Skip to main content
sharethis
สนช. ตั้งกรรมาธิการฯ สอบประวัติว่าที่ 7 กกต. ก่อนลงมติต้นเดือน ก.ค. พบ 2 คน ติดคดี "เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ-ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ พยายามฆ่าและยาเสพติด"
 
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา สำนักข่าวไทย รายงานว่าการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณารายงานการพิจารณาสรรหาผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. และมีมติเห็นชอบสรรหาให้ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ จำนวน 17 คน เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ของผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต. จำนวน 7 คน หลังคณะกรรมการสรรหาทำการพิจารณาเสร็จสิ้น ซึ่งที่ประชุม สนช. ได้กำหนดเวลาให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน 
 
นอกจากนี้ที่ประชุม สนช. ได้เปลี่ยนผู้ทำหน้าที่ใหม่ โดยให้กรรมาธิการฯ ของ สนช. แต่ละคณะส่งตัวแทนมา 1 คน รวมทั้งตัวแทนวิป สนช. อีก 1 คน รวมเป็น 17 คน และจะเชิญเลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหา ให้ข้อมูลกับกรรมาธิการฯ เพื่อตัดปัญหาข้อข้องใจเรื่องคุณสมบัติ ซึ่งตามขั้นตอน และกรอบเวลา คณะกรรมาธิการฯ จะต้องตรวจสอบประวัติให้แล้วเสร็จ และส่งรายละเอียดกลับมาให้ สนช. ลงมติว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต. จำนวน 7 คน ในช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้
 
ทั้งนี้จากประวัติของผู้ที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต. คณะกรรมการสรรหาได้รับแจ้งจากสำนักงานศาลยุติธรรมพบว่านายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดคดีแดง ในฐานะจำเลยที่ 1 เนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งอยู่ระหว่างที่คณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ชี้มูลฐานใช้อำนาจในฐานะอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ถอดถอนนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ออกจากประธานกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น เพื่อปกป้องความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หลังพบความผิดชัดเจน โดยกรรมการ ป.ป.ช. จะตรวจสอบและชี้มูลในวันที่ 6 ส.ค. นี้
 
ส่วนนายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ถูกฟ้องร้องเป็นจำเลยในคดีของศาลจังหวัดสระบุรี จำนวน 12 คดี เรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ พยายามฆ่าและยาเสพติด ซึ่งนายธวัชชัย ปฏิเสธต่อคณะกรรมการสรรหา ว่าไม่เคยทราบหรือได้รับแจ้งว่าถูกฟ้องร้องคดีและไม่ได้ขึ้นศาลแต่อย่างใด
 
ขณะเดียวกันที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ได้ลงมติคัดเลือกบุคคลเพื่อได้รับการแต่งตั้งเป็น กกต. โดยเป็น 2 รายชื่อที่เคยลงมติคัดเลือกมาก่อนหน้านี้ คือ 1.นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา 2.นายปกรณ์ มหรรณพ ผู้พิพากษาศาลฎีกา แต่ได้แก้ไขระเบียบศาลฎีกาว่าด้วยการคัดเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็น กกต. พ.ศ. 2561 ใหม่ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมให้การลงมติคัดเลือกกระทำโดยเปิดเผย และให้เลขานุการศาลฎีกา เก็บรักษาบัตรลงคะแนนไว้ไม่น้อยกว่า 1 ปี เพื่อให้ปราศจากข้อกังวลทางกฎหมาย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net