Skip to main content
sharethis

10 ม.ค.นี้ 'ทนายอานนท์' เตรียมรับทราบข้อหาดูหมิ่นศาล หลังโพสต์เฟสบุ๊ควิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาในคดีที่เกี่ยวข้องกับ ‘ไผ่ ดาวดิน’ เจ้าตัวคาดดำเนินคดีมีมูลเหตุทางการเมือง แต่แปลกที่ดึงเอาอำนาจตุลาการเข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งด้วย 

 

9 ม.ค. 2661 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ว่า อานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และหนึ่งในทีมทนายความของ ‘ไผ่ ดาวดิน’ เตรียมเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฐานดูหมิ่นศาลและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังโพสต์เฟสบุ๊ควิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาในคดีที่เกี่ยวข้องกับ ‘ไผ่ ดาวดิน’ ในวันที่ 10 ม.ค. 2561 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)

คดีนี้ พ.ต.ท.สุภารัตน์ คำอินทร์ แจ้งความต่อ ปอท. ว่า โพสต์เฟสบุ๊คเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2560 ของ อานนท์ เข้าข่ายดูหมิ่นศาลหรือผู้พิพากษาในการพิจารณาหรือพิพากษาคดี หรือกระทำการขัดขวางการพิจารณาหรือพิพากษาของศาล, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า โพสต์ที่คาดว่าเป็นสาเหตุของการแจ้งความ มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาของศาลจังหวัดขอนแก่น ในคดีที่ สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว และนักศึกษาดาวดินรวม 7 คน ถูกตั้งข้อหาละเมิดอำนาจศาลจากการวางดอกไม้และอ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ปล่อยตัว จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ซึ่งขณะนั้นถูกคุมขังด้วยข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการแชร์ข่าวบีบีซีไทย

“ผมคิดว่าการดำเนินคดีครั้งนี้มีมูลเหตุทางการเมือง แต่แปลกที่เขาไปดึงเอาอำนาจตุลาการเข้ามาเป็นคู่ขัดแย้งด้วย ผมคิดว่าทุกโพสต์ที่ผมโพสต์เป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต ไม่ได้บิดเบือนข้อความหรือข้อมูลในคำพิพากษาแน่ ๆ และโดยส่วนตัวก็เชื่อว่าองค์กรใดที่ใช้อำนาจรัฐควรจะถูกวิพากษ์วิจารณ์และติชมได้” อานนท์กล่าว

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า พรุ่งนี้ (10 ม.ค. 2561) เวลา 10.00 น. อานนท์พร้อมทนายความจะเดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ณัฐษนัย มงคลกุล พนักงานสอบสวน ปอท. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา

สำหรับข้อหาดูหมิ่นศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 198 มีโทษจำคุกระหว่าง 1-7 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 - 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนข้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในเดือน ม.ค.นี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยังรายงานคดีที่เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพที่สำคัญอีก เช่น วันที่ 25 ม.ค. 61 เวลา 09.00 น. นัดฟังคำพิพากษาคดี รินดา (ขอสงวนนามสกุล) ถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการโพสต์เฟสบุ๊คที่มีข้อความหมิ่นประมาท พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และภรรยา และ นัดฟังคำพิพากษา วันที่ 29 ม.ค. 2561 เวลา 09.00 น. คดี 5 นักกิจกรรม นักศึกษาและนักข่าวที่บ้านโป่ง เมื่อวัน 10 ก.ค. 2559 กลุ่มนักกิจกรรม นักศึกษาได้เดินทางไปให้กำลังใจประชาชนที่ถูกดำเนินคดีฝ่าฝืนชุมนุมทางการเมืองจากการตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นรถยนต์ส่วนตัวและพบเอกสารรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมและแจ้งข้อหา โดยคดีนี้เจ้าหน้าที่รัฐตีความกฎหมายอาญาอย่างกว้างเพื่อดำเนินคดีจากการครอบครองเอกสารโดยที่ยังไม่มีการแจกจ่าย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net