Skip to main content
sharethis

11 ม.ค. 54 - เว็บไซต์แนวหน้ารายงานว่าเมื่อเวลา 09.00 น.ที่กองบัญชาการทหารพัฒนา พล.อ.ดุลกฤต รักเผ่า ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการ84พรรษา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เทิดไท้ มหาราชัน” โดยมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนามาบรรยายพิเศษเรื่อง หลักการทรงงาน

ดร.สุเมธ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นผู้นำในทุกๆด้าน จนเป็นที่ยอมรับของคนไทยทุกคนรวมถึงนานาประเทศ ทรงมีความสามารถหลากหลายจนได้รับการถวายปริญญา สดุดีมหาบัญฑิตทั้งในและต่างประเทศ ครั้งหนึ่งท่านเคยอารมณ์ขัน ทรงตรัสว่า เคยได้รับปริญญาสดุดีมหาบัญฑิต จาก มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสาขานิติศาสตร์ ก็ได้เป็นหมอความ ต่อมาก็ได้รับถวายปริญญาสดุดีมหาบัญฑิต ทางด้านการแพทย์ ก็ได้เป็นหมอยา ครั้งที่3ก็ได้รับถวายปริญญาสดุดีมหาบัญฑิตทางด้านดนตรี ท่านก็รับสั่งว่า เราเป็น หมอความ หมอยาและก็หมอลำ

ดร.สุเมธ กล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ท่านดำเนินมาเป็นการสะสมประสบการณ์มาตลอดระยะเวลา ที่ทรงงาน และเราก็ได้รับผลจากการพัฒนาเหล่านั้นมากมาย แต่ที่น่าเสียใจ เราไม่เคยสนใจในสิ่งที่พระองค์ท่านสอน บางคนชอบเห็นในหลวง เวลาท่านเสด็จไปที่ไหน ก็จะพากันวิ่งมาหาน้ำตาไหล แต่ไม่เคยมองท่าน คือชอบเห็นแต่ไม่ชอบมอง อยากให้พวกเรากลับไปคิดในเรื่องนี้ เหมือนกับที่พระองค์เคยทรงรับสั่ง เราก็ชอบได้ยิน แต่ไม่ปฏิบัติตาม พอวันรุ่งขึ้นก็ลืม ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

ดร. สุเมธ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่พระองค์ทรงครองราชย์มากว่า 60 ปี ทรงรับสั่งเอาไว้มายมาย อย่างเช่น “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของชาวสยาม” ซึ่งคนไทยทุกคนก็สนใจและก็ท่องจำกันได้จนขึ้นใจ ถามได้ตอบได้ แต่ไม่ได้ตีความถึงความหมายของประโยคเหล่านั้นว่าแปลว่าอะไร เราไม่เคยใส่ใจ เราชอบไปเห่อกับค่านิยมของต่างชาติ ที่สังคมเละแทะทุกวันนี้ก็เพราะไปลอกแบบฝรั่งมา เราเป็นคนไทยจะต้องภูมิใจในความเป็นไทย อย่างเช่น ค่านิยมเรื่องความร่ำรวยซึ่งไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ที่สำคัญอยู่ที่การใช้ว่าจะนำเงินเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากน้อย แค่ไหน เหมือนกับงบประมาณของแผ่นดิน ถ้ารู้จักใช้ก็จะเกิดประโยชน์ ซึ่งรับสั่งของท่านตรงนี้หมายถึงว่า การทำงานจะต้องปฎิบัติตามธรรมภิบาล 10ประการ และเราต้องปฎิบัติด้วย อย่าให้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปฏิบัติแต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าจะเป็นใครอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม

ดร.สุเมธ กล่าวว่า การทำงานของพระองค์ท่านยังเน้นเรื่อง คุณธรรม จริยธรรม อย่างข้าราชการที่ทำงานสนองพระยุคลบาททุกคน จะต้องไม่มีที่ดินอยู่รอบโครงการ ถ้าหากว่าใครมีก็จะต้องลาออก ถึงแม้ว่าจะไม่ผิดกฎหมายแต่ผิดจริยธรรม ใครไม่รู้แต่เรารู้ และจะซื่อสัตย์สุจริต พระองค์ท่านเคยรับสั่งไว้ถ้าหากโกงทุกอย่างก็จบ และ ถ้าอยากร่ำรวย ก็จะต้องลาออกจากข้าราชการ

