่ายคณะทำงานฝ่ายกฎหมายติดตามดูแลพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ถ้ามีใครกระทำการใด ๆ ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายจะดำเนินคดีทันที แม้ว่าการดำเนินคดีบางอย่างจะทำไม่ได้ง่าย เช่น การไปตรวจค้นบ้านเรือนต้องขอหมายศาลก่อน แต่จะพยายามทำเพื่อเป็นการป้องปราม ในส่วนการอำนวยการภาพรวม ที่ประชุมมีมติให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ให้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ โดยมีตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เป็นประธาน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปลัดกระทรวง และอธิบดีกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ร่วมเป็นกรรมการ พร้อมทั้งประชุมประเมินสถานการณ์ได้ตลอดเวลา และสามารถที่จะเรียกส่วนราชการต่าง ๆ รายงานความสำเร็จ ความก้าวหน้าที่กำหนดไว้ตามแผนต่าง ๆ ได้ มาตรการทั้งหมดเน้นเรื่องการป้องปรามเป็นสำคัญ
 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า หากการชุมนุมมีการกระทำผิดกฎหมายจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยที่ประชุมมีมติชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ให้ติดอาวุธ ไม่ให้พกพาอาวุธแต่อย่างใด มีเพียงอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน คือ โล่ กระบอง และหมวก รถฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา ถ้าจะใช้ต้องใช้ตมกฎหมายและความจำเป็นตามหลักของการควบคุมมวลชนตามหลักสากล ทั้งนี้คณะกรรมการเฝ้าระวังจะติดตามสถานการณ์ทุกอย่า รวมถึงการประเมินสถานการณ์ เพื่อเสนอให้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และให้ส่วนราชการได้เฝ้าระวัง หากเห็นว่าไม่สามารถใช้กฎหมายธรรมดาได้ ก็จะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net