ผลศึกษาของสหภาพแรงงานระดับโลก UNI Global Union ที่สำรวจพนักงานความสะอาด 2,500 คนใน 32 ประเทศ พบการอดนอนเป็นปัญหาสำคัญโดยเฉพาะคนทำงานกะกลางคืน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
9 มิ.ย. 2566 การสำรวจพนักงานความสะอาด 2,500 คนใน 32 ประเทศ จาก 6 ทวีป ซึ่งจัดทำโดย UNI Global Union เผยให้เห็นถึงความท้าทายที่สำคัญ ที่พนักงานทำความสะอาดต้องเผชิญ โดยเฉพาะผลกระทบต่อสุขภาพจากการทำงานในเวลากลางคืน ความเป็นอยู่ และการเข้าสังคม
ผลการสำรวจระบุว่าพนักงานทำความสะอาดที่ทำงานในกะกลางคืนจะได้รับผลกระทบหลายอย่างต่อชีวิตของพวกเขา ผลกระทบเหล่านี้รวมถึงความโดดเดี่ยว ความยากลำบากในการรักษาความสัมพันธ์ ชีวิตทางสังคมที่ตึงเครียด ตารางการนอนที่ไม่ดี ความเหนื่อยล้า และผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ
ข้อค้นพบที่สำคัญ:
ข้อเสียของการทำงานกะกลางคืน: พนักงานทำความสะอาดประมาณครึ่งหนึ่งสำรวจการทำงานกะกลางคืน การวิเคราะห์ทางสถิติบ่งชี้ว่าพวกเขาได้รับผลกระทบต่าง ๆ มากกว่ากลุ่มที่ทำงานกะกลางวัน
การอดนอน: เกือบ 70% ของพนักงานความสะอาดกะกลางคืน และมากกว่าครึ่งหนึ่งของพนักงานทำความสะอาดกะเช้าและเย็นรายงานว่านอนหลับไม่เพียงพอ สิ่งนี้เน้นย้ำถึงผลกระทบที่เป็นอันตรายของการเปลี่ยนแปลงต่อรูปแบบการนอนหลับของพนักงานทำความสะอาด
ความกังวลด้านความปลอดภัย: พนักงานทำความสะอาดหญิงราว 45% ที่ทำงานกะกลางคืนระบุว่าว่ารู้สึกไม่ปลอดภัยในที่ทำงาน พวกเธอจำนวนมากเคยประสบกับการถูกล่วงละเมิดในที่ทำงานและระหว่างการเดินทาง โดยมีรายงานการล่วงละเมิดมากกว่า 1 ใน 3
ความขัดแย้งในชีวิตทางสังคมและครอบครัว: พนักงานทำความสะอาดที่ทำงานกะกลางคืนเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างตารางการทำงานกับชีวิตทางสังคมและครอบครัวในอัตราที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพนักงานทำความสะอาด พนักงานทำความสะอาดที่ตอบแบบสอบถามได้เน้นย้ำถึงผลกระทบด้านลบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับลูกและคู่รัก
ขาดทางเลือก: พนักงานทำความสะอาด 7 ใน 10 คน ต้องทำงานเป็นกะที่นอกเหนือจากกะกลางวันเพราะไม่มีทางเลือกอื่น สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าพนักงานทำความสะอาดจำนวนมากถูกบังคับให้ยอมรับกะที่ไม่ใช่ช่วงเวลาวันทำงานปกติ (เข้างานช่วงเช้าเลิกงานช่วงเย็น) เนื่องจากตัวเลือกหรือสถานการณ์ที่จำกัด
เอ็ดดี่ สตัม (Eddy Stam) จาก UNI Global Union กล่าวว่า "เราสนับสนุนการเปลี่ยนมาทำงานในเวลากลางวันในภาคการทำความสะอาดมานานแล้ว โดยตระหนักถึงผลเสียต่าง ๆ ที่มีต่อคนงาน ... การสำรวจนี้ตอกย้ำความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับอุตสาหกรรมในการแก้ไขปัญหาการจัดตารางเวลาและจัดลำดับความสำคัญของสุขภาพร่างกายและจิตใจของพนักงานทำความสะอาด”
ผลสำรวจเผยให้เห็นว่าพนักงานทำความสะอาดส่วนใหญ่ที่ทำการสำรวจทำงานเป็นกะแบบไม่มีวันหยุด เนื่องจากตัวเลือกที่จำกัดหรือแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนายหน้าผู้เป็นตัวกลางหางานให้พนักงานทำความสะอาดมักคิดราคาการทำงานในกะกลางวันที่มีราคาสูง นายจ้างและลูกค้าจำนวนมากจึงไม่ใช้บริการพนักงานทำความสะอาดกะกลางวัน ส่วนคนทำงานเองก็ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องในขณะที่สินค้าบริโภคอุปโภคมีราคาแพงขึ้นเรื่อย ๆ
การสำรวจยังเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกด้านประชากร ซึ่งสะท้อนถึงความหลากหลายภายของพนักงานทำความสะอาด ผู้ตอบแบบสอบถาม 70% ระบุว่าเป็นผู้หญิง ประมาณ 25% ระบุว่ามีสถานะเป็นผู้อพยพในประเทศที่ตนทำงาน และ 20% ระบุว่าเป็นคนผิวสี
UNI Global Union ระบุว่าผลการสำรวจนี้นำเสนอข้อเรียกร้องให้มีดำเนินการสำหรับอุตสาหกรรมการทำความสะอาด โดยกระตุ้นให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและสิทธิของพนักงานทำความสะอาด
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)