Skip to main content
sharethis

กลุ่มราษฎรบ้านแก้ง-บ้านโนนคำเผยถูกคุกคามหลังร้องเรียนโครงการโรงไฟฟ้ากังหันลมทับที่ทำกิน ระบุมีผู้รู้ข้อมูลผู้ยื่นหนังสือร้องเรียน ทั้งที่การยื่นหนังสือร้องเรียนต้องเป็นความลับเพื่อปกป้องสิทธิของผู้ร้องเรียนและป้องกันการคุกคามจากคู่ขัดแย้ง 


ภาพชาวบ้านยื่นหนังสือกับจังหวัดมุกดาหารขอคัดค้านโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันลม เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2565

26 พ.ย. 2565 กลุ่มราษฎรบ้านแก้ง-บ้านโนนคำ แจ้งข่าวว่าชาวบ้าน ต.คำป่าหลาย อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร ต้องลุกฮือขึ้นอีกครั้ง หลังถูกไล่รื้อที่ดินทำกินจากนโยบายทวงคืนผืนป่า เพื่อนำไปทำเหมืองแร่ ทำให้ชาวบ้านต้องออกมาต่อสู้คัดค้าน และเรียกร้องให้เกิดการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน เพราะการไล่รื้อที่ดินของชาวบ้านในพื้นที่ ไม่เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมาย

แต่ในขณะที่กระบวนการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกินของชาวบ้านกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีการตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดและมีความเห็นให้ชาวบ้านเข้าไปทำกินได้ก่อนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ที่ไม่ได้ทำกินในที่ดินตัวเองมากว่า 5 ปีนั้น กลับมีโครงการโรงไฟฟ้ากังหันลม เข้ามาทับที่ทำกินอีกครั้ง โดยในรอบนี้มีผู้ได้รับผลกระทบจากหลายหมู่บ้าน

กลุ่มราษฎรบ้านแก้ง-บ้านโนนคำ ระบุว่าชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการมีการรวมตัวกันยื่นหนังสือคัดค้านไปยังหน่วยงานต่างๆ เพราะนี่ไม่ต่างอะไรจากการซ้ำเติมชาวบ้านในพื้นที่ โดยยื่นขอให้มีการทำประชาคม และต้องมาชี้แจงข้อมูลของโครงการให้ชาวบ้านทราบให้ชัดเจน เนื่องจากตอนนี้การรับรู้ข้อมูลโครงการกังหันลม รับรู้เฉพาะหน่วยงานราชการเท่านั้น

ช่วงกลางเดือน พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา มีการยื่นหนังสือต่อ เทศบาลตำบลคำป่าหลาย ขออย่าให้มีมติเห็นชอบต่อโครงการเพราะมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน แต่ทางเทศบาลยืนยันเดินหน้าต่อ ยกมือผ่านมติโดยไม่ฟังเสียงชาวบ้าน จึงมีการยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกรมป่าไม้ เพื่อให้ยุติกระบวนการ และมาเริ่มกระบวนการใหม่ด้วยการแจ้งข้อมูลให้ชัดเจน กันพื้นที่ทำกินของชาวบ้านออก และมีการประชาคมตามกฎหมาย

กลุ่มราษฎรบ้านแก้ง-บ้านโนนคำ ระบุว่าแต่สิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่คือ มีการตระเวนตามหาคนที่ลงชื่อในหนังสือร้องเรียน เพื่อข่มขู่ให้ถอนหนังสือ รวมทั้งมีการระบุว่าหากชาวบ้านยังไม่หยุดก็จะมีการฟ้องเป็นคดี

โดยกลุ่มราษฎรบ้านแก้ง-บ้านโนนคำ ระบุว่ามีการข่มขู่คุกคาม รวมถึงตั้งคำถามว่ารู้รายชื่อของผู้ยื่นหนังสือร้องเรียนได้อย่างไร เพราะการยื่นหนังสือร้องเรียนต้องเป็นความลับ เพื่อปกป้องสิทธิของผู้ร้องเรียน เพื่อป้องกันการคุกคามจากคู่ขัดแย้ง แต่หนังสือร้องเรียนของชาวบ้านคำป่าหลายมีผู้รู้ข้อมูลทั้งหมด ทั้งที่เอกสารที่ยื่นหน่วยงานแต่ละฉบับไม่ได้ใช้ผู้ลงลายมือชื่อคนเดียวกัน ซึ่งเป็นมาตรการไม่ให้ใครคนใดคนหนึ่งตกเป็นเป้าหมายการคุกคาม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net