Skip to main content
sharethis

กกต. เปิดศูนย์ต้านข่าวเท็จ รวบรวมข้อมูลที่กระทบภาพลักษณ์ ชี้แจง และสร้างความเข้าใจประชาชน แย้ม 1-2 วันนี้จะเปิดข่าวใหญ่ อาจสะเทือนพรรคการเมือง

 

2 พ.ค. 2566 เฟซบุ๊ก Voice TV รายงานวันนี้ (2 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปกรณ์ มหรรณพ และ ฐิติเชษฐ์ นุชนาฎ คณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดศูนย์ปฏิบัติงานคณะกรรมการต่อต้านข่าวเท็จ โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ กกต. และสำนักงาน กกต. และเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. รวมถึงสำนักงาน กกต.ให้ประชาชนรับทราบและเกิดความเชื่อมั่น ศรัทธา ในการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.

ฐิติเชษฐ์ กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ของ กกต.มีความจำเป็น เพราะบางข่าวไม่จำเป็นจะต้องเอาเข้าเสนอ กกต. คณะกรรมการด้านการข่าวจากส่วนที่จัดตั้งขึ้น มีอำนาจเด็ดขาดที่จะแก้ไขข่าวที่เกิดขึ้น และรายงานให้กับ กกต.ทราบภายหลัง เพราะถ้าข่าวสารที่มาเป็นข่าวเท็จ ไม่เป็นความจริง จะต้องมีการแก้ไขข่าวให้ถูกต้องทันทีก่อนที่จะแพร่หลาย ซึ่งในการเลือกตั้งปี 2562 จะพบเจอกับข่าวเท็จจำนวนมาก อะไรที่เป็นข่าวเท็จข่าวปลอม ก็ได้มีการแจ้งความดำเนินคดี และพนักงานสอบสวนก็นำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ศาลก็มีคำพิพากษาผู้กระทำความผิดเหล่านั้น

ปกรณ์ มหรรณพ (ที่มา: เฟซบุ๊ก สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง)

ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งปี 2566 ก็น่าจะมีข่าวเท็จเกิดขึ้นเช่นเดียวกับปี 2562 เพราะยังมีกลุ่มคนที่ไม่หวังให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความราบรื่น ฉะนั้นปี 2566 ขณะนี้มีข่าวที่ไม่เป็นความจริงเผยแพร่ในโซเชียลจำนวนมาก ซึ่ง กกต. จะแจ้งไปที่ต้นทางให้มีการแก้ไข 

อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้คาดว่าจะมีข่าวปลอมเกิดขึ้นไม่มากนัก เพราะเนื่องจาก กกต. จะตั้งกำแพงไว้ว่า ข่าวเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นก็จะเกิดขึ้นน้อยที่สุด หรือจะดำเนินคดีหากว่าผู้ให้ข่าวนั้นเป็นผู้ไม่ประสงค์ดีกับการทำงานของ กกต. แต่ทั้งนี้ กกต. จะดำเนินคดีกับข่าวที่เป็นต้นตอหรือเป็นข่าวสำคัญ และส่งผลให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมเท่านั้น จะไม่ดำเนินคดีกับข่าวเล็กน้อย แต่จะมีเพียงตักเตือน 

ปกรณ์ กล่าวชี้แจงบางข่าวที่เกิดขึ้นว่า เรื่องแรกคือการยุบพรรคติดเทอร์โบ โดยระบุว่า กกต. ออกระเบียบตามที่กฎหมายให้ทำ แต่สื่อมวลชนได้มีการตั้งชื่อแบบนั้น จึงอยากทำความเข้าใจว่า อำนาจของเลขาธิการ กกต.สามารถทำเรื่องให้รวดเร็วได้ แต่ไม่มีกำหนดเวลาการสืบสวนไต่สวน เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคที่ถูกกล่าวหายื่นพยานหลักฐานและให้ถ้อยคำกับ กกต. และต่อสู้อย่างเต็มที่ 

ไม่มีการแบ่งเขตตามใจ

ส่วนข่าวเรื่องการแบ่งเขต ขอยืนยันไม่มีการแบ่งเขตตามใจ ซึ่งศาลปกครองสูงสุดตัดสินทั้ง 5 คดีว่า กกต.ออกระเบียบโดยชอบ ทำตามกฎหมายถูกต้องแล้ว กกต.จะต้องจัดทำโดยภาพรวมเพื่อบรรลุหลักเกณฑ์ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ การทำงานของ กกต.ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย 

