ฝ่ายสนับสนุนทางการจีนเผยแพร่วิดีโอความยาว 4 นาทีเป็นภาษาอังกฤษ กล่าวหาการประท้วงของฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยในเชิงสร้างความหวาดกลัวและตื่นตระหนก อ้างทำให้ฮ่องกง 'เป็นอัมพาต' และ 'สร้างความวุ่นวาย'

23 ก.ย. 2557 ขณะที่ประชาชนส่วนหนึ่งในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงกำลังเตรียมการประท้วงใหญ่ภายในช่วงสัปดาห์หน้าเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยตามหลักสากล ฝ่ายผู้สนับสนุนทางการจีนในฮ่องกงกลับเผยแพร่ข้อความกล่าวหาในเชิงตื่นตระหนกว่าการชุมนุมในฮ่องกงจะทำให้ฮ่องกงเป็นอัมพาต สร้างความวุ่นวายทำให้โจรออกอาละวาด

ฝ่ายสนับสนุนทางการจีนเผยแพร่วิดีโอความยาว 4 นาทีเป็นภาษาอังกฤษ โดยในวิดีโออ้างว่าการประท้วงปิดศูนย์กลางเมืองฮ่องกงเปรียบเสมือนการ "เอามีดแทงหัวใจ" มีการเปรียบเทียบถนนสายต่างๆ เป็น "เส้นเลือด"

วิดีโอของฝ่ายสนับสนุนทางการจีนเผยให้เห็นอีกว่าจะมีรถติดอย่างหนักถ้ามีการปิดถนนและประชาชนในฮ่องกงจะติดอยู่ในพื้นที่เกาะออกไปไหนไม่ได้ โดยลักษณะเนื้อหาในวิดีโอทั้งหมดเป็นเพียงการคาดการณ์แต่ก็มีรูปแบบการนำเสนอภาพและน้ำเสียงในเชิงสร้างความหวาดกลัว

ในวิดีโอยังเรียกกลุ่มผู้ประท้วงสนับสนุนประชาธิปไตยอีกว่าเป็น "พวกยั่วยุ" และคาดเดาว่าจะมีความโกลาหลจนทำให้ฮ่องกงอยู่ในภาวะ "อนาธิปไตย"

อย่างไรก็ตาม นักข่าว แพทริก วินน์ ระบุในรายงานข่าวของสำนักข่าวโกลบอลโพสต์ว่าการนัดประท้วงใหญ่ในฮ่องกงเป็นเพียงแต่การประท้วงปิดถนนในย่านใจกลางเมืองของกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยไม่ได้เป็น "การสังหารหมู่ด้วยระเบิดนิวเคลียร์" หรือ "การทะลักเข้าประเทศของผู้ติดเชื้ออีโบล่า" แต่อย่างใด แต่ฝ่ายสนับสนุนทางการจีนกลับใช้วิธีการสร้างความหวาดกลัวตื่นตระหนกด้วยคำประเภทที่ว่า "พวกเขาอาจจะทำลายเมืองนี้"

เขตบริหารพิเศษฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนแต่ก็มีเสรีภาพมากกว่าเขตจีนแผ่นดินใหญ่ และภายในปี 2560 ทางการจีนจะอนุญาตให้มีการเลือกตั้ง แต่พรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งเป็นพรรครัฐบาลจะทำการคัดเลือกคนลงชิงตำแหน่งเองแทนที่จะให้มีการลงสมัครทำให้ต่างจากประชาธิปไตยตามหลักการสากล ทำให้ชาวฮ่องกงจำนวนมากไม่พอใจจนมีการจัดตั้งกลุ่ม "ยึดครองย่านใจกลาง" เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่มีเสรีอย่างแท้จริงโดยอาศัยวิธีการเชิง "อารยะขัดขืน" ซึ่งได้อิทธิพลจากมหาตมะ คานธ๊ และมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

จิวหลี่จวง นักการธนาคารและผู้จัดการเคลื่อนไหวยึดครองย่านใจกลางกล่าวว่า ถ้าหากพวกเขาไม่มีประชาธิปไตยที่แท้จริง ฮ่องกงจะกลายเป็นเมืองระดับสองหรือระดับสามแบบเดียวกับเมืองอื่นๆ ในจีน พวกเขาไม่ได้พยายามทำลายฮ่องกงแต่กำลังพยายามช่วยเหลือฮ่องกง

วินน์ วิเคราะห์ว่าส่วนกลางของจีนกำลังมองฮ่องกงเป็น "เด็กดื้อ" และกลัวว่าถ้าหากมผู้นำฮ่องกงที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ที่ฝักใฝ่แนวทางแบบตะวันตกจะทำให้เกิดความเป็นปฏิปักษ์ต่อส่วนกลางและการพยายามเรียกร้องอิสระ โดยทางการจีนในส่วนกลางก็พยายามสอนในโรงเรียนว่าชาติตะวันตกพยายามแทรกแซงจีนมาโดยตลอด และเมื่อปีที่แล้ว (2556) ก็มีเอกสารของพรรรคคอมมิวนิสต์จีนรั่วไหลออกสู่สาธารณชนระบุว่าประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยแบบตะวันตก "ถูกชักนำให้บ่อนทำลายการปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์"

แต่จิวหลี่จวงก็ปฏิเสธว่าการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงไม่ได้เป็นการแสดงความก้าวร้าวต่อส่วนกลาง เนื่องจากการต่อต้านรัฐบาลกลางของจีนถือเป็นการทำลายตัวเอง และจีนแผ่นดินใหญ่ก็เป็นตลาดการค้าที่ดีมากสำหรับฮ่องกง พวกเขาต้องการให้ทำงานร่วมกัน

ทางด้านกลุ่มที่เรียกต้วเองว่า "พลังเงียบของคนส่วนใหญ่สำหรับฮ่องกง" (Silent Majority for Hong Kong) ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนส่วนกลางของจีนที่พยายามกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งปฏิเสธไม่ยอมให้สัมภาษณ์ต่อสื่อโกลบอลโพสต์

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วหนังสือพิมพ์เซาธ์ไชน่ามอร์นนิงโพสต์เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นระบุว่าร้อยละ 48 ของชาวฮ่องกงผู้ตอบโพลล์ต้องการให้ ส.ส. คัดค้านวิธีการเลือกตั้งแบบที่ทางการจีนคัดเลือกผู้ลงชิงชัย มีร้อยละ 39 ระบุว่า ส.ส. ควรรับรองมติการเลือกตั้งวิธีดังกล่าว อีกร้อยละ 13 ไม่ได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้

แต่ในโพลล์เดียวกันส่วนใหญ่ร้อยละ 86 เชื่อว่าการประท้วงของกลุ่มยึดครองย่านใจกลางจะไม่ทำให้ทางการจีนหรือรัฐบาลท้องถิ่นเปลี่ยนแปลงท่าทีได้ มีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่เชื่อว่าการเรียกร้องจะประสบความสำเร็จ

เรียบเรียงจาก

Beijing supporters use fear-mongering against Occupy Hong Kong, Global Post, 23-09-2014
http://www.globalpost.com/dispatch/news/regions/asia-pacific/china/140922/Hong-Kong-occupy-anti-democracy-propaganda

Half of Hongkongers say lawmakers should veto Beijing's electoral reform plan, South China Morning Post, 23-09-2014
http://www.scmp.com/news/hong-kong/article/1592694/48-cent-hongkongers-poll-back-veto-beijings-reform-plan