Skip to main content
sharethis

รองประธานในคณะทำงานสืบหาข้อเท็จจริงกรณีความรุนแรงดินแดง จี้ รัฐอย่าเงียบ หลัง เยาวชนที่ถูกยิงหน้า สน.ดินแดงเสียชีวิต ชี้ คดีไม่คืบหน้า สังคมยังมีข้อกังขาหลายจุด

29 ต.ค.2564 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า พันตำรวจตรี ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวในฐานะรองประธานในคณะทำงานสืบหาข้อเท็จจริง( Fact finding )  กรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชมนุมทางการเมืองบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ภายหลังจากที่สื่อมวลชนรายงานว่าเมื่อวานนี้ ( 28 ตุลาคม 2564 )  วาฤทธิ์ สมน้อย หนึ่งในเยาวชนอายุ 15 ปี ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จากการสลายการชุมนุมที่แยกดินแดง บริเวณหน้าสน.ดินเเดง เข้ารักษาตัวที่ร.พ.ราชวิถี ด้วยอาการวิกฤตเนื่องจากกระสุนฝังบริเวณไขสันหลังส่วนบน ร่วมกับมีภาวะสมองบวมจากการขาดออกซิเจนเสียชีวิตแล้ว

พันตำรวจตรีชวลิต กล่าวว่า กว่า 2 เดือนแล้วจากเหตุการณ์ยิงเยาวชนหน้า สน.ดินแดง ในขณะที่ตนและคณะทำงานของกรรมาธิการได้เปิดหลักฐานในบริเวณที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงจนพบกลุ่มคนต้องสงสัยที่ตำรวจควรจะตามตัวมาได้ไม่ยาก แต่คดีนี้ในชั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ จนกระทั่งผู้ถูกกระทำได้จากไปแล้ว 

“ภาพจากล้องวงจรปิดจับภาพ วาฤทธิ์ วิ่งอยู่บนถนนมิตรไมตรี มุ่งหน้าแยกโรงกรองน้ำ ก่อนถูกยิงล้มลง ซึ่งมีรอยกระสุนอีกนัดที่กำแพง ระบุทิศทางการยิงมาจากซอยหน้า สน.ดินแดง ซึ่งเป็นจุดที่ไม่มีผู้ชุมนุมอยู่ ที่สำคัญรัฐจะต้องเร่งหาตัวคนร้าย ผู้ก่อเหตุและผู้สั่งการต้องถูกนำตัวมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม”  

ทั้งนี้ พันตำรวจตรีชวลิต กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้ทุกคนร่วมใจกันทวงถามความยุติธรรมจากรัฐ  เราจะต้องไม่ปล่อยให้ครอบครัวของเขาต้องสู้อย่างเดียวดาย และจะต้องไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เเละสิ่งที่เกิดขึ้นคุ้มเเล้วหรือกับเยาวชนอนาคตของชาติที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสันติ ปราศจากอาวุธ ต้องมาเเลกกับชีวิตของตนด้วยปลายกระบอกปืน อย่าปล่อยให้เป็นความอยุติธรรมที่ถูกกลืนหายไปโดยไร้คำตอบ

ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ในฐานะประธานกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯ ที่ตั้งคณะทำงานสืบหาข้อเท็จจริง( Fact finding )  กรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นระหว่างการชมนุมทางการเมืองบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงใน วันที่ 16 สิงหาคม2564 กล่าวว่า รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ซึ่งหลังการแถลงข่าวเปิดข้อมูลของคณะทำงานที่รวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทางกรรมาธิการได้ส่งต่อข้อมูลหลักฐานทั้งหมดให้สำนักงานตำรวจแห่งขาติไปตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับใดๆจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลย ทั้งที่ข้อมูลที่ทางคณะทำงานฯส่งมอบนั้นมีหลักฐานชัดเจน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจริงใจที่จะดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงและหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีก็ไม่ยาก แต่นี่กลับนิ่งเฉยจนกระทั่งเหยื่อจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเสียชีวิต ในฐานะตัวแทนของประชาชนขอประณามความนิ่งเฉยนี้ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

"ในฐานะประธานกรรมาธิการฯจะเชิญเจ้าหน้าที่เจ้าของคดีนี้มาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการต่อไป แม้วันนี้น้องจะเสียชีวิตไปแล้วแต่ความอยุติธรรมต้องไม่เงียบไปพร้อมกับชีวิตของเขา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือเพื่อสืบหาความจริงต่อกรณีดังกล่าว" ณัฐชา กล่าว พร้อมระบุว่า จะเดินทางไปคารวะศพของ นายวาฤทธิ์ สมน้อย ก่อนมีการฌาปณกิจในวันอาทิตย์นี้ และขอยืนยันว่าต้องไม่มีใครเสียชีวิตอย่างสูญเปล่าจากความรุนแรงที่สันนิษฐานได้ว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้อง

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net