Skip to main content
sharethis

สภาสหภาพแรงงานสหราชอาณาจักร (TUC) ระบุคนทำงานกะกลางคืนได้รับค่าตอบแทนต่ำ สัญญาจ้างไม่มั่นคง มีความเสี่ยงเผชิญปัญหาสุขภาพ รวมทั้งสูญเสียการใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติ


TUC ประมาณการว่ามีคนทำงานกะกลางคืนทั่วสหราชอาณาจักรทั้งหมดประมาณ 3.2 ล้านคน พวกเขาได้รับค่าแรงต่ำ สัญญาจ้างไม่มั่นคง และมีความเสี่ยงในการทำงานสูง | ที่มาภาพประกอบ: TUC

เมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา สภาสหภาพแรงงานสหราชอาณาจักร (TUC) ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ระบุว่า 1 ใน 3 (หรือร้อยละ 33) ของคนทำงานกะกลางคืน มีรายได้น้อยกว่า 10 ปอนด์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 455 บาท) แม้ว่างานกะกลางคืนจะมีความเสี่ยงต่อสุขภาพและกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติของคนทำงานก็ตาม 

TUC ประมาณการว่ามีคนทำงานกะกลางคืนทั่วสหราชอาณาจักรทั้งหมดประมาณ 3.2 ล้านคน ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในภาคการดูแลทั้งหมด 484,929 คน, พยาบาลและผู้ช่วยพยาบาล 172,222 คน และพนักงานรักษาความปลอดภัย 161,868 คน

คนทำงานที่ทำงานในกะกลางคืนนั้นมักถูกประเมินค่าต่ำเกินไป รวมถึงมักได้รับค่าจ้างต่ำและสัญญาจ้างที่ไม่มั่นคง ทั้งนี้คนทำงานในภาคการดูแลมีแนวโน้มที่จะทำงานกะกลางคืนมากกว่าอาชีพอื่น แต่หลายคนมีรายได้น้อยกว่า 10 ปอนด์ต่อชั่วโมง และมักจะอยู่ภายใต้สัญญาจ้างที่นายจ้างไม่กำหนดเวลาขั้นต่ำในการทำงานต่อสัปดาห์ ในขณะที่คนทำงานจะต้องเตรียมพร้อมที่จะถูกเรียกไปทำงานอยู่ตลอดและได้รับค่าจ้างเพียงชั่วโมงที่ทำงานเท่านั้น สัญญาจ้างแบบนี้เรียกว่า 'สัญญาจ้างศูนย์ชั่วโมง' (Zero-Hour Contract)

นอกจากนี้การเดินทางในช่วงเวลากลางคืนผู้หญิงยังมีความเสี่ยงที่จะถูกคุกคาม TUC จึงเรียกร้องว่านายจ้างควรพิจารณาถึงอันตรายด้วยประเมินความเสี่ยงและรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของคนทำงานที่เดินทางไปกลับจากการทำงานในเวลากลางคืน

การทำงานกะกลางคืนในจำนวนชั่วโมงที่มากเกินไปนั้น นอกจากจะทำให้เกิดปัญหากับครอบครัวของคนทำงานแล้ว ก็ยังพบความเสี่ยงต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน และภาวะซึมเศร้า เป็นต้น

TUC ได้เรียกร้องให้รัฐบาลยกระดับการแก้ไขปัญหาให้คนทำงานกะกลางคืน เริ่มด้วยการห้ามนายจ้างใช้สัญญาจ้างศูนย์ชั่วโมง และเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 10 ปอนด์ต่อชั่วโมง, กำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการดูแลเด็ก ที่อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในการทำงานกะกลางคืน, ต้องมีกฎหมายฉบับใหม่เพื่อให้แน่ใจว่ามีการแจ้งคนทำงานให้ทราบข้อมูลอย่างเพียงพอเกี่ยวกับรูปแบบกะการทำงาน ให้สามารถเตรียมการล่วงหน้าได้ และควรมีการจ่ายค่าชดเชยในการเปลี่ยนแปลงการเข้ากะกลางคืนอย่างกะทันหัน

ฟรานเซส โอเกรดี เลขาธิการของ TUC ระบุว่าการทำงานในตอนกลางคืนเป็นเรื่องยาก เนื่องจากคนทำงานกะกลางคืนมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับปัญหาสุขภาพ และสูญเสียการใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติ

"เราทุกคนเป็นหนี้คนทำงานกะกลางคืน พวกเขาทำให้ประเทศเรายังเดินหน้าต่อไปในขณะที่พวกเรากำลังหลับใหล มันจึงไม่ถูกต้องที่คนทำงานกะกลางคืนจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนสำคัญ เช่น การดูแล ได้รับค่าจ้างต่ำ และอยู่ภายใต้สัญญาจ้างที่เอาเปรียบพวกเขาจนเกินไป"

โอเกรดี ย้ำว่ารัฐบาลต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคนงานกะกลางคืนทุกคนจะได้รับการปฏิบัติอย่างมีศักดิ์ศรีในขณะทำงาน นั่นหมายถึงการยกระดับสภาพการทำงานให้ดีขึ้นและได้รับค่าแรงที่มากขึ้น และต้องทำให้มั่นใจว่าคนทำงานกะกลางคืนจะได้รับการแจ้งการเข้ากะงานอย่างเหมาะสม

"นั่นหมายถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทันทีเป็น 10 ปอนด์ต่อชั่วโมง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคนทำงานกว่า 2 ล้านคน รวมทั้งข้อตกลงการจ้างที่เป็นธรรมในภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อมอบผลตอบแทนที่ยุติธรรมให้กับคนทำงานกะกลางคืน" โอเกรดี ทิ้งท้าย 


ที่มาเรียบเรียงจาก
One in three night workers earn less than £10 an hour - TUC (TUC, 30 October 2021)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net