Skip to main content
sharethis

สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่รัฐพยายามรื้อบ้านและโฮมสเตย์ ชาวม้ง ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ เมื่อ 29-30 ส.ค.ที่ผ่านมา ด้าน ‘ณัฐพล’ กมธ.ชาติพันธุ์ฯ แถลงต่อสื่อที่รัฐสภาฯ เรียกร้องให้รักษาการนายกฯ หาแนวทางแก้ปัญหา สืบหาข้อเท็จจริง และยุติการไล่รื้อบ้านชาวม้ง 

 

1 ก.ย. 2565 สืบเนื่องจากเมื่อ 29-30 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏภาพกลุ่มชาวม้ง ม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พยายามปิดทางเข้า-ออกพื้นที่ม่อนแจ่ม หลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน อาทิ กรมป่าไม้ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง นำกำลังเข้ารื้อถอนบ้านเรือนและโฮมสเตย์ของชาวม้ง ตามคำสั่งของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) โดยอ้างว่าเป็นการสร้างบ้านเรือนอยู่อาศัยในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1A ขณะที่กลุ่มชาติพันธุ์ม้งที่มายืนยันว่าตนเองเป็นชุมชนดั้งเดิมที่ตั้งรกรากในพื้นที่ม่อนแจ่มมานานกว่าร้อยปี 

ทั้งนี้ มีภาพเผยแพร่บนสื่อออนไลน์ด้วยว่า ปฏิบัติการเข้ารื้อถอนของเจ้าหน้าที่ มีการนำชุดปฏิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพร พร้อมอาวุธครบมือปะปนอยู่ด้วย

แม้ว่าเจ้าหน้าที่มีคำสั่งยกเลิกภารกิจในการเข้ารื้อถอนแล้ว แต่ก็ยืนยันที่จะมาดำเนินการรื้อถอนอีก  

ภาพจากเมื่อ 29 ส.ค. 2565 ชาวม้ง รวมตัวปิดทางเข้าพื้นที่ม่อนแจ่ม เพื่อกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง บ้านเรือน และโฮมสเตย์ของพวกเขา

สำนักข่าว The Reporters รายงานวันนี้ (1 ก.ย.) ที่อาคารรัฐสภา ณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ สัดส่วนกลุ่มชาติพันธุ์ พรรคก้าวไกล และที่ปรึกษาคณะกรรมการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ในฐานะที่เป็นคนม้ง เห็นภาพเจ้าหน้าที่หลายร้อยอาวุธครบมือเข้าไปลุยชาวบ้าน ราวกับชาวบ้านม้งทำผิดกฎหมายร้ายแรง เห็นแล้วไม่สบายใจอย่างยิ่ง เนื่องจากในรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 70 ได้บัญญัติชัด ให้รัฐมีหน้าที่พึงส่งเสริมและให้ความคุ้มครองชาวไทยกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ แต่กลับพบเจ้าหน้าที่สร้างความเดือดร้อนและความตื่นตระหนกกับชาวไทยเชื้อสายม้ง 

ณัฐพล กล่าวว่า ชุมชนม้ง ม่อนแจ่ม อยู่อาศัยและทำกินมาตั้งแต่อย่างน้อย พ.ศ. 2447 มากกว่าร้อยปีแล้ว ก่อนมีการประกาศใช้กฎหมายเกี่ยวกับที่ดินและป่าไม้ ชาวบ้านมีสัญชาติไทย มีเลขที่บ้าน มีผู้ใหญ่บ้าน โดยอยู่และทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้รับการส่งเสริมจากทางรัฐในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นวิสาหกิจชุมชน และชุมชนชาวบ้านก็สามารถจัดวิสาหกิจชุมชนได้เป็นอย่างดีในหลายรูปแบบและในรูปโฮมสเตย์ แต่มาวันนี้กลับจะมาทำลายสิ่งที่รัฐร่วมสร้างมากับชุมชน โดยอ้างว่าจะให้ชุมชนทำได้เพียงการปลูกผักเท่านั้น 

ณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างเรียกร้องไปถึงรักษาการนายกรัฐมนตรีและทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในการเข้าไปดูแลช่วยเหลือให้กลุ่มชาติพันธุ์ให้สามารถอยู่อาศัยและทำกินได้อย่างสงบสุข หยุดการบุกรื้อทำลายบ้านเรือนของชาวม้ง และตรวจสอบเจรจาหาข้อเท็จจริงตลอดจนทางออกเพื่อให้ชาวบ้านม้งสามารถดำรงชีวิตอย่างปกติสุข 

ภาพ มีการนำชุดปฏิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพร พร้อมอาวุธครบมือปะปนอยู่

ด้านสุรพงษ์ กองจันทึก ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งกันระหว่างหน่วยงานของรัฐที่อ้างว่า ชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ทำผิดกฎหมาย แต่ชาวบ้านโต้แย้งว่าไม่ได้ทำผิด เนื่องจากอยู่อาศัยและทำกินมาก่อน เป็นปัญหากันมาตลอด ปัจจุบันมีชาวบ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าหลายพันชุมชน กระทบกับคนนับล้าน 

สุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อแก้ไขปัญหานี้เมื่อ 3 ส.ค. 2553 เรื่องแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง และให้ใช้กับกลุ่มชาติพันธุ์อื่นที่มีปัญหาคล้ายคลึงกัน โดยให้ยุติการจับกุมและให้ความคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์ ในกรณีที่เป็นพื้นที่ชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม และมีปัญหาเป็นพื้นที่พิพาทกับรัฐ และตั้งกรรมการเข้ามาตรวจสอบ ต่อมา มีเจ้าหน้าที่อุทยานเข้าไปเผาทำลายบ้านและทรัพย์สินของปู่คออี้ และชาวบ้านกะเหรี่ยงที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ศาลปกครองสูงสุดได้ออกมายืนยันว่า การที่เจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามมติ ครม. 3 ส.ค. 2553 เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

สุรพงษ์ กล่าวว่า จึงเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายและตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดตลอดจนมติ ครม. 3 ส.ค. 2565 หากพบชาวบ้านบุกรุกใหม่ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ไม่ใช่การใช้อำนาจและกำลังเข้ามารื้อถอนทำลายโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม แต่หากพบว่าชาวบ้านอยู่ทำกินมาก่อนก็ต้องออกเอกสารสิทธิในที่ทำกินให้ชาวบ้าน 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net