Skip to main content
sharethis

จีนขู่ว่าจะมีมาตรการโต้ตอบหลังจากที่สภาผู้แทนสหรัฐฯ โหวตผ่านร่างมติคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน จากที่จีนก่อเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง ด้วยการจับผู้คนนับล้านเข้าค่ายกักกันปรับทัศนคติ โดยมีเฉินเฉียนกั๋ว ผู้เป็นตัวตั้งตัวตีก่อเหตุกวาดต้อนจับกุมผู้คนเป็นหนึ่งในเป้าหมายการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ

สภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ โหวตลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 407 ต่อ 1 ให้มีการผ่านร่างบัญญัติอุยกูร์ปี 2019 ที่มีชื่อเต็มว่า "บัญญัติการแทรกแซงสถานการณ์อุยกูร์และการร่วมกันโต้ตอบเชิงมนุษยธรรมในระดับโลก" (UIGHUR Act) ซึ่งระบุให้มีการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ทางการจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักขังชนกลุ่มน้อยในเขตปกครองซินเจียง โดยก่อนหน้านี้มีการปรึกษาหารือกันในหมู่ ส.ส. มาเป็นเวลาหลายเดือนว่าจะมีมาตรการในระดับใด

หัวชุนหยิง โฆษกการต่างประเทศของจีนแถลงโต้ตอบสหรัฐฯ หลังจากที่สภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ โหวตผ่านมติคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ทางการจีนในกรณีค่ายกักกันซินเจียง โดยที่โฆษกจีนแถลงว่ามติคว่ำบาตรในครั้งนี้ถือเป็น "การจงใจกล่าวให้ร้ายสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซินเจียงและทำลายชื่อเสียงเรื่องความพยายามของทางการจีนในการต่อสู้กับแนวคิดสุดโต่งและการก่อการร้ายในภูมิภาคนั้น"

หัวชุนหยิงแถลงต่อไปว่า "ประเด็นหลักของซินเจียงไม่ใช่ประเด็นสิทธิมนุษยชน ชนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติ หรือศาสนา แต่ประเด็นหลักๆ คือการต่อต้านการก่อการร้าย และการต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน ... พวกเราขอเตือนสหรัฐฯ ว่ากิจการภายในของจีนไม่ใช่สิ่งที่จะเปิดพื้นที่ให้ต่างชาติเข้ามาใช้อำนาจได้"

ในตอนนี้ทางการจีนยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะมีลักษณะการโต้ตอบสหรัฐฯ แบบใด แต่สื่อจีนก็รายงานเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่าทางการจีนกำลังพิจารณาจำกัดไม่ให้เจ้าหน้าที่และนักการเมืองสหรัฐฯ เข้าเยือนพื้นที่ซินเจียงและจะมีการออกบัญชีรายชื่อ "ผู้ที่ไม่น่าเชื่อถือ" จากสหรัฐฯ

บัญญัติอุยกูร์ของสภาสหรัฐฯ ยังระบุถึงเรื่องการจำกัดควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีให้กับจีนในการที่อาจจะถูกจีนนำไปใช้ในเชิง "ลิดรอนความเป็นส่วนตัวของบุคคล, จำกัดเสรีภาพในการเดินทาง หรือจำกัดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอื่นๆ"

ก่อนหน้านี้มีการรายงานข่าวจากสื่อตะวันตกระบุว่านับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมารัฐบาลจีนได้ส่งตัวประชาชนชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมราว 1 ล้านคนเข้าค่ายกักกันปรับทัศนคติโดยที่ผู้ต้องขังถูกบีบบังคับให้ต้องรับการปลูกฝังทางการเมืองจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ทางการจีนอ้างว่าสถานกักกันของพวกเขาเป็น "ศูนย์ฝึกวิชาชีพ" และบอกว่ามันเป็นการโต้ตอบภัยหัวรุนแรงทางศาสนาอย่างถูกต้องชอบธรรม แต่ประเทศตะวันตกส่วนใหญ่ที่มีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยเฉพาะสหรัฐฯ ก็ไม่เชื่อคำกล่าวอ้างในเรื่องนี้

โดยที่บัญญัติล่าสุดจากทางการสหรัฐฯ เป็นกฎหมายที่มีการปรับปรุงแก้ไขจากบัญญัตินโยบายสิทธิมนุษยชนอุยกูร์ที่เคยมีการผ่านร่างในวุฒิสภาเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามบัญญัติล่าสุดนี้ยังคงต้องผ่านกระบวนการผ่านร่างจากวุฒิสภาอีกทอดหนึ่งและผ่านการลงนามอนุมัติจากประธานาธิบดีถึงจะมีการนำมาใช้ได้

บัญญัติฉบับนี้มีการเสนอโดย มาร์โค รูบิโอ ผู้แทนจากพรรครีพับลิกัน เขาเรียกร้องให้กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ แต่งตั้ง "ผู้ประสานงานพิเศษ" เพื่อจัดการในประเด็นซินเจียง และขอให้รัฐบาล "พิจารณาเรื่องการปรับใช้" คำสั่งคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีน

จากเนื้อหาบัญญัติฉบับนี้มีการเสนอให้ เฉินเฉียนกั๋วเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำพื้นที่ซินเจียงเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ๆ ควรจะถูกคว่ำบาตรด้วย โดยที่รายงานของนิวยอร์กไทม์ระบุว่าเฉินเฉียนกั๋วเป็นหนึ่งในคนที่คอยกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ทางการในซินเจียงกวาดต้อนจับกุมชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ถึงแม้ว่าจะมีความไม่เห็นด้วยมาจากเจ้าหน้าที่บางส่วน แต่เฉินก็โต้ตอบด้วยกวาดล้างเจ้าหน้าที่ๆ ถูกสงสัยว่าต่อต้านขัดขืนคำสั่งเขา


เรียบเรียงจาก
China protests as US House passes Uygur bill demanding sanctions over human rights abuses in Xinjiang camps, South China Morning Post, 04-12-2019
https://www.scmp.com/news/china/politics/article/3040466/us-house-passes-uygur-law-demanding-sanctions-china-over-human
นิวยอร์กไทม์เปิดเอกสารลับซินเจียง รัฐบาลจีนคุมขังชาวอุยกูร์ในค่ายกักกัน
https://prachatai.com/journal/2019/11/85208

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net