Skip to main content
sharethis

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การส่งเสริมกิจการโคนม ยื่นหนังสือ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจฯ ค้านการอนุญาตนำเครื่องหมายการค้า 'ไทย-เดนมาร์ค' ให้เอกชนใช้ - 'มนัญญา' ยืนยันไม่มีใครเอาแบรนด์ไปขายได้ เตรียมสอบถาม ผอ.อ.ส.ค. ว่ากระแสข่าวนี้ออกมาได้อย่างไร แต่ในฐานะที่กำกับดูแลยังไม่เคยเห็นเรื่องนี้

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2565 เว็บไซต์สยามรัฐ รายงานว่าที่รัฐสภา นายจิรายุ  ห่วงทรัพย์  ประธานคณะ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน และคณะ  รับยื่นหนังสือจาก น.ส.ณัฐภร  แก้วประทุม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (สร.อ.ส.ค.)  และคณะ เรื่อง ขอคัดค้านการอนุญาตนำเครื่องหมายการค้า "ไทย-เดนมาร์ค" ให้เอกชนใช้ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมผงสำหรับทารก ตามที่ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ได้แต่งตั้งคณะทำงานบริหารจัดการโครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์นมผงตามคำสั่ง อ.ส.ค. ที่ 271/2565 ลงวันที่ 15 มิ.ย. 2565 เพื่อพิจารณาการอนุญาตให้บริษัทเอกชนต่างชาติใช้เครื่องหมายการค้า "ไทย-เดนมาร์ค" และ อ.ส.ค. ได้เสนอคณะกรรมการ อ.ส.ค. รับทราบ ในวันที่ 26 ต.ค. 2565 ในการประชุมคณะกรรมการฯ ในครั้งนั้น   สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจฯ ได้พิจารณาร่วมกันแล้วมีความเห็นว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการ ดังนี้

1. การดำเนินการเพื่ออนุญาตให้บริษัทเอกชนต่างชาติใช้แบรนด์ "ไทย-เดนมาร์ค" ไม่สอดรับกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง อ.ส.ค. เนื่องจากเครื่องหมายการค้าตรา "ไทย-เดนมาร์ค" เป็นสินทรัพย์ของ อ.ส ค. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทย 

2. การดำเนินการเพื่ออนุญาตให้บริษัทเอกชนต่างชาติใช้แบรนด์ "ไทย-เดนมาร์ค" อาจจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทนมผงเอกชนข้ามชาติ จนส่งผลกระทบต่อตลาดนมในภาพรวมของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมของไทย และอ.ส.ค.

3. การดำเนินการเพื่ออนุญาตให้บริษัทเอกชนต่างชาติใช้แบรนด์ "ไทย-เดนมาร์ค" ไม่อยู่ในอำนาจ ของ อ.ส.ค. ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง อ.ค.ส.

4. การดำเนินการเพื่ออนุญาตให้บริษัทเอกชนต่างชาติใช้แบรนด์ "ไทย-เดนมาร์ค" อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับเดนมาร์ค และบิดเบือนเจตนารมณ์ของความร่วมมือทางวิชาการด้านการส่งเสริมกิจการโคนมของทั้ง 2 ประเทศ ที่มีมาอย่างยาวนาน

5. อ.ส.ค. ควรทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นกลไกสำคัญในการดูแลปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทยเป็นหลัก พัฒนาศักยภาพและยกระดับการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน และการรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์โคนมในการเสริมสร้างความมั่นคงในอาชีพ ดังนั้น ขอให้คณะ กมธ. ช่วยชะลอการให้เอกชนเอาแบรนด์ “ไทย-เดนมาร์ค” ของ อ.ส.ค. ไปร่วมทุนโดยให้มีการนำเสนอเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการ อ.ส.ค. ก่อนและต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ต่อไป

นายจิรายุ  ห่วงทรัพย์  กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุมคณะ กมธ. และจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมชี้แจง เพื่อช่วยกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป

'มนัญญา' ยืนยันไม่มีใครเอา 'ไทย-เดนมาร์ค' ไปขาย

5 พ.ย. 2565 สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น รายงานว่านางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร รับตรวจสอบกระทรวงเกษตรฯ นำแบรนด์นมตราไทย-เดนมาร์ค ให้บริษัทเอกชนต่างชาติ ผลิต-จำหน่าย โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ตนเองสงสัยว่า การที่จะตรวจสอบเรื่องจุดเริ่มต้นมาจากตรงไหน แต่ชั่วโมงนี้เป็นชั่วโมงสุดท้ายก่อนของเลือกตั้ง อะไรที่จะฉกฉวยมาโจมตีกัน ตนมองว่า มันไม่แมน อย่าทำตัวเหมือนพวกเคี้ยวหมากฝรั่งเอาความหวานเก็บไว้กับตัวเองแล้วคายกากให้คนอื่น

นางสาวมนัญญา ระบุว่า เรื่องนี้ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย หรือ อ.ส.ค. กำกับดูแลอยู่ มีประธานบอร์ดและคณะกรรมการอีกหลายคน ดังนั้นการทำอะไรก็แล้วแต่ไม่สามารถทำได้เพียงคนเดียว และทุกอย่างมีกฎระเบียบ ข้อบังคับคนพูดต้องศึกษารายละเอียดทุกตัวหนังสือก่อนที่จะพูด จะมาพูดแล้วตีกินแบบนี้อาจจะใช้กับคนอื่นได้ แต่ใช้กับรัฐมนตรีมนัญญาไม่ได้

พร้อมยืนยันว่าไม่มีใครเอาไทย-เดนมาร์ค ไปขาย อย่าพูดเอาสนุก แล้วไปเกี่ยวโยงกับทางการเมือง เพราะเป็นเรื่องของเกษตรกร ที่เราต้องดูแลอีกมากมาย อย่าทำให้เขาเกิดความหวั่นไหวหรือ เกิดความไม่มั่นใจกับไทย-เดนมาร์คและตอนนี้กำลังต่อสู้ว่าปี 2568 จะต้องมีนมผงเข้ามา และหากจะคิดหรือทำสิ่งใดก็แล้วแต่ประโยชน์จะต้องตกอยู่ที่ อ.ส.ค. ไม่มีใครสามารถเอาแบรนด์ไทย-เดนมาร์คไปได้ พูดกันไปเรื่อย

ส่วนเรื่องขายแบรนด์ให้ต่างชาติจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และเรื่องนี้จะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่นั้น นางสาวมนัญญา ระบุว่าขอไปสอบถาม ผอ. อ.ส.ค. ก่อนว่าจุดเกิดเหตุมาจากตรงไหน และมีกระแสข่าวนี้ออกมาได้อย่างไร แต่ในฐานะที่กำกับดูแลยังไม่เคยเห็นเรื่องนี้ แต่เชื่อว่า อ.ส.ค. จะไม่ทำอะไรที่ทำร้ายตัวเอง ซึ่งก็พร้อมจะชี้แจงต่อกรรมาธิการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net