แจงบัตรเลือกตั้งทำตามข้อกฎหมายทุกอย่าง

ส่วนกรณีข่าวเรื่องบัตรเลือกตั้ง กกต. ไม่ได้เป็นผู้กำหนด แต่อยู่ในข้อกฎหมายทุกอย่าง พร้อมยกคำพูดของ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ที่ว่า "ถ้าพรรคการเมืองไม่สามารถทำให้ ประชาชนจำหมายเลขของพรรคท่านได้ แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนมาบริหารประเทศ" 

พิมพ์บัตรเกิน เพราะต้องสำรอง

ส่วนการพิมพ์บัตรเกินในข่าวบอกว่าเกินไป 7 ล้านใบ แต่ความจริง กกต. พิมพ์เกินเพียง 4-5 ล้านใบ เพราะการพิมบัตรต้องพิมพ์เป็นเล่ม เล่มละ 20 ใบ ซึ่งแต่ละหน่วยต้องสำรองหน่วยละ 1 เล่ม เป็นการสำรองเผื่อไว้สำหรับกรรมการประจำหน่วย (กปน.) และผู้รักษาความสงบอาจจะใช้สิทธิที่หน่วยนั้น 

นอกจากนี้ ยังมีการสำรองไว้เผื่อเกิดความผิดพลาดในการพิมพ์ เช่นบางเล่มมี 18 ใบ ไม่ครบ 20 ปัญหาสำคัญที่น่าจะคิดมากกว่าคือ เราจะไม่มีการทุจริต ทันทีที่นับคะแนนเสร็จจะรู้ทันทีว่าบัตรใช้ไปเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ ป้องกันการผิดพลาดเกิดขึ้นได้แต่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการทุจริต ขอให้มั่นใจว่า กกต.ไม่มีการทุจริต ตนขอให้สัญญาและคำมั่นเรื่องใดที่ไม่ถูกต้อง จะแจ้งให้ทราบทันที พร้อมย้ำตลอด 4 ปีที่ทำงาน ไม่เคยมีประวัติที่ไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรม การแถลงข่าวของคณะกรรมการด้านข่าวจึงมีความจำเป็น 

"ต้องยอมรับว่าบางเรื่องมีอ่อนไหวมาก แต่เราก็อดทนและพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้เป็นคดี บางเรื่องด่าเราว่าเราด้วยคำหยาบแต่เราก็มีมติไม่ดำเนินคดี เราจะอดทนและขอใช้ช่องทางการสื่อสารขององค์กรชี้แจง" ปกรณ์ กล่าว 

พร้อมยกตัวอย่างคำพูด ในการดีเบตของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล และ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย ที่มีลักษณะคล้ายกันว่า ในการเลือกตั้งปี 2562 กกต.เปลี่ยนแปลงสูตรการคำนวณบัญชีรายชื่อ" เรื่องนี้ศาลก็ได้ พิพากษาแล้วว่า กกต. ทำงานโดยชอบด้วยกฎหมาย

ข้อมูลดังกล่าว กกต.ได้รวบรวมไว้หมดแต่ยังไม่ได้มีการนำมาพิจารณา เพราะไม่อยากให้มีผลอย่างหนึ่งอย่างใดกับการเลือกตั้งของพรรคการเมืองได้ จึงจะนำมาพิจารณาภายหลังจากการเลือกตั้ง และจึงจะมีมติออกมา

นอกจากนี้ ปกรณ์ ยังกล่าวว่า ในอีก 1-2 วันนี้ กกต. จะเปิดเผยมติบางอย่างออกมา โดยผู้สื่อข่าวพยามสอบถามว่า มติดังกล่าวจะมีผลอย่างหนึ่งอย่างใดกับพรรคการเมืองหรือไม่ ปกรณ์ ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบคำถาม

ไปต่างประเทศเพื่อไปร่วมปฏิบัติหน้าที่กับ กต.

ส่วนเรื่องดูงานต่างประเทศนั้น ปกรณ์ กล่าวว่า ถ้า กกต.ไม่ไป จะเกิดปัญหาหลายเท่า เราไม่ได้ไปดูงาน เราไปปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งก็พบปัญหาหลายที่ และได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว

ปกรณ์ มหรรณพ (ที่มา: เฟซบุ๊ก สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net