หลังจากนั้น ดร.สุเมธ ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า โครงการพระราชดำริเริ่มมา60กว่าปีแล้วและก็มีต่อเนื่องกันมาเรื่อยๆรวมถึง โครงการใหม่ๆ ถึงแม้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงพระประชวรและประทับอยู่ที่โรง พยาบาล แต่โครงการต่างๆก็ดำเนินการผ่านสมเด็จพระเทพฯและหน่วยงานและองค์กรต่างๆที่ พระองค์ทรงตั้งไว้ และระยะหลังๆมานี้จะมีเรื่องภัยพิบัติมาเรื่อยๆตั้งแต่ สินามิ ดินถล่ม น้ำท่วม ซึ่งต่อไปนี้เราจะต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติมากขึ้น โลกกำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งพระองค์ท่านเคยรับสั่งว่า มนุษย์เราชอบรังแกธรรมชาติ รังวังว่าสักวันหนึ่งธรรมชาติจะโกรธเอาและลงโทษ และเวลานี้ก็รู้สึกจะครบแล้วทั้งดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งทุกประเทศได้รับผลกระทบแม้แต่ประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีเทคโนโลยีสูง สามารถรู้ล่วงหน้าอะไรได้ก็หนีไม่พ้นเหมือนกัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะธรรมชาติได้ เพราะฉะนั้นเราควรที่จะปรับตัวให้เข้ากับธรรมะให้ได้ และสิ่งที่พระองค์ท่านเคยรับสั่งคำว่า ธรรมะ ก็คือ ธรรมชาติ แทนที่จะไปสู้เราจะต้องปรับตัวให้ได้และต้องฟื้นฟูในเรื่องของ ดิน น้ำ ลม ไฟ ให้กลับมาอยู่ในสภาพที่ดี เหตุการณ์ก็จะบรรเทา

ดร.สุเมธ กล่าวว่า พระองค์ท่านเคยรับสั่งว่าธรรมชาติปรับตัวไว้หมดแล้ว แต่เราละเลยผลสุดท้ายก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้ เช่น แม่น้ำลำคลอง เราก็ไปปลูกบ้านยื่นลงไปในแม่น้ำ ทิ้งขยะจนทำให้ตื้นเขิน สิ่งเหล่านี้ต้องระวัง การที่รักชาติ บ้านเมือง ที่พระองค์ท่านเคยรับสั่งไว้ก็คือการดูแล เราอย่าบอกว่ารักเฉยๆ ยืนตรงเคารพธงชาติ เราจะต้องลงไม้ลงมือทำด้วย รักษาดิน น้ำ ดูแลเรื่องมลพิษ ขยะ ควบคุมบริหารทรัพยากรธรรมชาติให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และจะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะฉะนั้นต่อไปนี้จะมีชีวิตอยู่ด้วยการปล่อยปละละเลยไม่ได้แล้ว หน้าที่ของเราต้องทำทุกคน

เมื่อถามว่า การดำเนินการต่างๆต้องทำกันทุกคนไม่จำเป็นว่าจะต้องมีผู้นำใช่หรือไม่ ดร.สุเมธ กล่าวว่า ผู้นำนั้นมีคนตามหรือไม่ เป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะต้องมีส่วนร่วมไม่ใช่หน้าที่ของคนนั้นคนนี้ เรามีหน้าที่ดูแลรักษาบ้านเมืองด้วยความเข้าใจ ไม่เช่นนั้นก็สักแต่ทำ แต่ไม่มีความเข้าใจ เมื่อถามว่า ปีหน้าเราหน้าจะหันหน้ามาเริ่มดำเนินการตามโครงการพระราชดำริใช่หรือไม่ ดร.สุเมธ กล่าวว่า ควรจะเริ่มมาหลายปีแล้ว แต่เริ่มปีนี้ก็ไม่สายกว่าที่จะรุนแรงไปมากกว่านี้

เมื่อถามว่า เป็นเพราะเรามีผู้นำไม่ชัดเจนใช่หรือไม่ ดร.สุเมธ กล่าวว่า ทำไมจะไม่ชัดเจน มีตำแหน่งทุกตำแหน่งครบถ้วนแล้ว ร่วมถึงอย่าลืมตำแหน่งของตนเองด้วย หน้าที่พลเมืองไทยว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร มัวแต่ไปดูตำแหน่งคนอื่นจนลืมหน้าที่ตำแหน่งตัวเอง ทุกคนมีตำแหน่งหมด

ที่มาข่าว: แนวหน้า
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net