ยุทธพงศ์เดือดจัด รับไม่ได้ ส.ส. เพื่อไทยอวย พล.อ.ประยุทธ์ ยื่นหนังสือให้หัวหน้าพรรคตั้งกรรมการสอบจริยธรรมครูมานิตย์-ตี๋ใหญ่ ด้านสมพงษ์-ภูมิธรรม รับเรื่องพร้อมตั้งกรรรมการสอบ ระบุตัองดูที่เจตนาเป็นสำคัญ เชื่อไม่มีงูเห่าในการโหวตในสภาเพราะสามารถตรวจสอบการลงคะแนนได้

(ที่สองจากขวามือ) ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ยื่นหนังสือให้กับสมพงษ์ อมรวิวัฒน์

22 ส.ค. 2562 ที่รัฐสภา เกียกกาย ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยภาคอีสาน ได้แถลงข่าวพร้อมยื่นหนังสือให้สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรม 2 ส.ส. สุรินทร์ คือครูมานิตย์ สังข์พุ่มและตี๋ใหญ่ พูนศรีธนากูล ซึ่งไปร่วมต้อนรับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีระหว่างลงพื้นที่ตรวจราชการแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่จังหวัดสุรินทร์ โดย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และคมเดช ไชยศิวามงคล ส.ส. กาฬสินธุ์ เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน

ยุทธพงศ์กล่าวว่าวันนี้ตนจะยื่นหนังสือให้กับหัวหน้าพรรคเพื่อให้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากกรณีเมื่อวันที่ 19 ที่ผ่านมา ได้มี ส.ส. พรรคเพื่อไทย 3 คนไปต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ จ.สุรินทร์

ยุทธพงศ์กล่าวต่อไปว่า สำหรับคุณากร ปรีชาชนะชัย ตนไม่ได้ติดใจ เนื่องจากไม่ได้พูดอะไรที่ทำให้พรรคเสียหายแต่สำหรับ ส.ส. อีก 2 คน คือ ครูมานิตย์ และตี๋ใหญ่ ตนต้องการให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนจริยธรรม เนื่องจากคณุมานิตยย์พูดกับ พล.อ.ประยุทธ์ว่า “ผมจะยกมือให้นายกฯ ล้านเปอร์เซ็น ทั้งยังบอกว่าอภิปรายทำบ้าอะไร มึงบ้าหรือเปล่าเขายังไม่ทำอะไร”

รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยภาคอีสานยังระบุว่า ตนเป็นหนึ่งใน ส.ส. ที่ลงชื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 แห่งรัฐธรรมนูญ ซึ่งการที่พูดว่า “มึงบ้าหรือเปล่า” เป็นการทำให้คนอื่นเสียหาย

“ก็รู้อยู่แล้วว่ามีปมสำคัญที่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่อผิดกฎหมายผิดรัฐธรรมนูญกรณีถวายสัตย์ฯ และ ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านก็ยื่นกระทู้ไม่รู้กี่รอบ นายกฯ ก็ไม่มาตอบ เราจึงต้องใช้การยื่นญัตติตาม มาตรา 152” นายยุทธพงศ์ กล่าว

ยุทธพงศ์ยังกล่าวว่า สำหรับตี๋ใหญ่เองก็พูดว่าต้องการให้นายกฯ อยู่ 8 ปี ทั้งๆ ที่พรรคเพื่อไทยมีมติว่าเราจะเป็นพรรคฝ่ายค้านที่เข้มเข็งและจะล้มรัฐบาลให้ได้เร็วที่สุดตามช่องทางที่ถูกต้อง ซึ่งตนคิดว่าส่อผิดจริยธรรมอย่างรุนแรง จึงยื่นหนังสือต่อหัวหน้าพรรคให้ตรวจสอบเรื่องข้อบังคับพรรคข้อ 113 และขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามระเบียบพรรคต่อไป

สมพงษ์กล่าวว่าจะนำเรื่องดังกล่าวไปดำเนินการตามขั้นตอนของพรรค ส่วนตัวยืนยันว่ามีการกระทบกันบ้าง แต่ในส่วนของการดำเนินการที่ถูกต้องควรจะมีคณะกรรมการขึ้นมาสอบถาม และในฐานะหัวหน้าพรรคต้องรับเรื่องนี้ไปดำเนินการ ย้ำว่าจะให้ความยุติธรรมกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น

สมพงษ์คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบไม่เกิน 3 สัปดาห์ สัปดาห์หน้าคงจะมีการตั้งคณะกรรมการ ถ้าผิดก็ให้กรรมการดู เราตัดสินเองไม่ได้ เป็นเรื่องของขั้นตอน และเวลานี้ยังไม่สามารถหันธงได้ เพราะไม่ได้เป็นกรรมการ ทั้งนี้ คงต้องดูการกระทำ ว่าอยู่ในระดับไหน พอพูดกันได้

เมื่อถูกถามอีกว่าเรื่องนี้จะกระทบต่อเสถียรภาพของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ สมพงษ์ตอบว่า คงไม่กระทบ เพราะพรรคมีดารผนึกกำลังกัน มีสัดส่วนในการทำงานให้พรรค ส่วน ส.ส. ก็มีเอกสิทธิ แต่ควรรับรู้ว่ามีสิทธิอย่างไร เกินขอบเขตหรือไม่ คนเป็น ส.ส. ผ่านร้อน ผ่านหนาวมามาก จะเห็นว่าเขาทำงานมาเยอะมาก ในเรื่องของความสามารถเขารับรู้อยู่แล้ว บางทีอาจเผลอ ไปบ้าง คนเราไม่ได้ดี 100% ต้องดูระดับของความตั้งใจของเขา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลว่าจะมีงูเห่าเกิดขึ้นในการโหวตหรือไม่ สมพงษ์ กล่าวว่าการโหวตในสภาฯ สามารถตรวจสอบได้ และเชื่อว่าจะไม่มีการเทคะแนนให้กับรัฐบาล